“เวียนนา” คว้าสุดยอดเมืองคุณภาพชีวิตดีสำหรับ “Expat” ขณะที่ “กรุงเทพฯ” อยู่ในอันดับ 124

เมือง Expat
เวียนนา ประเทศออสเตรีย (Photo: Shutterstock)
“Mercer” บริษัทที่ปรึกษาระดับโลกจัดสำรวจ “สุดยอดเมืองคุณภาพชีวิตดีสำหรับ Expat” โดยเก็บข้อมูลจาก 241 เมืองทั่วโลก ปี 2023 เมืองคว้าแชมป์ ได้แก่ “เวียนนา” ประเทศออสเตรีย ขณะที่ “กรุงเทพฯ” อยู่กลางตารางในอันดับ 124

Mercer จัดทำรายงาน “Quality of Living” สำรวจความเห็นจากพนักงานที่ถูกส่งไปประจำในต่างประเทศทั่วโลก หรือที่เราเรียกกันว่า “Expat” เพื่อจัดลำดับว่าเมืองใดที่ถือว่ามีคุณภาพชีวิตดีที่สุดและแย่ที่สุดสำหรับการส่งพนักงาน (และครอบครัว) ไปทำงานและอยู่อาศัย

ปัจจัยที่ Mercer ใช้ในการสำรวจประกอบด้วยหลายด้าน เช่น โครงสร้างพื้นฐานของเมือง, ระบบสาธารณสุข, ระบบการศึกษา, สภาพแวดล้อมทางสังคมวัฒนธรรม และความมั่นคงทางการเมือง

จาก 241 เมืองที่สำรวจในปี 2023 นี้ ปรากฏว่า “เวียนนา” เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย คือสุดยอดเมืองคุณภาพชีวิตดี ด้วยมาตรฐานการอยู่อาศัยสูง พร้อมด้วยสิ่งแวดล้อมที่รุ่มรวยทางวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์ ทำให้ขึ้นมาอยู่ในอันดับสูงสุด

10 อันดับสุดยอดเมืองคุณภาพชีวิตดีสำหรับ Expat

อันดับ 1 เวียนนา ประเทศออสเตรีย

อันดับ 2 ซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

อันดับ 3 โอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์

อันดับ 4 โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก

อันดับ 5 เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

อันดับ 6 แฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี

อันดับ 7 มิวนิค ประเทศเยอรมนี

อันดับ 8 แวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา

อันดับ 9 ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย

อันดับ 10 ดุสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี

เห็นได้ว่าใน 10 อันดับแรก มีถึง 7 เมืองที่อยู่ในภูมิภาคยุโรป และมี 2 เมืองที่มาจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ขณะที่ภูมิภาคอเมริกามีติดมาเพียง 1 เมืองเท่านั้น

โอ๊คแลนด์ เมืองที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดสำหรับ Expat ในเอเชียแปซิฟิก

ส่วนท้ายตาราง 3 อันดับ ได้แก่ อันดับ 239 บังกี เมืองหลวงของสาธารณรัฐแอฟริกากลาง อันดับ 240 เมืองแบกแดด ประเทศอิรัก และ อันดับ 241 เมืองคาร์ทูม ประเทศซูดาน

ด้านประเทศไทยเรานั้นมี 1 เมืองที่ได้รับการสำรวจคือ “กรุงเทพฯ” คุณภาพชีวิตติดอยู่ในอันดับ 124 ส่วนค่าครองชีพติดอันดับ 113 ของโลก

 

“กัวลาลัมเปอร์” มาแรง คุณภาพชีวิตดี-ค่าครองชีพต่ำ

อย่างไรก็ตาม Mercer เข้าใจดีว่าคุณภาพชีวิตที่ดีในเมืองส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับค่าครองชีพที่สูงด้วยเช่นกัน แต่ก็มีข้อยกเว้นในบางเมืองที่ถือว่า “คุณภาพชีวิตดีแต่มาพร้อมกับค่าครองชีพต่ำ”

ที่น่าสนใจ เช่น “โอ๊คแลนด์” ประเทศนิวซีแลนด์ คุณภาพชีวิตอยู่ในอันดับ 3 ของโลก แต่ค่าครองชีพถือเป็นอันดับ 122 ของโลก หรือ “มอนทรีอัล” ประเทศแคนาดา คุณภาพชีวิตอยู่ในอันดับ 20 แต่ค่าครองชีพเป็นอันดับ 124

(Photo : Shutterstock)

ในกลุ่มข้อมูลนี้มีประเทศในกลุ่มอาเซียนที่ติดโผ คือ “กัวลาลัมเปอร์” ประเทศมาเลเซีย เป็นเมืองคุณภาพชีวิตดีอันดับ 86 และค่าครองชีพถูกมองว่าต่ำถึงอันดับ 203 ของโลก

การจัดข้อมูลความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพชีวิตกับค่าครองชีพนี้ Mercer ต้องการชี้ให้เห็นว่า บางครั้งบริษัทที่ต้องการขยายฐานธุรกิจไปยังต่างประเทศและส่งพนักงานไปประจำ รวมถึงกลุ่มดิจิทัล โนแมด/อาชีพที่ทำงานจากที่ใดก็ได้ในโลก ก็ต้องชั่งน้ำหนักทั้งคุณภาพชีวิตและค่าครองชีพที่เหมาะสมสอดคล้องกันด้วย

Source