“CPN” มุ่งเป้ารายได้ขาย “บ้าน-คอนโดฯ” แตะ 10,000 ล้านบาทใน 3 ปี ขยายพอร์ต “บ้านหรู” ใกล้ห้างฯ

บ้าน คอนโด CPN
“เซ็นทรัลพัฒนา” หรือ CPN ใส่เกียร์เดินหน้าในตลาดขาย “บ้านคอนโดฯ” วางเป้ารายได้ 3 ปี แตะ 10,000 ล้านบาท ขึ้นเป็นผู้เล่นระดับกลาง แตกแบรนด์ใหม่ “บ้านนิรดา” เจาะกลุ่ม “บ้านหรู” ราคา 20-30 ล้านบาท ชูจุดขายใกล้ศูนย์การค้าเครือเซ็นทรัลไม่เกิน 10 กิโลเมตร

ธุรกิจ Central Pattana Residence กลุ่มธุรกิจขายที่อยู่อาศัยของ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา เริ่มเปิดคอนโดมิเนียมแรกขึ้นเมื่อปี 2559 ด้วยแนวคิดต่อยอดธุรกิจสร้างชุมชนรอบศูนย์การค้าเพื่อส่งเสริมซึ่งกันและกัน จนถึงปัจจุบัน CPN มีโครงการที่อยู่อาศัยทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านแนวราบสะสมแล้ว 35 โครงการ ใน 18 จังหวัดทั่วประเทศ และอนาคตเตรียมจะเร่งเครื่องการพัฒนาให้เร็วขึ้น

“วัลยา จิราธิวัฒน์” กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) กล่าวถึงนโยบายการพัฒนาพื้นที่ของ CPN ที่เคยประกาศไปว่า จากนี้เซ็นทรัลพัฒนาจะเน้นการสร้างโครงการ “มิกซ์ยูส” ในทำเลเดียวอาจมีทั้งส่วนรีเทล ที่อยู่อาศัย โรงแรม และอาคารสำนักงาน เพื่อสร้างเป็นระบบนิเวศตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ โดยจะมี “รีเทล” เป็นหัวใจสำคัญในการนำร่องการพัฒนาส่วนต่างๆ ที่จะมารวมกันเป็นมิกซ์ยูส

CPN บ้าน คอนโด
(จากซ้าย) กรี เดชชัย President, Residence Business บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา, วัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา และ นาวิตรา จันเกษม Head of Residence Business Operation Support บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา

ส่วนหนึ่งในมิกซ์ยูสดังกล่าวคือ “ที่อยู่อาศัย” ซึ่งมี “กรี เดชชัย” President, Residential Business บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา เป็นแม่ทัพสร้างโครงการ

กรีระบุว่า แผนของ CPN ต้องการผลักดันให้หน่วยธุรกิจนี้ “โตเร็ว” กว่าที่เคยเป็นมา จากที่เคยไต่ระดับรายได้ 2,000-3,000 ล้านบาทต่อปี จากนี้ภายในปี 2569 กลุ่มธุรกิจที่อยู่อาศัยจะสร้างรายได้แตะ 10,000 ล้านบาท ซึ่งจะคิดเป็นสัดส่วนราว 13-14% ของรายได้รวมเซ็นทรัลพัฒนา สะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจนี้มีความสำคัญมากขึ้น

 

จุดขายที่อยู่อาศัย “ใกล้ห้างฯ”

กรีกล่าวว่า การเติบโตของ Central Pattana Residence มีจุดขายหลักคือการเป็นที่อยู่อาศัย “ใกล้ห้างฯ” มาโดยตลอด ถ้าหากเป็นคอนโดมิเนียม จะอยู่ในบริเวณเดียวกับศูนย์การค้าเครือเซ็นทรัลหรือใกล้แบบเดินถึง แต่ถ้าเป็นโครงการแนวราบจะอยู่ในรัศมี 10 กิโลเมตรจากศูนย์การค้าเครือเซ็นทรัล

ทั้งหมดเกิดจากการ ‘synergy’ วางแผนร่วมกันเสมอในการจัดซื้อที่ดินแบบ ‘ห้างฯ ไปไหน บ้านไปด้วย’ เซ็นทรัลพัฒนาจะมีศูนย์การค้าเซ็นทรัลหรือโรบินสันแห่งใหม่ที่ใด ฝั่งที่อยู่อาศัยจะเข้าไปประเมินความเหมาะสม หากสมควรลงทุนพัฒนาก็จะจัดซื้อที่ดินในห้วงระยะเวลาเดียวกันเลย

CPN บ้าน คอนโด

ปัจจุบัน Central Pattana Residence มีแบรนด์ในมือ 6 แบรนด์ ได้แก่

  • เอสเซ็นท์ (ESCENT) คอนโดมิเนียมราคาเริ่มต้น 1.5-2.0 ล้านบาท
  • ฟีล (PHYLL) คอนโดมิเนียมราคาเริ่มต้น 2.5-3.5 ล้านบาท
  • นิรติ (NIRATI) บ้านเดี่ยวราคา 8-12 ล้านบาท
  • นินญา (NINYA) บ้านเดี่ยวราคา 10-20 ล้านบาท
  • บ้านนิรดา (BAAN NIRADA) บ้านเดี่ยวราคา 20-30 ล้านบาท
  • นิยาม (NIYHAM) บ้านเดี่ยวราคา 30-60 ล้านบาท

จะเห็นได้ว่าในกลุ่มคอนโดฯ​ จะทำราคาในกลุ่มตลาดแมสและตลาดระดับกลาง แต่ถ้าเป็นโครงการแนวราบ CPN จะมุ่งจับตลาดกลางบนไปจนถึงลักชัวรี

 

มุ่งตลาด “บ้านหรู” มากขึ้นด้วยแบรนด์ใหม่ “บ้านนิรดา”

กรีกล่าวต่อว่า ภาพรวม 3 ปีข้างหน้า CPN จะเน้นโครงการบ้านแนวราบมากขึ้น โดยคาดว่าจะมีพอร์ตแนวราบ 50:50 แนวสูง

ในกลุ่มบ้านแนวราบจะยิ่งเน้นในตลาดลักชัวรีมากขึ้น โดยปีนี้บริษัทเปิดตัวแบรนด์ใหม่ “บ้านนิรดา (BAAN NIRADA)” ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวกลุ่มราคา 20-30 ล้านบาท จะเปิดขายรวดเดียว 3 ทำเลในกรุงเทพฯ ได้แก่ พระราม 2, อุทยาน-อักษะ และ เอกชัย-วงแหวน

ถือเป็นการเสริมแบรนด์เข้ามาอีกแบรนด์หนึ่ง จากเดิมบริษัทมีแบรนด์ลักชัวรีคือ นิยาม (NIYHAM) ซึ่งเคยเปิดเพียงโครงการเดียว คือ นิยาม บรมราชชนนี ราคา 30-60 ล้านบาท

“บ้านนิรดา จะถือเป็นแบรนด์เรือธงสำหรับทำตลาดบ้านหรูของ CPN” กรีกล่าว “กลยุทธ์ของเราในการบุกตลาดบ้านคือเราจะเน้นในตลาดหรู เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันสูง เน้นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการบ้านระดับลักชัวรีและคุณภาพสูงให้นึกถึงเราก่อน โดยเฉพาะในต่างจังหวัด”

กรียกตัวอย่างเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา CPN เปิดโครงการ “บ้านนิรติ นครศรีธรรมราช” ราคาขาย 8-15 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงมากในพื้นที่นครศรีธรรมราช แต่บริษัทปิดการขายได้แล้ว 17 หลังภายในเวลาเดือนเดียว

 

ปี’66 รายได้ดีด 90% มุ่งสู่ ‘หมื่นล้าน’

สำหรับแผนธุรกิจเฉพาะปี 2566 ธุรกิจที่อยู่อาศัยของ CPN มีแผนเปิดตัวใหม่ 7 โครงการ มูลค่ารวม 9,900 ล้านบาท ที่เปิดตัวแล้ว ได้แก่ คอนโดฯ เอสเซ็นท์ เพชรบุรี และ บ้านนิรติ นครศรีธรรมราช ส่วนที่รอเปิดตัวในไตรมาส 4 นี้ทั้งหมด ได้แก่ บ้านนิรดา 3 ทำเลดังกล่าว และ คอนโดฯ เอสเซ็นท์ อีก 2 ทำเล คือ บุรีรัมย์ กับ บางนา

ด้านเป้าหมายยอดขายปีนี้อยู่ที่ 6,000 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนสิงหาคม ทำยอดขายได้แล้ว 4,000 ล้านบาท

เป้าหมายรายได้ปีนี้ตั้งไว้ 5,500 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนสิงหาคม ทำรายได้แล้วเกือบ 4,000 ล้านบาท หากสิ้นปีทำรายได้ได้ตามเป้าจะถือเป็นการเติบโตจากปีก่อนถึง 90% นับเป็นก้าวสำคัญที่จะมุ่งสู่รายได้ 10,000 ล้านบาทในปี 2569

กรีกล่าวว่า บริษัทจะเติบโตสอดคล้องกับแผนใหญ่ของศูนย์การค้าเซ็นทรัล ในอีก 3 ปีจะได้เห็น Central Pattana Residence เพิ่มเป็น 24 จังหวัด มีจังหวัดใหม่ๆ ที่ ไปแน่ตามแผนของศูนย์การค้า คือ นครปฐม นครสวรรค์ และกระบี่ ส่วนที่เหลือจะไปพัฒนาโครงการที่จังหวัดไหนนั้น ต้องรอประกาศพร้อมกับศูนย์การค้าอีกครั้ง