ย้อนไปในช่วงเดือนมิถุนายน อัตราการว่างงานของเยาวชนจีนพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 21.3% นอกจากนี้ ยังเห็นตัวเลขของ เด็กจบใหม่เกือบครึ่งที่เดินทางกลับบ้านเกิด เพราะไม่สามารถสู้ค่าครองชีพในเมืองใหญ่ ๆ ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องได้
หลังจากที่เปิดเผยข้อมูลของการดำเนินงานในโรงงานอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกที่อ่อนแอกว่าที่คาดไว้ ล่าสุด สำนักงานสถิติของจีน (NBS) ก็ได้ออกมาประกาศว่า นับตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป สำนักงานจะ ระงับการเผยแพร่ข้อมูลการว่างงานของเยาวชน (อายุ 16-24 ปี) อย่างไม่มีกำหนด โดยอ้างว่า ต้องปรับปรุงกลไกการสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลใหม่
เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ตกต่ำ รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายบางฉบับที่ทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ เทคโนโลยี และการศึกษาได้รับผลกระทบ ส่งผลไปถึงการจ้างงานในจีน โดยเฉพาะเยาวชนและเด็กจบใหม่ที่มีสถิติการว่างงานสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
ปัญหาใหม่เศรษฐกิจจีน: วัยรุ่น 1 ใน 5 คน “ว่างงาน” เรียนจบสูงแต่ไม่มีตำแหน่งรองรับ
โดยอัตราการว่างงานโดยรวมของจีนในเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 5.3% เพิ่มขึ้นจาก 5.2% ในเดือนมิถุนายน ขณะที่ อัตราการว่างงานในกลุ่มวัยรุ่นจีน ช่วงเดือนมิถุนายนสูงถึง 21.3% ถือเป็นสถิติสูงสุดครั้งใหม่ โดยถือว่าเพิ่มขึ้น 0.5% จากสถิติของเดือนพฤษภาคมซึ่งอยู่ที่ 20.8% และเมื่อเดือนที่แล้ว ศาสตราจารย์ชาวจีนคนหนึ่ง คาดว่า อัตราว่างงานของเยาวชนที่แท้จริงในประเทศอาจเข้าใกล้ 50% ในเดือนมีนาคม
ตัวเลขที่ศาสตราจารย์คนดังกล่าวนั้นใกล้เคียงกับตัวเลขของ ผู้สำเร็จการศึกษาราว 47% กลับบ้านเกิดภายใน 6 เดือนหลังจากสำเร็จการศึกษาในปี 2022 เพิ่มขึ้นจาก 43% ในปี 2021 เนื่องจากเด็กจบใหม่ที่หางานไม่ได้เดินทางออกจากเมืองใหญ่กลับสู่บ้านเกิด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะค่าครองชีพในเมืองใหญ่ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกรุงปักกิ่งที่มีค่าเช่าเพิ่มสูงขึ้น 5% และนครกว่างโจวและนครเซินเจิ้น ซึ่งเพิ่มขึ้น 2.8%
จากการตัดสินใจของ NBS ที่จะไม่เปิดเผยข้อมูลการยว่างงานของเด็กจบใหม่ได้ถูกนำไปล้อเลียนและวิพากษ์วิจารณ์ทันทีบน Weibo แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของจีน โดยแฮชแท็กที่เกี่ยวข้องได้รับการดูมากกว่า 10 ล้านครั้ง