“ฝรั่งเศส” เตรียมอุดหนุน “ค่าซ่อมรองเท้า-เสื้อผ้า” ให้ประชาชน สนับสนุนใช้ซ้ำ ลดโลกร้อน

ซ่อม รองเท้า
ภาพโดย Germans Aļeņins จาก Pixabay
รัฐบาล “ฝรั่งเศส” เตรียมใช้นโยบายอุดหนุน “ค่าซ่อมรองเท้าเสื้อผ้า” ให้กับประชาชน เพื่อจูงใจให้ซ่อมแซมใช้ซ้ำ ไม่ทิ้งเสื้อผ้ารองเท้าเก่า ลดภาวะโลกร้อนจากการผลิตสินค้าแฟชั่น

ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 รัฐบาล “ฝรั่งเศส” จะอุดหนุนค่าซ่อมรองเท้า 7 ยูโร (ประมาณ 271 บาท) และค่าซ่อมเสื้อผ้า 10-25 ยูโร (ประมาณ 387-966 บาท) ให้กับประชาชน เป็นระยะเวลา 5 ปีติดต่อกัน

โดยรัฐบาลหวังว่านโยบายนี้จะช่วยจูงใจให้ประชาชนเก็บและซ่อมแซมเครื่องแต่งกายที่ตนเองมีอยู่ มากกว่าจะตัดสินใจทิ้งและซื้อสินค้าใหม่

เหตุที่ต้องมุ่งเน้นมาที่อุตสาหกรรมนี้ เพราะจริงๆ แล้วอุตสาหกรรมผลิตเสื้อผ้าแฟชั่นมีส่วนในการปลดปล่อยคาร์บอนถึง 10% ของโลก ซึ่งมากกว่าการปลดปล่อยคาร์บอนของการบินระหว่างประเทศกับการขนส่งทางเรือรวมกันเสียอีก นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจแห่งสหประชาชาติในยุโรป (UNECE) ยังเคยรายงานด้วยว่า ขยะเสื้อผ้าเก่าที่ถูกทิ้งมีการนำไปฝังกลบถึงปีละ 2.1 หมื่นล้านตัน

ด้วยเหตุนี้ นักกิจกรรมรณรงค์ด้านความยั่งยืนจึงส่งเสริมการ ‘ซ่อมแซม’ เสื้อผ้าว่าเป็นหนึ่งในหนทางลดวิกฤตโลกร้อน และทำให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน ใช้ซ้ำสิ่งที่มีอยู่แล้วและลดขยะ

ซ่อม เสื้อผ้า
ภาพโดย POR_z66l จาก Pixabay

อย่างไรก็ตาม การซ่อมแซมเสื้อผ้าในบางครั้งกลับมีต้นทุนสูงกว่าที่คิด

ข้อมูลจาก Goodwill องค์กรไม่แสวงหากำไรที่เป็นศูนย์กลางสิ่งของรับบริจาค และมีโครงการทำความสะอาด ซ่อมแซมเสื้อผ้าบริจาคมากกว่า 1,000 ชิ้นต่อปี สามารถขายเสื้อผ้าที่ผ่านการซ่อมเหล่านี้ได้มากกว่า 700 ชิ้นต่อปี

Goodwill ระบุว่า พวกเขาขายเสื้อผ้ามือสองเหล่านี้ได้ราคาเฉลี่ย 31 เหรียญสหรัฐต่อชิ้น (ประมาณ 1,072 บาท) แต่ต้นทุนเฉลี่ยในการซ่อมเสื้อผ้ากลับสูงถึงชิ้นละ 34 เหรียญสหรัฐต่อชิ้น (ประมาณ 1,176 บาท) ปัญหาที่ทำให้แพงมักจะมาจากการ ‘ลบคราบ’ บนเสื้อผ้าที่ต้องใช้ทุนสูงมาก

เมื่อต้นทุนการซ่อมแซมสูง จึงทำให้รัฐบาลฝรั่งเศสมีนโยบายอุดหนุนค่าซ่อมเสื้อผ้า และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ออกนโยบายทำนองนี้ เพราะก่อนหน้านี้ในเดือนเมษายน รัฐบาลเคยอุดหนุนลดราคาค่าซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ประชาชน เพื่อลดการทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ โดยเงินอุดหนุนที่ให้นั้นจะให้สูงสุด 30 ยูโร (ประมาณ 1,159 บาท) สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็กที่ไม่ซับซ้อน เช่น เครื่องดูดฝุ่น และสูงสุด 90 ยูโร (ประมาณ 3,478 บาท) สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นใหญ่หรือมีความซับซ้อน เช่น คอมพิวเตอร์

ปัจจุบันฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มีความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับ 12 ของโลก ตามการศึกษาดัชนีผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมของ Yale University ซึ่งมีการศึกษาการดำเนินงานด้านภาวะโลกรวน สุขภาวะทางสิ่งแวดล้อม และพละกำลังด้านระบบนิเวศ ของประเทศ 180 ประเทศทั่วโลก

Source