ตลาด “รถอีวี” ในสหรัฐฯ มีแนวโน้มชะลอตัว หลังกลุ่ม “ผู้ซื้อนำกระแส” เป็นเจ้าของกันไปหมดแล้ว

ภาพจาก Shutterstock
นักวิเคราะห์มองตลาด “รถอีวี” ในสหรัฐฯ กำลังจะเข้าสู่ช่วงชะลอตัว เพราะกลุ่ม “ผู้ซื้อนำกระแส” (Early Adopters) ได้เป็นเจ้าของรถยนต์เทคโนโลยีใหม่นี้ไปหมดแล้ว ขณะที่กลุ่มลูกค้าหลักจะใช้เวลาพิจารณาและเปรียบเทียบสินค้ามากกว่า ทำให้รถอีวีขายยากขึ้น

ช่วงแรกที่ “รถอีวี” เริ่มเปิดตัวออกสู่ตลาด สัดส่วนยอดขายยังมีเพียง 1% กว่าๆ ของตลาดรถยนต์ทั้งหมดในสหรัฐฯ เพราะตัวเลือกในตลาดยังมีจำกัด แต่ตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา ยอดขายกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV) เริ่มพุ่งทะยาน จากตัวเลือกรุ่นรถที่มากขึ้น โครงสร้างพื้นฐานจุดชาร์จรถอีวีก็มีมากขึ้น รวมถึงอุตสาหกรรมเองต่างเร่งผลักดันให้ลูกค้าหันมาซื้อรถอีวี

ปี 2022 จึงเป็นปีที่กลุ่มรถอีวีสร้างสถิติใหม่ในสหรัฐฯ โดยมียอดขายคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 6% ของยอดขายรถทั้งหมด และคาดว่าปี 2023 น่าจะทำยอดขายทำลายสถิติเดิม หากวัดจากยอดขายเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สัดส่วนยอดขายรถอีวีขึ้นไปเกือบ 9% แล้ว ตามข้อมูลของ JD Power

เมื่อยอดขายดูจะเติบโตได้ดี ทำให้หลายค่ายรถต่างวางเป้าหมายการผลิตและการขายไว้อย่างสูง

ในปีนี้ Tesla ตั้งเป้าจะผลิตรถให้ได้ 2 ล้านคัน ขณะที่ Ford เคยระบุว่ามีเป้าผลิตรถอีวี 6 แสนคัน ส่วน General Motors (GM) ตั้งเป้าผลิตรถอีวี 1.5 แสนคัน

อย่างไรก็ตาม เมื่อกลุ่ม “ผู้ซื้อนำกระแส” (Early Adopters) ในอุตสาหกรรมนี้เริ่มลดจำนวนลงไปทุกที นักวิเคราะห์บางรายจึงมองว่า สภาวะที่ยอดขายจะเริ่มชะลอตัวจึงเห็นได้รำไรว่ากำลังจะมาถึง

สำนักข่าว Business Insider มีการพูดคุยกับดีลเลอร์รถ Ford บางราย พบสัญญาณว่ารถอีวีอาจเริ่มขายไม่ได้ดีอย่างที่เป็นมา เพราะดีลเลอร์เริ่มขอลดโควตารับรถ Mustang Mach-E มาจำหน่าย

Ford Mustang Mach-E รถเอสยูวีไฟฟ้า

 

ที่ยากจริงๆ คือตลาดในช่วงต่อจากนี้

นักวิเคราะห์มองว่า กลุ่มผู้ซื้อนำกระแสนั้นเป็นลูกค้าที่พอใจจะอดทนกับปัญหาด้านคุณภาพหรือการเปลี่ยนแปลงที่มากับรถยนต์ไฟฟ้า เพราะต้องการเป็นเจ้าของเทคโนโลยีใหม่ แต่เมื่อตลาดเข้าสู่ช่วงที่ต้องขายให้ผู้ซื้อรถทั่วไปซึ่งคิดพิจารณามากกว่า นี่คือความท้าทายที่จะเกิดกับอุตสาหกรรม และนักวิเคราะห์ก็ประเมินไม่ได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

นอกจากดีมานด์จะเริ่มผันผวนแล้ว ซัพพลายของรถอีวีกลับจะมากขึ้น เพราะการแข่งขันของค่ายรถต่างก็หันมาผลิตรถยนต์ไฟฟ้า

iSeeCars สำรวจพบว่า รัฐที่ปกติมีสัดส่วนยอดขายกลุ่มรถอีวีมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา ได้แก่ แคลิฟอร์เนีย, โอเรกอน และวอชิงตัน ซึ่งมักจะมียอดขายรถอีวีประมาณ 7-10% ปัจจุบันกลับกลายเป็นกลุ่มรัฐที่สัดส่วนยอดขายรถอีวีต่ำที่สุดไปแล้ว

“ดูเหมือนจะมีกำแพงทางธรรมชาติอยู่แถวๆ สัดส่วนยอดขาย 7-10% ในรัฐเหล่านี้” Karl Brauer นักวิเคราะห์จาก iSeeCars กล่าว “ดูเหมือนนั่นจะเป็นลิมิตสูงสุดของสัดส่วนยอดขายรถอีวีในปัจจุบัน และการจะเร่งให้โตมากกว่านี้จะเริ่มเป็นเรื่องยาก”

สำหรับประเทศไทย ช่วงครึ่งปีแรก (ม.ค.มิ.ย.) 2566 ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า 100% พุ่งทะลุ 31,000 คันไปแล้วเรียบร้อย และคิดเป็นสัดส่วน 9% ของยอดจดทะเบียนรถยนต์ทั้งตลาด

Source