ริชาร์ด หลิว ผู้ก่อตั้ง JD.com กล่าวกับพนักงาน “อย่ามัวแต่อยู่เฉย” และเขาเองยอมรับว่าบริษัทมีปัญหาในหลายเรื่อง และองค์กรจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง เพราะไม่งั้นแล้วคู่แข่งรายสำคัญจะไล่ตามทันได้ และเชื่อว่าบริษัทจะสามารถเปลี่ยนแปลงเรื่องดังกล่าวได้
LatePost สื่อไอทีของประเทศจีน รายงานว่า ริชาร์ด หลิว (Richard Liu) ผู้ก่อตั้งของ JD.com ยักษ์ใหญ่ E-commerce ในประเทศจีน ได้กล่าวกับพนักงานในเว็บบอร์ดภายในของบริษัท โดยกล่าวถึงว่าพนักงานของ JD.com จะมัวแต่อยู่เฉยไม่ได้ ต้องทำงานเชิงรุกมากขึ้นเนื่องจากคู่แข่งรายสำคัญนั้นไล่ตีตื้นมากขึ้นเรื่อยๆ
ผู้ก่อตั้งของ JD.com ได้ตอบคำถามของพนักงานในเว็บบอร์ดภายในของบริษัทว่าบริษัทจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง หลังจากที่พนักงานคนหนึ่งได้โพสต์ถึงปัญหาภายในบริษัทไม่ว่าจะเป็นความวุ่นวายที่เกิดขึ้นกับผู้ค้ารายต่างๆ ความซับซ้อนของโปรโมชั่น และกลยุทธ์การทำสินค้าให้มีราคาถูกมากที่สุด ซึ่งเขาเองได้ยอมรับถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
เขาเองยังยอมรับว่าสิ่งที่พนักงานคนดังกล่าวได้โพสต์นั้นเป็นปัญหาของบริษัทจริงๆ และกล่าวว่าในบริษัทนั้นทุกวันจะมีคนพูดถึงนวัตกรรมต่างๆ แต่กลับกลายเป็นว่าทุกคนกลับลอกเลียนหรือแม้แต่เดินตามคนอื่นทุกวัน หรือแม้แต่ทุกคนนั้นพูดถึงการที่จะออกไปสู้ในเรื่องต่างๆ แต่กลับกลายเป็นต้องมาตั้งรับในทุกเรื่อง ซึ่งเขาเองจะไม่อยู่เฉย และหวังว่าทุกคนจะไม่อยู่เฉยเช่นกัน
นอกจากนี้ Richard ยังได้กล่าวถึงความผิดพลาดในการบริหารของเขาในหลายเรื่อง รวมถึงขนาดองค์กรที่ใหญ่เทอะทะ และได้กล่าวขอบคุณพนักงานคนดังกล่าวที่พูดถึงปัญหา เขาหวังว่าพนักงานจะอดทน และสู้ไปพร้อมกันเพื่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และเชื่อว่าบริษัทจะเปลี่ยนแปลงในเรื่องดังกล่าวได้
ในช่วงที่ผ่านมา JD.com ได้มีการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการแยกธุรกิจออกมาเป็นอิสระ การกลับมารุกธุรกิจในต่างประเทศมากขึ้น ขณะเดียวกันในประเทศจีนยังมีแผนที่จะรุกเมืองรองมากขึ้น หลังจากเมืองเหล่านี้ Pinduoduo เป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดเมืองรอง
แพลตฟอร์มคู่แข่งอย่าง Pinduoduo เริ่มรุกธุรกิจทั้งในประเทศจีน และนอกประเทศจีนโดยใช้แบรนด์ Temu มากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากรายได้ของบริษัทเติบโตอย่างมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจากระดับหมื่นล้านหยวนก้าวไปสู่รายได้ระดับแสนล้านหยวนอย่างรวดเร็ว
การกล่าวกับพนักงาน JD.com ของผู้ก่อตั้งรายนี้ได้ส่งสัญญาณถึงการแข่งขันของตลาด E-commerce ในประเทศจีนถือว่าดุเดือด แม้ว่าผู้นำตลาดดังกล่าวจะเป็น Alibaba และ JD.com แต่ในช่วงที่ผ่านมาแม้จะมีการเข้ามาปราบปรามของรัฐบาล แต่การเติบโตของคู่แข่งรายสำคัญอย่าง Pinduoduo นั้นทำให้ 2 เจ้าใหญ่เริ่มนั่งไม่ติดแล้ว