Grab ตั้งเป้าปี 66 ลดการขาดทุน หารายได้จากกลุ่มธุรกิจ Enterprise เพิ่มมากขึ้น

แกร็บ ประเทศไทย (Grab) ได้แถลงแผนธุรกิจในปี 2566 ซึ่งหลังจากนี้บริษัทจะเน้นในเรื่องประสิทธิภาพของแต่ละธุรกิจ รวมถึงหันมาเน้นการทำธุรกิจแบบ B2B กับองค์กรต่างๆ ซึ่งล่าสุดมีลูกค้าบ้างแล้ว และกล่าวว่าบริษัทจะลดการขาดทุนและเข้าสู่เส้นทางการทำกำไรได้หลังจากนี้

วรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย ได้กล่าวถึงว่าครบรอบ 10 ปีการก่อตั้ง Grab ในประเทศไทย โดยสำหรับปีนี้ทางบริษัทจะเติบโตแบบที่ผ่านมาไม่ได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการใช้โปรโมชันเพื่อเพิ่มลูกค้าและในปีนี้หยุดเรื่องการขาดทุนให้ได้ก่อน โดยในปีนี้บริษัทมีผลประกอบการที่ขาดทุนลดลง

เขาได้กล่าวถึงผลประกอบการในปี 2565 ที่ผ่านมาของกลุ่ม (รวมทุกประเทศในอาเซียน) ว่าจำนวนผู้ใช้งานของ Grab ไม่ได้ลดลง รายได้เติบโต 112% (เป็นรายได้ Net จริงๆ) ขาดทุนลดลง 51% เมื่อเทียบกับปี 2021 และทางบริษัทคาดว่าจะมีกำไรได้ภายในสิ้นปี 2023 นี้ เขาชี้ว่าเป้าหมายของบริษัทแม่ส่งผลทำให้บริษัทลูกในแต่ละประเทศต้องปรับตัวทำให้มีกำไร

ธุรกิจเรียกรถในปีที่ผ่านมา เขาได้ยกรายงานของ Bain Google และ Temasek ที่ได้จัดทำร่วมกัน ชี้ว่าธุรกิจเรียกรถนั้นเติบโตแบบทบต้นปีละ 40% จนถึงปี 2567 ได้ ขณะเดียวกันเขาก็ชี้ว่าตัวเลขการเรียกรถของ Grab เติบโตมากถึง 152% จากปีที่ผ่านมา แม้ว่าไทยจะยังไม่มีนักท่องเที่ยวจีนกลับเหมือนกับช่วงก่อนโควิด-19 ก็ตาม

เขายังชี้ว่าการมีบริการหลายตัวทำให้บริษัทผ่านช่วงเวลาต่างๆ ได้ เห็น Trend นักท่องเที่ยวกลับมาตั้งแต่ครึ่งปีที่แล้ว

ขณะที่ธุรกิจส่งอาหาร (Food Delivery) เติบโต 15% จากปี 2564 ลูกค้ามีปริมาณ Order เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับ 2562 นอกจากนี้ตลาดต่างจังหวัดกำลังเติบโตอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นภูเก็ต เชียงใหม่ ชลบุรี เป็นต้น รวมถึง GrabMart ที่เติบโต 28% เมื่อเทียบกับ 2563 การสั่งปริมาณและราคาต่อ Order เพิ่มขึ้นยังทำให้ผลขาดทุนที่ลดลงด้วย และยังมี Grab Unlimited ที่เป็นบริการ Subscriptions และลูกค้ากว่า 50% เป็น Membership และลูกค้าเหล่านี้สั่งอาหารมากกว่าลูกค้าขาจรมากถึง 3 เท่า

ด้านการเงิน วรฉัตรชี้ว่าส่วนใหญ่ Grab ได้ปล่อยกู้ดอก 0% ให้กับคนขับ เพื่อนำไปผ่อนสินค้า เขายังกล่าวเสริมว่าบริการการเงินคือเหมือนวงจรความสุข ทำยังไงให้คนขับกับร้านอาหารให้ได้เงินเร็วที่สุด เพราะมีคนขับหลายแสนราย  รวมถึงร้านอาหารต่างๆ ที่ต้องใช้เงินวันต่อวัน นอกจากนี้ยังมีบริการอื่นๆ เช่น ประกันภัย ทำให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงบริการเหล่านี้ได้ รวมถึงการเข้าถึงสินเชื่อ ทดแทนการกู้เงินนอกระบบ ทำให้คนขับหรือร้านอาหารสามารถทำงานอย่างมีความสุขได้

ภาพจาก Shutterstock

กลยุทธ์ระยะยาวของ Grab

กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย ได้กล่าวถึงกลยุทธ์ 3P ที่จะนำมาใช้ และเป็นเส้นทางในการเติบโตระยะยาวของบริษัท ได้แก่

Profit เขาชี้ถึงการสร้างผลกำไรนั้นทำให้ บริษัทสามารถยืนได้ในระยะยาว และยังสร้าง Ecosystem ที่ยั่งยืน ไม่ขาดทุน วรฉัตรได้ชี้ว่าช่วงที่ผ่านมาแพลตฟอร์มส่งอาหารขนาดใหญ่จำนวนมากขาดทุนมากแล้วก็ปิดตัวไป ส่งผลทำให้คนตกงานหลายคน รวมถึงร้านอาหารได้รับผลกระทบ ถ้าไม่ยืนด้วยตัวเองให้ได้ก็อาจสร้างผลกระทบต่อคนอื่น

Planet ทำยังไงไม่ให้เป็นปัญหาของสังคม ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ออกแคมเปญ Grab for good สร้างโอกาสในการหารายได้ของคนในสังคม การเข้าถึงแพลตฟอร์มดิจิทัล หรือแม้แต่เรื่องของการรักษ์โลก ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ไปจนถึงการลดใช้ภาชนะพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียว

People วรฉัตรได้กล่าวถึงว่าทำยังไงให้คนรักเรา เขาชี้ว่าการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่การเข้าตลาดหุ้นในสหรัฐอเมริกาคือเน้นเรื่องความโปร่งใส มีธรรมาภิบาล มีการประกอบกิจการที่ดี ซึ่งทุกอย่างเริ่มต้นที่คนทั้งสิ้น

ภาพจาก Shutterstock

 

แผนธุรกิจในปีนี้

วรฉัตร ได้กล่าวถึงแผนธุรกิจของ Grab ประเทศไทยคือ การสร้าง Ecosystem ของแพลตฟอร์มผ่านนวัตกรรมใหม่ๆ และปีนี้เขาเองได้กล่าวว่าบริษัทจะเน้นไปยังบริการสำหรับ Enterprise Services (B2B) ก็คือ Grab for Business และ Grab Ad ซึ่งเป็นบริการโฆษณา

ซึ่งแต่ละบริการย่อยๆ ของ Grab นั้นมีรายละเอียดดังนี้

บริการเรียกรถ จะมีบริการพรีเมี่ยมมากขึ้น เช่น รถราคาแพง หรือ SUV ซึ่งตอบโจทย์คนขับและคนเรียกใช้บริการ ขณะเดียวกันปีนี้ก็เน้นไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยจับมือกับสนามบินใหญ่ๆ ทำให้นักท่องเที่ยวใช้บริการได้สะดวกมากขึ้น รวมถึงมีบริการให้กับนักท่องเที่ยว เช่น สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ใส่เข้าไปยังบริการมากขึ้น และมีบริการแปลภาษาสำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย

นอกจากนี้ Grab จะมีการกลับเข้าไปดูว่า ปริมาณของคนขับรถพอหรือไม่ และหลายประเทศที่เจอเหมือนกันก็คือคนไม่พอ และเข้าไปรับคนขับเพื่อที่จะมีคนขับเพียงพอตามเมืองใหญ่ๆ นอกกรุงเทพฯ เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ ชลบุรี เป็นต้น

ขณะเดียวกันในระบบของแผนที่นั้น Grab สามารถบอกลูกค้าได้ละเอียดมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นตึกต่างๆ มีบอกจุดรับส่ง ซึ่งทำให้ประสบการณ์ของผู้ใช้งานดีขึ้น และยังทำให้ค่าใช้จ่ายโปร่งใสมากขึ้น ขณะที่ความปลอดภัย ก็มีระบบตรวจสอบ เช่น รถจอดนานผิดปกติจะมี Call Center โทรถามว่าเกิดอะไรขึ้น ลดการเกิดปัญหาของลูกค้าที่จะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ปลอดภัย

บริการส่งอาหาร เขากล่าวว่าจะเน้นเรื่องของประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นคนขับที่รออาหารรวดเร็วกว่าเดิม 30% ด้วยการพัฒนาระบบการรองานให้ดีกว่าเดิม และทำให้รายได้ของคนขับต่อชั่วโมงได้มากกว่าเดิม 15% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า นอกจากนี้ยังรวมถึงการขยาย Grab Unlimited รวมทุกบริการของ Grab เข้ามาด้วยในปีนี้

บริการทางการเงิน ตอนนี้มีสินเชื่อครบแล้ว เริ่มให้สินเชื่อร้านอาหารขนาดใหญ่ 500,000 บาทแล้ว ขณะที่สินเชื่อคนขับสามารถผ่อนอยู่บนระบบรายวันที่ดอกเบี้ยต่ำ

Enterprise Business เขาชี้ว่าคือการเอาบริการของ Grab มาให้บริการให้กับบริษัทขนาดใหญ่มากขึ้น จากในอดีตบริษัทต่างๆ ต้องซื้อรถและจ้างคนขับ ที่มาใช้บริการเรียกรถของบริษัทแทน หรือแม้แต่บางองค์กรที่เคยใช้บริการบุฟเฟต์อาหาร ก็มาใช้ Code ของบริษัทให้พนักงานสั่งอาหารเอง ซึ่งลดภาระในการจัดเตรียมอาหารได้

กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทยชี้ว่านอกจากบริการของ Enterprise แล้วก็ยังมีบริการโฆษณา (Grab Ad) ซึ่งบริษัทที่สนใจลงโฆษณาสามารถทำการตลาดกับแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานต่อเดือนมากกว่า 30 ล้านคนได้ โดยตอนนี้บริษัททำงานกับเอเจนซี่โฆษณาอยู่ และชี้ว่าระบบโฆษณาของบริษัทนั้นผูกโลกออนไลน์กับออฟไลน์เข้าด้วยกันได้ ซึ่งมีลูกค้าบางรายได้ใช้บริการแล้ว