ไม่ใช่แค่งานเลี้ยงดินเนอร์หรู แต่คือการทำให้บรรยากาศทุกอณูในงาน “Make a Wish” แคมเปญรีแบรนด์ของ KGroup Private Banking สำหรับลูกค้าระดับที่มีมูลค่าสินทรัพย์ทางการเงินมากกว่า 50 ล้านบาท ประทับใจ ใช้บริการและพร้อมบอกต่อ
เป็นอีเวนต์สำหรับลูกค้าระดับไฮเอนด์ ที่รวมบุคคลระดับ Super Rich ของเมืองไทย ที่กว่าสัปดาห์หลังจากนั้นยังเป็นข่าวทอล์กออฟเดอะทาวน์
บรรยากาศของงานที่จัดเสมือนเป็นนิทรรศการมากว่างานดินเนอร์ธรรมดา เพราะมีงานศิลปะ ผลงานของอาจารย์จักรพันธุ์ โปษยกฤต มีรถคลาสสิกที่หายาก มีกล้องถ่ายรูปยุคโบราณและของสะสม และรูปภาพที่ถ่ายทอดเรื่องราวความสำเร็จของชีวิตมาแสดง และระหว่างดินเนอร์มีเพลงจากวงประสานเสียง “วงสวนพลู” มี “มิวสิกคัลโชว์” เรื่อง “รองเท้าของพ่อ” ที่จ้างค่ายเวิร์คพ้อยท์สร้างสรรค์ให้เฉพาะงานนี้งานเดียวเท่านั้น
ทั้งหมดอยู่ในคอนเซ็ปต์การถ่ายทอดเรื่องราว ความดีงามจากรุ่นสู่รุ่น ตอบอินไซท์ของลูกค้ากลุ่ม Private Banking ที่มีความปรารถนาสูงสุดคือการส่งผ่านทั้งความดีงามและฐานะความมั่งคั่งให้กับรุ่นลูกหลาน ด้วยองค์ประกอบของงานที่สะท้อนไลฟ์สไตล์ที่ลูกค้ากลุ่มนี้เป็น เช่น ความชอบในการสะสมรถ ภาพเขียน งานศิลปะ กล้อง และการเสพความบันเทิงทั้งเพลง และชมละคร
งานนี้ “บัณฑูร ล่ำซำ” ซีอีโอของเคแบงก์ ได้ลงมาเป็นแม่งานเอง พร้อมกับส่งข้อความสำคัญที่โดนใจลูกค้า ตอกย้ำอินไซท์ในแบบที่เรียกได้ว่าเหมือนเพื่อนที่รู้จักกันคุยกัน
“…หลายท่านคงรู้ซึ้งดีว่าการสร้างและสะสมความมั่งคั่งนั้น ต้องผ่านความเหน็ดเหนื่อยแสนสาหัสมาเพียงใด กว่าจะได้คว้าความสำเร็จและยืนหยัดอย่างโดดเด่นเป็นสง่าได้ในวันนี้ แต่การรักษาและสานต่อให้ดำรงคงอยู่นั้น ยากยิ่งกว่า โดยเฉพาะการสืบทอดความสำเร็จจากรุ่นสู่รุ่นนั้น เป็นหัวใจสำคัญที่เจ้าสัวทุกท่านปรารถนาจะเห็นความก้าวหน้าของธุรกิจ อย่างราบรื่นไร้กังวล…”
อีเวนต์จบลงแล้ว แต่สำหรับเคแบงก์กับการรุก Private Banking ยังเป็นเพียงการเริ่มต้น เพราะต้องไม่ลืมว่าสีสันการตลาดช่วยดึงความสนใจของลูกค้าได้แล้ว ความรู้สึกพิเศษได้มาแล้ว ยังมีโจทย์สำคัญต่อไปคือโปรดักต์ที่ต้องตอบสนองความต้องการลูกค้าได้ ซึ่งในที่นี้คำตอบสุดท้ายคือผลตอบแทนการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างแท้จริง
cellpadding=”2″ cellspacing=”2″>
wish
เพื่อซึมซับคอนเซ็ปต์