Alibaba แพ้คดีต่อ JD.com หลังบังคับร้านค้าขายสินค้าบนแพลตฟอร์มเดียว ผูกขาดตลาด E-commerce

ภาพจาก Shutterstock
JD.com ได้ประกาศว่าบริษัทชนะคดีและได้เงินมากถึง 1,000 ล้านหยวน หลังจากบริษัทฟ้องร้องยักษ์ใหญ่อย่าง Alibaba บังคับร้านค้าขายสินค้าบนแพลตฟอร์มเดียว ถือเป็นพฤติกรรมผูกขาดตลาด E-commerce ในประเทศจีน

สำนักข่าว Reuters รายงานข่าวว่า ศาลประชาชนชั้นสูงในกรุงปักกิ่ง (Beijing High People’s Court) ได้ตัดสินคดีความระหว่าง 2 บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ในคดีที่ JD.com ได้ฟ้องว่า Alibaba ผูกขาดธุรกิจ E-commerce หลังบังคับให้ร้านค้าขายสินค้าบนแพลตฟอร์มเดียวเท่านั้น

ทางด้าน Weibo ของ JD.com ได้แจ้งว่าบริษัทชนะคดีความดังกล่าว โดยบริษัทได้กล่าวว่าผลการตัดสินเป็นสิ่งที่ดีต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีในประเทศจีน และ JD.com ได้ต่อต้านพฤติกรรม “เลือกแพลตฟอร์มเจ้าใดเจ้าหนึ่ง” เพื่อที่จะทำให้เกิดการแข่งขันได้

นอกจากนี้ JD.com จะได้เงินจากการฟ้องร้องคดีความดังกล่าวเป็นเงิน 1,000 ล้านหยวนด้วย หรือคิดเป็นเงินไทย 4,957 ล้านบาท

สำหรับการ “เลือกแพลตฟอร์มเจ้าใดเจ้าหนึ่ง” หรือในภาษาจีน “เลือก 1 จาก 2” เป็นการบังคับให้เจ้าของร้านค้าต่างๆ สามารถลงสินค้าผ่านแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่งเท่านั้น เช่น ถ้าหากร้านค้าเลือกแพลตฟอร์ม TMall ของ Alibaba ไปแล้ว ก็จะไม่สามารถลงสินค้าผ่าน E-commerce คู่แข่งรายอื่นได้

Alibaba ได้โดนหน่วยงานกำกับดูแลของจีนปรับเงินมาแล้วในการผูกขาดแพลตฟอร์มในช่วงปี 2021 ซึ่งค่าปรับดังกล่าวสูงมากถึง 18,000 ล้านหยวน หรือคิดเป็นเงินไทยมากถึง 86,400 ล้านบาท คิดเป็น 4% ของรายได้บริษัทในช่วงเวลาดังกล่าว

คดีความดังกล่าว JD.com ยื่นฟ้องต่อศาลประชาชนชั้นสูงในกรุงปักกิ่งตั้งแต่ปี 2017 และใช้เวลาในการพิจารณาข้อกล่าวหาดังกล่าวหลายปี ก่อนในท้ายที่สุดผลการตัดสินจะออกมาในวันนี้ โดยทางตัวแทนของ Alibaba ได้กล่าวว่าน้อมรับคำตัดสินของศาล