นี่ไม่ใช่แค่รถ แต่เป็นที่แฮงเอาต์ความต้องการผู้บริโภคนี้มีอยู่แล้ว เพียงแต่ยังไม่มีค่ายรถยนต์แบรนด์ใดจับมาเป็นจุดขายเพื่อสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย แต่ “ฮุนได” เริ่มแล้ว กับรุ่นVeloster ที่เพิ่งเปิดตัวในงานดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ 2011 เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยราคาจำหน่ายในอเมริกาคิดเป็นเงินบาทแล้วอยู่ที่ประมาณคันละ 5-6 แสนบาท
นอกเหนือจากคุณสมบัติพื้นฐานที่ต้องมีอย่างเรื่องเครื่องยนต์ และการประหยัดน้ำมันแล้ว Veloster ซึ่งเป็นเซ็กเมนต์คอมแพค คูเป้ ยังดีไซน์ให้มี 3 ประตู คือประตูคนขับ ประตูฝั่งผู้โดยสารด้านข้างอีก 2 ประตู เพื่อคนที่นั่งข้างหลังจะได้เข้าออกสะดวก
จากการที่วางกลุ่มเป้าหมายไว้ชัดเจนที่เจนเนอเรชั่น Y ที่สำรวจแล้วพบว่า กลุ่มนี้เมื่อขับรถถึงที่หมาย ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัย ที่ทำงานก่อนเวลา กลุ่มนี้อยากจะอยู่บนรถก่อน โดยมีกิจกรรมอยากทำ เช่น ดูวิดีโอ ฟังเพลง แชร์ภาพ คุยกับเพื่อน ในที่สุดฮุนไดจึงนำเสนอเทคโนโลยีที่มีอุปกรณ์สามารถเสียบกับ Xbox ให้เล่นเกม ดูหนังได้ และยังอัพโหลดภาพ ฟังเพลงได้ ผ่านจอขนาด 7 นิ้ว และเพื่อความปลอดภัยจะเล่นได้เฉพาะเมื่อรถจอดเท่านั้น
นอกเหนือเทคโนโลยีบอกพิกัดที่อยู่แล้ว ยังสามารถสั่งการด้วยเสียง เช่น บอกเพื่อนว่าไปสาย เสียงก็จะถูกแปลงเป็นข้อความส่งถึงหน้าจอมือถือเพื่อนทันที