เป็นพ่อค้าต้องปรับตัว! ‘เครือสหพัฒน์’ พร้อมตอบรับนโยบายใหม่รัฐ แย้มมีแผน “ลงทุนมากสุดเป็นประวัติการณ์”

เชื่อว่าคนไทยคุ้นเคยกับสินค้าของ เครือสหพัฒน์ เป็นอย่างดี โดยเฉพาะ มาม่า, ขนมปังฟาร์มเฮ้าส์, ผงซักฟอกเปา หรือในกลุ่มแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่น เช่น Wacoal, Guy Laroche, Arrow รวม ๆ แล้วมีแบรนด์ในเครือกว่า 300 แบรนด์เลยทีเดียว ดังนั้น ความเห็นถึงการมาของ รัฐบาลใหม่ ของ เจ้าสัวบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา จึงเป็นสิ่งที่หลายคนจับตา

เป็นพ่อค้าต้องปรับตัวได้หมด

บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ และผู้บริหารเครือสหพัฒน์ กล่าวถึงประเด็นเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงนโยบายด้านเศรษฐกิจ ว่า เราเป็นพ่อค้าต้องสามารถปรับตัวได้กับทุกรัฐบาล โดยเรื่องสำคัญสุดของรัฐบาลใหม่คือ การ พัฒนาเศรษฐกิจ แต่ไม่ใช่แค่การขึ้นค่าแรงด้านเดียว ต้องเน้นพัฒนาให้คนไทยมีการศึกษา ให้คนไม่ว่างงาน โดยเฉพาะด้านการเกษตรถ้าทำให้ราคาดีขึ้น คนก็ไม่ต้องเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ

ทั้งนี้ ถ้าขึ้นค่าแรงอาจกระทบการท่องเที่ยว แรงงานต่างชาติอาจทะลัก นอกจากนี้ อาจกระทบการลงทุนจากต่างชาติ อย่างตอนนี้การผลิตเสื้อผ้าไม่ต้องขึ้นค่าแรงก็ย้ายไปเวียดนามหมดเเล้ว

“เราเป็นพ่อค้า พ่อค้าต้องปรับตัวได้กับทุกรัฐบาล อย่างถ้าค่าแรงสูงขึ้น เราก็ต้องทำให้ภายในมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ให้ของไปขึ้นราคาตามค่าแรง การค้าขายยากขึ้นทุกปี ไม่มีง่ายเลย อยู่ที่เราปรับตัว ถ้าเราปรับตัวทันเหตุการณ์ก็เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส”

อายุไม่เกี่ยว คนรุ่นใหม่ยิ่งเก่งกว่าคนรุ่นเก่า

เจ้าสัวบุณยสิทธิ์ มองว่า เรื่องอายุไม่เกี่ยวกับการเป็นนายก เพราะปัจจุบันนายกในหลายประเทศเป็นคนรุ่นใหม่เยอะ หรือผู้หญิงก็ขึ้นมาเป็นนายกได้ ขณะที่เครือสหพัฒน์เองก็ผลักดันคนรุ่นใหม่มาทำงาน เพราะคนรุ่นใหม่จะมีไอเดียใหม่ ๆ และทำอะไรเร็วขึ้น อย่างเรื่องเทคโนโลยีเอไอ บิ๊กดาต้า วัยรุ่นก็เก่งกว่า แต่อยากให้มีความรอบคอบ และลงให้ลึก อย่าทำแค่ผิวเผิน

“ตอนนี้คนรุ่นใหม่ทำงานไม่เป็นห่วงเลย เพราะเขาเก่งกว่าคนรุ่นเราอีก และการทำเร็วตัดสินใจเร็วนี่ก็เป็นจุดเด่นของเขา ซึ่งจะช่วยพัฒนาบริษัทเราเร็วขึ้น และเหตุการณ์เหล่านี้ถือเป็นบททดสอบว่าคนรุ่นใหม่จะแก้ปัญหาได้หรือเปล่า

แนะเงินเฟ้อยิ่งต้องลงทุน

ในส่วนของการลงทุน เจ้าสัวมองว่า ค่าเงินบาทตอนนี้ยังถือว่าดีอยู่ ถ้ารัฐบาลใหม่เดินทางถูก ค่าเงินบาทก็จะมีเสถียรภาพ แต่ถ้าเดินเศรษฐกิจผิดอาจหลงไปไหนก็ไม่รู้ และในช่วงที่ เงินเฟ้อยิ่งต้องลงทุน เพราะเงินสดอาจไม่มีความหมาย โดยตอนนี้ เครือสหพัฒน์มีแผนลงทุนมากสุดเป็นประวัติการณ์ โดยจะเป็น อุตสาหกรรมใหม่ที่ไม่เคยทำมาก่อน หากเจรจาสำเร็จจะเปิดเผยอีกที

สำหรับภาพรวมของปีนี้ เครือสหกรุ๊ปตั้งเป้าทำรายได้รายได้ มากกว่า 3 แสนล้านบาท ส่วนการขึ้นราคาสินค้าในช่วงสิ้นปีนั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละสินค้า ถ้าเป็นสินค้าที่ต้องใช้วัตถุดิบจากต่างประเทศอาจต้องขึ้น แต่ถ้าผลิตในประเทศก็ยังตรึงราคาไว้ได้