“NocNoc” โตกระฉูด 150%! ลูกค้าเชื่อมั่นซื้อเฟอร์ฯ ออนไลน์ ลุย B2B เจาะกลุ่มร้านอาหาร-โรงแรม

NocNoc
ภาพจากร้านอาหาร Blackitch Artisan Kitchen
  • ครบรอบ 4 ปี “NocNoc” ออนไลน์มาร์เก็ตเพลสเฟอร์นิเจอร์-ของแต่งบ้าน วางเป้าปี 2566 โตพุ่ง 150% จากปีก่อน ทำยอดขายแตะ 5,000 ล้านบาท
  • ลูกค้าเชื่อมั่นการซื้อเฟอร์นิเจอร์ออนไลน์มากขึ้น จากการเติบโตของอี-คอมเมิร์ซและการผลักดันสร้างแรงบันดาลใจบนแพลตฟอร์ม
  • ปีนี้ลุยต่อในตลาด B2B เจาะกลุ่มร้านอาหาร คาเฟ่ โรงแรม และโครงการอสังหาฯ คาดสัดส่วนลูกค้าธุรกิจขึ้นมาเป็น 50% ของยอดขายรวม

“NocNoc” ครบรอบ 4 ปีการก่อตั้งในไทยพร้อมตัวเลขการเติบโตที่ยังคงก้าวกระโดด “ชลลักษณ์ มหาสุวีระชัย” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบ็ตเตอร์บี มาร์เก็ตเพลส จำกัด เจ้าของแพลตฟอร์ม NocNoc ประกาศเป้าหมายปี 2566 ยอดขายของแพลตฟอร์มคาดว่าจะเติบโต 150% จากปีก่อน ขึ้นไปแตะ 5,000 ล้านบาท และจะทำให้ยอดขายสะสมของ NocNoc ตลอด 4 ปีขึ้นไปถึง 10,000 ล้านบาท

ขณะที่จำนวนผู้ซื้อและผู้ขายบนแพลตฟอร์มเติบโตขึ้นเช่นกัน ปัจจุบัน NocNoc มีทราฟฟิกบนแพลตฟอร์ม 3 ล้านรายต่อเดือน มีผู้ขาย 5,000 ราย พร้อมช่างบริการกว่า 400 ทีม

ทีมงานบริษัท เบ็ตเตอร์บี มาร์เก็ตเพลส จำกัด: (จากซ้าย) ณัฐวดี วงษ์ทศรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยี, ชลลักษณ์ มหาสุวีระชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, อนุพงศ์ ทะสดวก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการค้าและพาณิชย์ และ นภสร ทวีปัญญายศ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ

NocNoc เป็นแพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลสที่เน้นเฉพาะสินค้าสำหรับบ้านและการอยู่อาศัย (Home & Living) เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ของแต่งบ้าน วัสดุก่อสร้าง ก่อตั้งขึ้นภายใต้ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC ก่อนที่ในปีนี้ บริษัท มัสบี จำกัด จะเข้ามาร่วมลงทุน 50% ของเบ็ตเตอร์บีฯ ทั้งนี้ มัสบีเป็นบริษัทร่วมทุนของ กลุ่มบริษัทเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด กับ กลุ่มบริษัทไทยเบฟเวอเรจ

ปัจจุบัน NocNoc เป็นออนไลน์มาร์เก็ตเพลสที่เน้นเจาะกลุ่มสินค้า Home & Living เพียงเจ้าเดียวในไทย โดยแพลตฟอร์มมีการรวบรวมผู้ขายตั้งแต่ระดับแบรนด์ใหญ่ไปจนถึงผู้ผลิต SMEs ในท้องถิ่น และมีสินค้าตั้งแต่ระดับแมสไปจนถึงไฮเอนด์

 

ลูกค้ามั่นใจการซื้อเฟอร์ฯ ออนไลน์สูงขึ้น

หนึ่งในความท้าทายหลักที่หลายคนกังขาการซื้อเฟอร์นิเจอร์ออนไลน์คือ เฟอร์นิเจอร์เป็นสินค้า ‘ของชิ้นใหญ่’ ที่ผู้บริโภคมักจะอยากจับ สัมผัส ทดลองใช้ก่อนจะสั่งซื้อ แต่ความท้าทายนั้นกำลังค่อยๆ หายไปหลังพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน

“อนุพงศ์ ทะสดวก” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการค้าและพาณิชย์ บริษัท เบ็ตเตอร์บี มาร์เก็ตเพลส จำกัด กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ของ NocNoc จะเป็นคนวัย 24-40 ปี ซึ่งคนช่วงอายุนี้เคยชินและเชี่ยวชาญการซื้อสินค้าออนไลน์ โดยเฉพาะหลังผ่านช่วงโควิด-19 ที่ส่งผลให้อี-คอมเมิร์ซเติบโตได้ดี และผู้บริโภคเชื่อมั่นกับการซื้อสินค้าออนไลน์สูงขึ้น จนคนวัยนี้ส่วนใหญ่กล้าที่จะสั่งซื้อเฟอร์นิเจอร์ออนไลน์

“คนวัยนี้จะเชี่ยวชาญการดูรีวิวสินค้า ตรวจสอบคุณภาพของแบรนด์ผู้ผลิตจากการรีวิวออนไลน์ได้” อนุพงศ์กล่าว “รวมถึงเราเองช่วยเพิ่มแรงบันดาลใจให้ลูกค้า ‘เห็นภาพ’ ว่าถ้านำสินค้านี้ไปอยู่ในห้องจริงจะเป็นอย่างไร สินค้าแต่ละชิ้นมารวมกันในห้องแล้วจะเป็นแบบไหน ผ่านแคมเปญออกแบบบ้านที่จัดร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์”

งานอีเวนต์ NocNoc Fair จัดวันที่ 28 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม 2566 ณ ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

นอกจากนี้ ปีนี้บริษัทยังเพิ่มการเปิดตัวในพื้นที่ออฟไลน์ให้มากขึ้น โดยเป็นครั้งแรกที่มีการจัดอีเวนต์​ “NocNoc Fair” เพื่อเข้าถึงลูกค้าที่อาจจะไม่รู้จักแพลตฟอร์ม และเพิ่มประสบการณ์ลูกค้ากับการซื้อเฟอร์นิเจอร์ออนไลน์ เช่น มีระบบ “NocNoc GPT” ให้ทดลองใช้ในงาน ระบบนี้เป็น Gen-AI ที่ช่วยวิเคราะห์และออกแบบบ้านในสไตล์ที่ใช่พร้อมแนะนำสินค้าจริงที่มีขายบนแพลตฟอร์ม, จัดห้องตัวอย่างที่ได้แรงบันดาลใจจาก 3 สาวยูทูเปอร์ช่อง GoyNuttyDream, จัดเสวนาบนเวทีกับอินฟลูเอนเซอร์ และแน่นอนว่ามีการออกร้านจากผู้ขาย 500 ร้านที่จะให้ส่วนลดสูงสุด 80%

NocNoc GPT เทคโนโลยี AI ช่วยค้นหาสไตล์แต่งบ้าน

 

ลุยกลุ่ม B2B ซื้อลอตใหญ่

อีกตลาดหนึ่งที่น่าสนใจคือกลุ่ม “B2B” กลุ่มนี้มีศักยภาพมากเพราะยอดขายสูงต่อหนึ่งคำสั่งซื้อ ทำให้ NocNoc กำลังโหมบุกเต็มที่ผ่านหมวดที่เรียกว่า “NocNoc for Business”

อนุพงศ์กล่าวว่า กลุ่ม B2B ถูกแยกออกเป็น 3 กลุ่มย่อย ได้แก่

กลุ่มที่ 1 กลุ่ม SMEs ผู้ประกอบการรายย่อย เช่น โรงแรม ร้านอาหาร คาเฟ่

กลุ่มที่ 2 กลุ่มลูกค้าโครงการขนาดใหญ่ เช่น คอนโดมิเนียม หอพัก

กลุ่มที่ 3 กลุ่ม B2B2C เป็นระบบพาร์ทเนอร์ผ่านโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อเข้าถึงและเสนอขายต่อลูกค้า end users

NocNoc

สำหรับกลุ่มที่ 2 และ 3 นั้นบริษัทมีการจัดตั้งทีมเซลส์เพื่อเข้าหาลูกค้าโดยตรง แต่กลุ่มที่ 1 คือกลุ่ม SMEs ทั่วไปนั้น จะต้องสร้างแรงบันดาลใจผ่านช่องทางออนไลน์เหมือนกับลูกค้า B2C โดยเก็บอินไซต์ในมุมของผู้ประกอบการ เพื่อเสนอสินค้าและสไตล์ที่เหมาะกับประเภทของธุรกิจนั้นๆ

ปัจจุบันยอดขายจากลูกค้า B2B ปรับขึ้นมาเป็น 30-40% ของยอดขายทั้งหมด และอนุพงศ์เชื่อว่าภายในสิ้นปีนี้ลูกค้า B2B น่าจะเพิ่มสัดส่วนเป็น 50% เนื่องจากตลาดท่องเที่ยวฟื้นตัว ทำให้มีโรงแรม-ร้านอาหารใหม่ๆ หรือรีโนเวตใหม่เพิ่มขึ้นมาก

 

เป้าหมายต่อไป “เพิ่มผู้ขายท้องถิ่น” และ “ทำกำไร”

เป้าหมายต่อไปของ NocNoc คือการเพิ่มผู้ขายจากท้องถิ่น โดยก่อนหน้านี้บริษัทเริ่มบุกโปรโมตแอปฯ ตามหัวเมืองหลักในต่างจังหวัด ได้แก่ ชลบุรี เชียงใหม่ ภูเก็ต นครราชสีมา อุดรธานี และขอนแก่น ซึ่งไม่เพียงแค่โปรโมตกับกลุ่มผู้ซื้อเท่านั้น แต่ต้องการหาผู้ขายจากท้องถิ่นด้วย

โดยหลายๆ จังหวัดเป็นแหล่งผลิตเครื่องเรือนและของแต่งบ้านที่น่าสนใจ แต่อาจจะยังไม่ถนัดการทำตลาดออนไลน์ ทีมงาน NocNoc ต้องการจะสนับสนุนผู้ผลิตเหล่านี้ให้ได้เปิดตลาดร่วมกัน

อีกเป้าหมายหนึ่งคือการทำกำไร ซึ่งอนุพงศ์กล่าวว่าบริษัทคาดการณ์จะทำได้สำเร็จใน 2 ปีข้างหน้า โดยรายได้ปัจจุบันส่วนใหญ่มาจากค่าคอมมิชชั่นร้อยละ 5-10 จากผู้ขาย