ในไตรมาส 2 นี้ เศรษฐกิจไทยเติบโตเหลือแค่ 1.8% หลังจากตัวเลขภาคการส่งออกของไทยแย่กว่าคาด ทำให้สภาพัฒน์คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้อาจโตได้สูงสุดแค่ 3%
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ได้รายงานตัวเลขการเติบโตเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 ของปี 2566 นั้น GDP เติบโตได้ 1.8% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดไว้ โดยปัจจัยสำคัญที่ถ่วงเศรษฐกิจไทยในไตรมาสนี้คือภาคการส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจทั่วโลก โดยเฉพาะปัจจัยจากประเทศจีน
ขณะเดียวกันในไตรมาส 2 นี้ปัจจัยที่ช่วยเศรษฐกิจไทยนั้นได้แก่ การอุปโภคบริโภคในประเทศยังเติบโตได้ดี ซึ่งเป็นผลจากภาคการท่องเที่ยวที่กำลังฟื้นตัวดีขึ้นเรื่อยๆ
การเติบโตของเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ถือว่าผิดคาดจากผลสำรวจนักวิเคราะห์ของสำนักข่าว Reuters ที่สำรวจนักวิเคราะห์กว่า 21 คนในช่วงวันที่ 14-17 สิงหาคมที่ผ่านมาคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 จะโตได้ถึง 3.1% ด้วยซ้ำ ขณะที่ทาง Bloomberg ที่ได้ทำสำรวจนักวิเคราะห์เช่นกันนั้นคาดว่า GDP ไทยจะโตได้ 3%
ถ้าหากมองตัวเลขการเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 1 ของปีนี้ ไตรมาส 2 นี้เศรษฐกิจไทยเติบโตแค่ 0.2% เท่านั้น
สำหรับตัวเลขที่น่าสนใจในไตรมาส 2 นี้
- การบริโภคในประเทศเติบโต 7.8%
- การส่งออกในรูปแบบสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น -5.6%
- การลงทุนภาคเอกชนเติบโต 1.0%
- การอุปโภคภาครัฐกลับถดถอยที่ -4.3%
สภาพัฒน์ได้มองปัจจัยบวกของเศรษฐกิจไทยในปีนี้คือการลงทุนจากต่างประเทศที่เข้ามาในประเทศไทย การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว อย่างไรก็ดีความเสี่ยงของเศรษฐกิจไทยปีนี้คือเรื่องการเมือง การชะลอตัวมากกว่าที่คาดของเศรษฐกิจโลก การปรับเพิ่มของอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลาง หรือแม้แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่จำกัด
ทำให้ทั้งปี 2023 นี้ สภาพัฒน์คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตอยู่ในช่วง 2.5-3% เท่านั้น ปรับคาดการณ์ลงจากไตรมาส 1 ที่ผ่านมา