“ขาว โอโม” เป็นคำพูดติดปาก ที่สื่อสารถึงความรู้สึกที่มีต่อแบรนด์ผงซักฟอกว่าสามารถเซตAwareness ของผู้บริโภคให้เข้าใจจุดเด่นของสินค้าซะจนจำได้ขึ้นใจ มาถึงวันนี้ โอโม ตอกย้ำความเชื่อนั้นอีกขั้นด้วยการเอาความรู้สึกนึกคิดของผู้บริโภคมาทำ OMO Effect แอพพลิเคชั่นบนไอโฟน
กลยุทธ์นี้ถือเป็นการใช้ Branded Application ที่มีเจตนาลิงค์ไปถึงจุดเด่นของแบรนด์โอโม ที่วาง Position ของแบรนด์ในเรื่องความขาวมาโดยตลอด แม้ว่าจะเป็นแบรนด์ผงซักฟอก แต่ด้วยอินไซท์ของกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่ ที่ยังไงคนซื้อผงซักฟอกก็ยังเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชายอยู่ดี การช่วยให้สาวๆ ขาวขึ้นทันตาเห็นผ่านรูปทางโทรศัพท์ก็เป็นที่ถูกอกถูกใจผู้หญิงให้ “ขาวแบบทันตาเห็น” รวดเร็วสมเป็นผู้บริโภคยุคไอโฟน
แอพพลิเคชั่นนี้ใช้งานง่าย โดยเลือกถ่ายภาพผ่านแอพฯ โดยตรงหรือเลือกรูปในอัลบั้มมาตกแต่งให้ขาวได้ 3 แบบ 1.ขาวโอโมแบบสวยใส 2.ขาวขั้นกว่าแบบโอโมพลัส 3.ขาวปรับระดับความโอโมได้เองตามใจ หมายถึงการเลือกปรับ Contrast ของความขาวได้เอง หลังจากตกแต่งรูปเป็นที่พอใจแล้วก็เลือกได้ว่าจะเก็บรูปนั้นไว้ หรือแชร์ผ่ายเฟซบุ๊กได้เลย ที่เด็ดกว่าคือการส่งรูปเข้าประกวด “โอโมท้าโชว์ขาวมั่น” ผ่านเฟซบุ๊ก www.facebook.com/OMOThailand เพื่อชิงรางวัลใหญ่สุดเป็นทองคำ และคนที่ส่งภาพ 300 คนแรกก็จะได้ผลิตภัณฑ์โอโมไปทดลองใช้ จุดเด่นของแอพฯ นี้อยู่ที่ใช้งานง่ายไม่ต่างอะไรกับแอพฯ ถ่ายรูปในไอโฟนอื่นๆ และลิงค์ถึงแบรนด์โอโมได้อย่างกลมกลืน ผู้ใช้งานไม่รู้สึกว่าถูก Hard Sell ขณะเดียวกันก็สร้างความพึงพอใจเพิ่มขึ้นให้กับผู้บริโภคได้
วาทกรรมเรื่อง “ความขาว” กับคนในเอเชียดูจะยังเป็นเครื่องมือที่นักการตลาดหยิบขึ้นมาสื่อสารได้เรื่อยๆ เพราะพูดทีไรก็แทงใจ “ดำ” ได้ทุกที
Branded Application บน “มือถือ”
เดี๋ยวนี้โทรศัพท์มือถือแทบจะกลายเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของคนรุ่นใหม่ หรือเป็นอุปกรณ์ที่ต้องอยู่ในมือตลอดเวลา รวมทั้งสมาร์ทโฟนปัจจุบันก็ทำอะไรได้มากกว่าที่คิด โทรศัพท์มือถือจึงเป็นอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้ชิดติตัวผู้บริโภคมากที่สุด โดยเฉพาะเมื่อมีการศึกษาพบว่าผู้ใช้ 93% ของโทรศัพท์มือถือไอโฟน เข้าไปในแอพฯ สโตร์ และ 73% มีแอพฯ มากกว่า 5 ตัว นั่นหมายถึงผู้บริโภคมีความคุ้นเคยกับการให้แอพพลิเคชั่น เพื่อทำให้ชีวิตสะดวกและสนุกขึ้น
ในต่างประเทศการใช้ Branded App มีเคสที่น่าสนใจมากมาย เช่น Absolute Vodca App แอพฯ ที่บอกสูตรส่วนผสมของเครื่องดื่มต่างๆ เพื่อทำให้นักดื่มรู้ว่าและสนใจ หรือรถ Renault Zero Emission (Z.E.) ที่ทำแอพฯ ผ่าน iPad โดยเปิดเผยมุมมองของคนที่นั่งอยู่ในตัวรถ แล้วให้สัมผัสประสบการณ์แบบ 360 องศาว่าเมื่อนั่งในรถคันนี้แล้วจะเห็นอะไรรอบตัวได้บ้าง และเปลี่ยนจุดหมายที่จะขับไปได้ไกลเกินจินตนาการ เช่น ขับรถในมหาสมุทร
