หลักทรัพย์บัวหลวงมองเป้า SET Index สิ้นปี 1,625 จุด ชี้ปัจจัยบวกด้านการเมืองหนุนหุ้นไทยฟื้นตัวได้

Photo : Shutterstock
บล.บัวหลวง มองเป้าดัชนีหุ้นไทยสิ้นปีที่ 1,625 จุด ชี้ปัจจัยบวกด้านการเมือง ภาคการส่งออกที่อาจฟื้นตัวในช่วงสิ้นปี หรือแม้แต่ภาคการท่องเที่ยวไทย ส่งผลทำให้หุ้นไทยกลับมาฟื้นตัวได้ ขณะเดียวกันก็มองว่าขาลงหุ้นไทยอยู่ในจุดจำกัดแล้ว

ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง (BLS) ได้กล่าวถึงมุมมองในเรื่องตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมาว่าตลาดต่างประเทศเช่น เยอรมัน ญี่ปุ่น ไต้หวัน ถือว่าเป็นขาขึ้น ดูดีกว่าหุ้นไทย ซึ่งล่าสุดกำไรจดทะเบียนของหุ้นไทยนั้นไม่เติบโต ส่งผลทำให้นักวิเคราะห์ปรับเป้าหมายหุ้นไทยลงมาแม้แต่ตลาดหุ้นจีนก็ปรับลงมาเหมือนกัน

เขายังกล่าวถึงประเด็นบวกคือเงินเฟ้อลดลงทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาพลังงานกับราคาอาหาร โดย BLS มองราคาน้ำมันดิบ West Texas อยู่ราวๆ 70-90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และมองว่าราคาน้ำมันจะปรับขึ้นไปแรงๆ ไม่น่ามีแล้ว กำลังการผลิตสำรองของน้ำมันดิบสามารถรองรับได้ แตกต่างกับอดีต

ขณะเดียวกัน ชัยพรมองเศรษฐกิจเอเชียในปี 2023-2024 การเติบโตของเศรษฐกิจเอเชียยังเติบโตได้อย่างโดดเด่น และอัตราเงินเฟ้อยังลดลง ส่งผลทำให้อัตราจับจ่ายใช้สอยได้ประโยชน์มากขึ้น เขายังคาดว่าปีหน้าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางน่าจะปรับลดลงได้

ทางด้านเศรษฐกิจจีน ถ้าหากหดตัวหรือฟื้นตัวช้ากว่าคาดหรือมีปัจจัยทำให้เศรษฐกิจและการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของจีนแย่ไปกว่าเดิม ชัยพรมองว่าจะส่งผลกระทบกับไทยทางอ้อม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจำนวนนักท่องเที่ยว การลงทุน หรือแม้แต่การดัมพ์ราคาสินค้าสู่ประเทศอาเซียนหรือตลาดโลก ซึ่งสินค้าบางอย่างจากจีนเป็นคู่แข่งโดยตรงกับผู้ผลิตในไทยทำให้บริษัทไทยค้าขายยากขึ้น

ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ – กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง

สำหรับเศรษฐกิจไทย เขามองว่าอยู่ในช่วงท้ายๆของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยอ้างอิงอัตราดอกเบี้ยของเอเชียกับไทยอยู่ในจุดสูงสุด มองคุณภาพหนี้ ในการปล่อยสินเชื่อ ธนาคารยังปล่อยแบบระมัดระวัง จะเห็นว่าคำขอการกู้ซื้ออสังหาถูกปัดตกมากถึง 50% ช่วงเวลาปกติจะไม่เกิน 25% ขณะที่ระดับหนี้ภาคครัวเรือนไทยยังสูงกว่า 80%

ชัยพรมองว่าเรื่องนี้ถือเป็นโจทย์ที่ยากสำหรับรัฐบาลชุดใหม่ เพราะหนี้ภาคครัวเรือนและหนี้ภาครัฐเมื่อเทียบ GDP อยู่ในระดับชนเพดาน เมื่อเทียบกับรัฐบาลในอดีตที่หนี้ต่ำกว่าสามารถออกนโยบายได้มากกว่า ดังนั้นการกระตุ้นหรือการกู้เงินจะทำได้ค่อนข้างลำบากและต้องระมัดระวัง

ข่าวดีของเศรษฐกิจไทยที่ชัยพรมองคือ ภาคการส่งออกของไทยที่อาจดีขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ รวมถึงภาคการท่องเที่ยว อย่างไรก็ดีเขาคาดว่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาไทยจะอยู่ที่ราวๆ 25 ล้านคน สาเหตุจากนักท่องเที่ยวจีนที่ออกนอกประเทศช้ากว่าคาด เนื่องจากค่าตั๋วเครื่องบินและค่าโรงแรมมีราคาแพงขึ้น ทำให้นักท่องเที่ยวจีนเน้นท่องเที่ยวภายในประเทศมากกว่า

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ และต่างประเทศที่น่ากังวลในเชิงการลงทุน ไม่ว่าจะเป็น

  • เรื่องนโยบายภาครัฐ การบริหารเงิน Digital Wallet หัวละ 10,000 บาทสำหรับคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป
  • ความพยายามแก้ไขกฎหมายให้มีการจัดเก็บกำไรของผู้ที่ลงทุนในตลาดหุ้น รวมถึงการเก็บภาษีซื้อขายหุ้น
  • การปรับค่าแรงขั้นต่ำ
  • นโยบายด้านพลังงานน้ำมันและไฟฟ้า
  • เศรษฐกิจจีน

มุมมองสำหรับหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปี 2023 กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง มอง Sentiment หุ้นไทยดูดีมากขึ้นหลังจากได้รัฐบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมองว่าโอกาสที่หุ้นไทยจะตกลงเหลือน้อยมาก โดยมองกรอบด้านล่างดัชนีหุ้นไทยที่ 1,500 จุด ส่วนกรอบบนอยู่ที่ 1,625 จุด

หุ้นที่ได้ประโยชน์หลังจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นการส่งออก กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคภายในประเทศที่จะได้รับประโยชน์จากภาวะเศรษฐกิจที่ค่อยๆ ฟื้นตัว และนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล กลุ่มธนาคาร กลุ่มธุรกิจด้านการท่องเที่ยว รวมถึงหุ้นกลุ่มจัดเก็บหนี้

ขณะที่หุ้นกลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยง กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับภาคก่อสร้าง กลุ่มขนส่งเดินเรือ รวมถึงหุ้นกลุ่มปิโตรเคมี

สำหรับการจัดพอร์ตลงทุน BLS แนะนำลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ ตราสารหนี้ภาคเอกชน Investment Rating สัดส่วน 32% ทองคำ 13% ส่วนที่เหลือแนะลงทุนในตลาดหุ้น 55% โดยตลาดหุ้นต่างประเทศที่เราชอบ คือ เวียดนาม ฮ่องกง และสหรัฐฯ