“ONE Championship” มุ่งยกระดับมวยไทย “ปลอดโต๊ะพนัน” ฝันปั้น “นักมวย” ค่าตัวแรงหลักสิบล้านบาท

ONE Championship
  • ONE Championship มาปักหลักในไทยกับรายการแข่งขันมวยไทย “ONE ลุมพินี” ผลตอบรับ 7 เดือนแรกเรตติงพุ่ง เป็นรายการกีฬาต่อสู้ที่มีผู้ชมสูงสุด ยกระดับมวยไทยให้ “ปลอดโต๊ะพนัน” แข่งขันอย่างยุติธรรม และชมได้ทุกเพศทุกวัย
  • มองในระดับสากล มุ่งเป้าปั้น “มวยไทย” ให้เป็นที่นิยมสูงขึ้น ส่ง “นักมวย” คนไทยเพิ่มค่าตัว หวังแตะหลักสิบล้านบาทให้ได้

หากเป็นผู้ชมที่รักการดูกีฬาน่าจะเคยผ่านหูผ่านตากับโปรโมเตอร์ “ONE Championship” มาบ้าง เพราะปัจจุบัน ONE Championship เป็นรายการอันดับ 1 ในกลุ่มศิลปะการต่อสู้ที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลก และเป็นอันดับ 2 รองจากกีฬาบาสเกตบอล NBA ในฐานะรายการกีฬาที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลก

ผู้ก่อตั้ง ONE Championship คืออดีตครูสอนมวยไทย “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” ก่อนที่เขาจะไปเรียนต่อและทำงานที่สหรัฐอเมริกาในภาคธุรกิจการเงิน แต่ด้วยความฝันและใจรักกีฬาต่อสู้โดยเฉพาะมวยไทย ทำให้เริ่มก่อตั้งสื่อบันเทิงกีฬา ONE Championship จัดรายการแข่งขันศิลปะการต่อสู้หลากหลาย ได้แก่ MMA (Mixed Martial Arts), มวยไทย, คิกบ็อกซิ่ง, ยิวยิตสู และล่าสุดยังจัดแข่ง e-Sports ด้วย

ชาตรี ตรีศิริพิศาล หรือฉายา “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร ONE Championship

ชาตรีเริ่มสร้างการแข่งขันและฐานผู้ชมในต่างประเทศ จนปัจจุบันมีพันธมิตรถ่ายทอดสดผ่านช่องโทรทัศน์และสตรีมมิ่งต่างๆ รวม 180 ประเทศ โดยมีดีลกับสตรีมมิ่งเจ้าใหญ่ต่างๆ เช่น ในสหรัฐฯ เป็นพันธมิตรกับ Prime Video, ในจีนเป็นพันธมิตรกับ Tencent และ iQIYI, ในญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรกับ Abema

“จิติณัฐ อัษฎามงคล” ประธาน วัน แชมเปียนชิพ ประเทศไทย มองว่ากุญแจความสำเร็จของ ONE Championship ในต่างประเทศ คือ การวางคอนเซ็ปต์หลักให้แตกต่างจากรายการกีฬาต่อสู้ที่มีอยู่เดิม ทำให้เป็นทางเลือกใหม่ให้ผู้ชม และได้ฐานผู้ชมที่กว้างขึ้น ไม่ใช่กีฬาที่มีแต่ผู้ชายเฉพาะกลุ่มเท่านั้นที่สนใจ

“เราวางคอนเซ็ปต์ความบันเทิงของเราว่าจะต้องสื่อสารออกไปในเชิงบวก ให้แรงบันดาลใจ ไม่เน้นฉายภาพเลือดสาด เหยียดกัน ทะเลาะกัน ไม่มี ‘Ring Girl’ ที่เน้นขายความเซ็กซี่เข้ามา ภาพรวมจะไม่ใช้แง่มุมเชิงลบดึงคนเข้ามาดู เพื่อให้การแข่งขันนี้เป็นมิตรต่อคนทุกเพศทุกวัย ทุกชาติศาสนา ผู้ปกครองพาเด็กเข้ามาดูได้ คนแถบตะวันออกกลางเปิดดูได้” จิติณัฐกล่าว

รวมถึงเสน่ห์อีกส่วนหนึ่งของ ONE Championship คือมุ่งมั่น “การปั้นนักสู้ให้เป็นสตาร์” นักสู้บนสังเวียนไม่ใช่แค่ขึ้นไปสู้ แต่ต้องมีการสร้างคาแรกเตอร์ ถ่ายทอดเรื่องราวส่วนตัวที่สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วโลกได้ ตามคอนเซ็ปต์ว่า “นักกีฬาคือฮีโร่ของมนุษยชาติ” และค่ายจะช่วยปรับบุคลิกภาพให้นักกีฬาพร้อมเป็นพรีเซนเตอร์แบรนด์ต่างๆ

 

พา “มวยไทย” กลับบ้านในรูปแบบใหม่

คอนเซ็ปต์ที่ทำสำเร็จในต่างประเทศมากว่าสิบปี ในที่สุด ONE Championship ได้โอกาสพามวยไทยกลับมาปักหลักในถิ่นกำเนิดเมื่อ 7 เดือนก่อน

“พอกองทัพบกย้ายสนามมวยลุมพินีไปอยู่รามอินทรา เขามองว่าจะต้องเปลี่ยนใหม่ให้มวยไทยสะอาด ไม่มีการพนัน เขาก็คุยหลายโปรโมเตอร์ จนมาจบที่เราที่ได้จัดรายการ ONE ลุมพินี” อริยะวัฏ บุษราบวรวงษ์ กรรมการผู้จัดการ วัน แชมเปียนชิพ ประเทศไทย กล่าว

บรรยากาศสนามแข่งขันต้องส่งเสริม ให้นักสู้ทุกคนเป็นสตาร์

ทั้งอริยะวัฏและจิติณัฐเปิดอกคุยตรงไปตรงมาว่า กีฬามวยไทยในประเทศไทยมีอิทธิพลจากกลุ่มโต๊ะพนันมานาน เมื่อโต๊ะพนันต้องการล็อกผลการแข่งขัน ทำให้เกิดเหตุล้มมวย หรือกรรมการตัดสินอย่างไม่ยุติธรรม จนกีฬามวยหมดความศักดิ์สิทธิ์ ประกอบกับแต่ดั้งเดิมกีฬามวยถูกมองว่าเป็นกีฬาของชนชั้นแรงงานอยู่แล้ว ยิ่งทำให้มวยไทยไม่เป็นที่นิยมในแง่การรับชมเพื่อความบันเทิงของคนทั่วไป

ONE Championship ต้องการมาเปิดศักราชใหม่ พลิกโฉมให้มวยไทยเป็นกีฬาที่คนไทยนิยมดูกันทั่วประเทศ ด้วยการนำคอนเซ็ปต์ที่ทำมาในต่างประเทศมาใช้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเวทีแสงสีเสียงจัดเต็ม บรรยากาศงานแบบสากล มีการเชิญดารา-อินฟลูเอนเซอร์เข้างานเพื่อช่วยประชาสัมพันธ์

เราต้องช่วยกันเปลี่ยนความคิดว่ากีฬามวยไทยไม่ได้ต่ำต้อย แต่เราเป็นกีฬาที่สร้างฮีโร่ และมีมูลค่าทางเศรษฐกิจ

ที่สำคัญ การแข่งขันต้องยุติธรรมให้การเดินทางไปสู่แชมป์ของนักสู้แต่ละคนมีศักดิ์ศรี เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกเอาใจช่วยและหันมาติดตามนักกีฬาอย่างใกล้ชิด

“เราต้องช่วยกันเปลี่ยนความคิดว่ากีฬามวยไทยไม่ได้ต่ำต้อย แต่เราเป็นกีฬาที่สร้างฮีโร่ และมีมูลค่าทางเศรษฐกิจ” จิติณัฐกล่าว

 

“ONE ลุมพินี” ผลตอบรับพุ่ง – อนาคตขอดึง “คนเมือง”

ONE ลุมพินี เริ่มจัดไฟต์แรกเมื่อ 7 เดือนก่อน โดยได้เซ็นสัญญาออกอากาศทางช่อง 7HD ทุกวันศุกร์ เวลา 20:30-23:30 น. เห็นได้ว่าช่อง 7HD เลือกเสี่ยงดวงใช้เวลาไพรม์ไทม์ของละครหลังข่าวเปลี่ยนมาเป็นรายการมวย

ผลปรากฏว่า ONE ลุมพินี เรตติงพุ่งสูงสุดในสล็อตรายการที่ฉายเวลาเดียวกันโดยอยู่ที่ 5.8 คิดเป็นยอดผู้ชมเฉลี่ย 13.6 ล้านคนต่อวัน ขึ้นเป็นเบอร์ 1 รายการศิลปะการต่อสู้ที่มีเรตติงสูงสุดในไทย พร้อมกับค่าเฉลี่ยการเปิดรับชมยาว 80 นาทีไม่เปลี่ยนช่อง

ONE Championship

ในแง่โปรไฟล์ผู้ชมเริ่มเป็นไปตามที่คาดหวังเพราะมีผู้ชมเป็นผู้ชาย 57% ผู้หญิง 43% เทียบกับค่าเฉลี่ยรายการกีฬาในไทยจะมีผู้หญิงชมเป็นสัดส่วน 36% เท่านั้น เห็นได้ว่า ONE ลุมพินีสามารถจัดสมดุลมีผู้ชมมาจากทั้งสองกลุ่มเพศ

จิติณัฐกล่าวต่อว่า อนาคตคาดหวังว่าจะโปรโมตให้ “คนเมือง” หันมาดูรายการมวยไทยมากขึ้น เพราะปัจจุบันมีเรตติงในเขตกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ประมาณ 1.3 ล้านครัวเรือนต่อวันเท่านั้น ยังเป็นสัดส่วนที่ค่อนข้างน้อย

เหตุที่ต้องพยายามดึงผู้ชมฐานคนเมืองให้ได้มากขึ้น เพราะนี่คือกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและมีอิทธิพลต่อเทรนด์ในสังคมสูง หากมีโปรไฟล์ผู้ชมกลุ่มนี้ แบรนด์ที่มีชื่อเสียงจะเข้าเป็นสปอนเซอร์มากขึ้น และเม็ดเงินถึงนักกีฬาจะสูงตาม

 

โอกาส “นักมวย” คนไทยรับทรัพย์หลักสิบล้าน

นอกจากจะกลับมาโปรโมตมวยไทยในหมู่คนไทยแล้ว ONE Championship ยังคงมุ่งมั่นจะผลักดัน “มวยไทย” ให้เป็นกีฬาต่อสู้ที่คนนิยมกันทั่วโลก และจะเป็นโอกาสให้นักมวยชาวไทยโด่งดังระดับสากลเช่นกัน

อริยะวัฏ บุษราบวรวงษ์ กรรมการผู้จัดการ วัน แชมเปียนชิพ ประเทศไทย และ จิติณัฐ อัษฎามงคล ประธาน วัน แชมเปียนชิพ ประเทศไทย

จิติณัฐประเมินว่า ปัจจุบันกีฬาต่อสู้ที่คนนิยมมากที่สุดทั่วโลก คือ “มวยสากล” รองลงมาคือ “MMA” ซึ่งนิยมในทวีปอเมริกาทั้งหมดและแถบเอเชียกลาง ตามด้วย “คิกบ็อกซิ่ง” ซึ่งนิยมในทวีปยุโรป ส่วน “มวยไทย” กับ “ยิวยิตสู” จากญี่ปุ่น นั้นนิยมกันในเอเชีย และมีความโด่งดังใกล้เคียงกัน

จิติณัฐบอกด้วยว่า ประเทศที่มีอิทธิพลและกำลังซื้อต่อกีฬาต่อสู้มากที่สุดคือ “สหรัฐฯ” นั่นทำให้ถ้ามวยไทยจะเกิดได้มากกว่านี้ ต้องตีตลาดสหรัฐฯ ให้ได้

ONE Championship จึงเซ็นสัญญากับ Prime Video เพื่อผลักดันการจัดแข่งกีฬามวยไทยขึ้นในสหรัฐฯ ซึ่งเปิดแข่งไฟต์แรกไปแล้วเมื่อ 2-3 เดือนก่อน ได้รับผลตอบรับที่ดี ทำให้ปี 2567 จะร่วมกับ Prime Video เพื่อจัดแข่งมวยไทยอย่างน้อย 4 ไฟต์ในสหรัฐฯ

การมีฐานคนดูเพิ่มขึ้น หมายถึงค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดที่สูงขึ้น สปอนเซอร์มากขึ้น และจะทำให้ “ค่าตัว” นักกีฬาสูงขึ้นด้วย

ONE Championship
“รถถัง จิตรเมืองนนท์” และ “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” สองนักชกมวยไทยที่โด่งดังในระดับโลก

ปัจจุบัน ONE Championship มีนักสู้ในสังกัดมากกว่า 300 คนรวมทุกประเภทกีฬา นักสู้ที่ได้ค่าตัวสูงสุดขณะนี้คือ “เดเมเทรียส จอห์นสัน” เป็นนักกีฬา MMA ชาวอเมริกัน ซึ่งได้ค่าตัวไฟต์ละ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 35 ล้านบาท)

ส่วนคนไทยในสังกัด ONE Championship ที่ได้ค่าตัวสูงสุดคือ “รถถัง จิตรเมืองนนท์” นักชกมวยไทยที่ค่าตัวหลักล้านบาท รองลงมาเป็นนักชกหญิง “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์”

“เราอยากพัฒนาให้นักมวยไทยมีค่าตัวสูงระดับสิบล้านบาท คิดว่าจะได้เห็นเร็วๆ นี้แน่ และถ้าเป็นไปได้อนาคตควรไปถึงร้อยล้านบาท พันล้านบาท เพราะนักมวยสากลมีคนที่ได้ระดับพันล้านบาทแล้วนะ เราก็ควรจะทำได้เหมือนกัน ทุกอย่างนั้นขึ้นอยู่กับการสร้างความคลั่งไคล้ในกีฬามวย และสร้างแฟนด้อมให้กับนักสู้แต่ละคน” จิติณัฐกล่าว