SCB EIC คาด GDP ไทยโตได้ 3.9% กังวลเอลนีโญอาจส่งผลต่อภาคเกษตรหลังจากนี้

ภาพจาก Unsplash

SCB EIC ประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2023 นี้จะเติบโตได้ถึง 3.9% อย่างไรก็ดียังมีข้อกังวลไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเอลนีโญอาจส่งผลต่อภาคเกษตรไทยหลังจากนี้ หรือแม้แต่สภาวะเศรษฐกิจโลกที่เติบโตอ่อนแอที่ส่งผลต่อภาคการส่งออกของไทย

ฐิติมา ชูเชิด ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยด้านเศรษฐกิจและตลาดการเงิน ของ SCB EIC ได้มองว่าเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงมากขึ้น โดยมองว่าเศรษฐกิจโลกปีนี้จะเติบโตได้ 2.1% ปรับลดลงจากเดิมเนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจต้นไตรมาส 2 ออกมาแย่กว่าที่คาดไว้ รวมถึงการฟื้นตัวของภาคการผลิตและภาคบริการยังมีความแตกต่างกันสูง

ขณะเดียวกันช่วงครึ่งหลังของปียังมีความเสี่ยงไม่ว่าจะเป็น มาตรฐานการปล่อยสินเชื่อมีแนวโน้มเข้มงวดขึ้นต่อเนื่อง ความสามารถในการทำกำไรของภาคธุรกิจมีแนวโน้มถูกกดดันทั้งจากอุปสงค์ที่ลดลง เงินเฟ้อและดอกเบี้ยสูง และความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่อยู่ในระดับต่ำลง รวมถึงปัญหาความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มีโอกาสรุนแรงมากขึ้น

ในเรื่องของความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ SCB EIC ได้กล่าวถึงเรื่องของการย้ายฐานการผลิต (Reshoring) หรือแม้แต่การตั้งฐานการผลิตใกล้กับประเทศต้นทาง (Nearshoring) ซึ่งประเด็นดังกล่าวสอดคล้องกับเรื่องของความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมากลุ่ม G-7 ได้ประกาศลดความพึ่งพาประเทศจีน แต่จีนก็ตอบโต้เช่นกัน สอดคล้องกับเม็ดเงินลงทุนที่ไหลเข้าจีนติดลบ แต่เม็ดเงินดังกล่าวได้ไหลออกมาประเทศอื่นๆ

ประเด็นเรื่องของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย SCB EIC คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) น่าจะหยุดการขึ้นดอกเบี้ย อย่างไรก็ดีถ้าการจ้างงานยังเพิ่ม ก็อาจเป็นไปได้ที่จะมีการขึ้นดอกเบี้ยต่อ ในส่วนของประเทศพัฒนาอื่นๆ อย่างอังกฤษอาจขึ้นดอกเบี้ยได้อีก 3 ครั้ง ส่วนของธนาคารกลางยุโรปอาจขึ้นได้อีก 2 ครั้ง

ทางด้านของสภาพคล่องทางการเงินนั้นตอนนี้ SCB EIC มองว่าตอนนี้ลดลงอย่างมาก และญี่ปุ่นกำลังจะเป็นประเทศต่อไปที่อาจลดสภาพคล่องหลังจากนี้

ฐิติมา ชูเชิด – ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยด้านเศรษฐกิจและตลาดการเงิน Economic Intelligence Center (EIC)

เศรษฐกิจไทยยังมองด้านที่ดีต่อเนื่อง

SCB EIC ยังมองว่า GDP ไทยโตที่ 3.9% การท่องเที่ยวยังคาดว่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอาจมาไทยมากถึง 30 ล้านคน และมองว่ารายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติมีโอกาสแตะ 1.27 ล้านล้านบาทได้ จากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าใกล้ค่าเฉลี่ยในปี 2562 มากขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนตลาดแรงงานให้ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะการจ้างงานในภาคบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว

ขณะที่การส่งออกจะถดถอยลงก็ตาม แต่ก็ยังคาดว่าปีนี้ภาคการส่งออกไทยยังเติบโตได้เล็กน้อยได้ โดยคาดการณ์อยู่ที่ 0.5% ซึ่งปรับลดลงจากคาดการณ์เมื่อไตรมาส 1 ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ SCB EIC ยังมองว่าเศรษฐกิจไทยหลังการเลือกตั้งจะยังมีความไม่แน่นอนสูงจากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่และนโยบายภาครัฐ โดยมองในกรณีฐาน ไทยจะได้รัฐบาลใหม่ในช่วงเดือนสิงหาคม คาดว่าจะส่งผลต่อการเบิกจ่ายของรัฐบาลในปีงบประมาณนี้ไม่มากนัก เนื่องจากรัฐบาลได้เร่งเบิกจ่ายงบลงทุนและเร่งอนุมัติโครงการลงทุนไว้ก่อนยุบสภา อย่างไรก็ดีมีความเป็นไปได้ที่การจัดตั้งรัฐบาลใหม่อาจล่าช้าไปถึงปลายเดือนตุลาคม

อีกปัจจัยทางสภาวะแวดล้อมที่อาจกระทบกับเศรษฐกิจไทยได้ก็คือ สภาวะเอลนีโญ ที่ทำให้เกิดสภาวะแห้งแล้งนั้น SCB EIC มองว่าไทยจะมีระดับอ่อนถึงรุนแรงในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 นี้ คาดว่าจะสร้างความเสียหายในภาคเกษตรราว 40,000 ล้านบาท โดยคาดการณ์ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นปีหน้า

ด้านนโยบายการเงินและอัตราแลกเปลี่ยน SCB EIC มองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยจะอยู่ที่ 2.5% ในส่วนค่าเงินบาทนั้นคาดว่าจะแข็งค่าได้ในช่วง 32-33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากปัจจัยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย รวมถึงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง