Bed Bath & Beyond ยื่นล้มละลายเรียบร้อยแล้ว หลังหนี้สินล้นพ้นตัว ดำเนินธุรกิจต่อไปไม่ได้

ภาพจาก Shutterstock

เบด บาธ แอนด์ บียอนด์ (Bed Bath & Beyond) ค้าปลีกของสหรัฐอเมริกาได้ยื่นขอล้มละลายแล้ว หลังจากธุรกิจไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้จากอุปสรรคไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันอันดุเดือดของธุรกิจค้าปลีก ขณะเดียวกันยอดขายสินค้าของบริษัทก็ไม่ได้เติบโตมากนัก รวมถึงหนี้สินล้นพ้นตัวในช่วงที่ผ่านมา

Bed Bath & Beyond ค้าปลีกของสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศยื่นล้มละลาย หลังจากได้ยื่นเรื่องต่อศาลในนิวยอร์กแล้ว โดยปัจจุบันบริษัทมีทรัพย์สินที่ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีหนี้สินที่มากถึง 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

กิจการของ Bed Bath & Beyond เริ่มต้นในปี 1971 ที่ New Jersey และบริษัทมีชื่อเสียงมาจากการจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้าน รวมถึงสินค้าเด็ก และเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในปี 1992 ในปี 2019 บริษัทมีพนักงานมากถึง 62,000 คน

ปัญหาของ Bed Bath & Beyond ในช่วงที่ผ่านมาเหมือนกับค้าปลีกหลายรายที่ล้มหายตายจากก็คือ ไม่สามารถแข่งขันทางธุรกิจกับคู่แข่งรายอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นคู่แข่งค้าปลีกอย่าง Walmart หรือ Target ไปจนถึงคู่แข่งผ่านช่องทางออนไลน์อย่าง Amazon จนทำให้ยอดขายของบริษัทตกลง ส่งผลทำให้หนี้สินของบริษัทพอกพูน

ผู้เชี่ยวชาญค้าปลีกได้กล่าวกับ CBS สื่อในสหรัฐอเมริกาว่า นอกจากปัญหาทางธุรกิจแล้ว บริษัทยังดำเนินการบริหารผิดพลาด เช่น การซื้อหุ้นบริษัทคืนมากเกินไป การปรับตัวให้เข้ากับ E-commerce ช้าเกินไป หรือแม้แต่การผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ตัวเองที่น้อยเกินไป

นับตั้งแต่ต้นปี 2023 ค้าปลีกรายดังกล่าวได้ปิดสาขาไปแล้วกว่า 87 สาขา ขณะที่ในปี 2022 ที่ผ่านมาบริษัทได้ปิดสาขาไปแล้ว 150 สาขา เพื่อที่จะเก็บเงินสดไว้มากที่สุด รวมถึงการเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการล้มละลาย แต่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการล้มละลายได้

หลังจากที่บริษัทได้ยื่นล้มละลายแล้วนั้น บริษัทจะกู้เงินจากกองทุน Sixth Street Specialty Lending ด้วยเม็ดเงิน 240 ล้านเหรียญสหรัฐ

ทำให้ปัจจุบัน Bed Bath & Beyond เหลือสาขา 360 สาขาและ Buy Buy Baby อีก 120 สาขาเท่านั้นที่ยังเปิดให้บริการปกติ และอาจต้องมีการขายธุรกิจหรือทรัพย์สินออกมา เพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจหลังจากนี้ หรือแม้แต่การขายกิจการทั้งหมด

ที่มา – CBS News, NBC News