Chanel ปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นในหลายประเทศรวมถึงไทย ชี้ค่าเงินแต่ละประเทศผันผวน

ภาพจาก Shutterstock
ชาแนล (Chanel) ยักษ์ใหญ่สินค้าหรูอีกรายของโลก ได้ปรับราคาสินค้าเพิ่มในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เป็นต้น หรือแม้แต่ประเทศไทยด้วยเช่นกัน โดยบริษัทได้ให้เหตุผลถึงค่าเงินในแต่ละประเทศมีความผันผวน

สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าวว่า Chanel ผู้ผลิตสินค้าหรูหลายประเภท ได้ประกาศขึ้นราคาสินค้าหลายประเภทในหลายประเทศ โดยให้เหตุผลถึงค่าเงินของประเทศที่บริษัทมีสินค้าวางขายนั้นมีความผันผวน จึงมีการปรับราคาเพิ่มอีกตั้งแต่ 6 ถึง 8% ขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศ

ตัวแทนของ Chanel ได้ตอบคำถามของสำนักข่าว Bloomberg ว่า นี่คือสิ่งที่บริษัทได้ทำเป็นประจำ ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของเราในแง่ของการปรับราคาให้สอดคล้องกัน โดยตลาดที่ผู้ผลิตสินค้าแบรนด์หรูรายนี้ได้ขึ้นราคานั้นได้แก่ ไทย จีน มาเลเซีย ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น รวมถึง ไต้หวัน

และนั่นจะทำให้ราคากระเป๋ารุ่น Classique ของ Chanel ไซส์ 25 เซนติเมตร มีราคาถึง 9,700 ยูโรในฝรั่งเศส ถ้าหากคิดเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ จะอยู่ที่ 10,230 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ถ้าราคาเป็นเงินหยวนจะอยู่ที่ 80,500 หยวน หรือคิดกลับเป็นดอลลาร์สหรัฐ จะมีราคามากถึง 11,030 ดอลลาร์สหรัฐ

ผู้ผลิตสินค้าหรูหลายรายมีอำนาจในการกำหนดราคาสินค้า และนั่นหมายความว่าแบรนด์หรูเหล่านี้สามารถเพิ่มราคาได้โดยไม่จำเป็นว่าจะมีความเสี่ยงที่จะสูญเสียลูกค้าไป อย่างไรก็ดีในช่วงปีที่ผ่านมาแบรนด์หรูเหล่านี้เริ่มประสบปัญหาลูกค้าเริ่มที่จะลดการซื้อสินค้าของแบรนด์หรูเหล่านี้ลง ซึ่งเห็นได้จากหลายแบรนด์เองมียอดขายในตลาดใหญ่ๆ ลดลง แต่ Chanel เองก็ได้ตัดสินใจปรับราคาสินค้าขึ้นในท้ายที่สุด

ก่อนหน้านี้ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้บริหารของ Chanel ได้กล่าวว่า บริษัทอาจมีการขึ้นราคาสินค้าหรูของบริษัทอีกครั้งในเดือนกันยายน โดยมีปัจจัยไม่ว่าจะเป็น ต้นทุนสินค้า อัตราเงินเฟ้อ ไปจนถึงค่าเงินของประเทศนั้นๆ และการขึ้นราคาสินค้านั้นจะไม่เท่ากันในแต่ละประเทศ

ปัจจุบัน Chanel มีการพิจารณาปรับราคาสินค้าเฉลี่ยปีละ 2 ครั้งคือในช่วงเดือนมีนาคม และเดือนกันยายน โดยที่เดือนมีนาคมที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับราคาสินค้าเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ประมาณ 8% และในปี 2020 บริษัทได้ปรับราคากระเป๋าเพิ่มมากขึ้นถึง 20% มาแล้ว