Reuters รายงานจาก “BMW Group” ประกาศยอดขายปี 2023 ขายได้มากกว่า 2.5 ล้านคัน และ 15% ในจำนวนนี้เป็นยอดขายจาก “รถอีวี” ของแบรนด์ ทั้งหมดเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ผลประกอบการล่าสุดของ BMW Group ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2023 ทำยอดขายไปได้ 718,778 คันทั่วโลก เติบโตขึ้น 10.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ทำให้ตลอดปี 2023 บริษัทสามารถขายรถยนต์ได้มากกว่า 2.5 ล้านคัน เติบโตขึ้น 6.5%
ปีที่ผ่านมา BMW เติบโตมากที่สุดในตลาดสหรัฐฯ โดยขายได้เกือบ 396,000 คัน เติบโต 9.4% ส่วนตลาดที่โตน้อยที่สุดคือ จีน ขายได้ 824,932 คัน โตเพียง 4.2%
BMW ยังคาดการณ์ด้วยว่าบริษัทจะสามารถรักษาสัดส่วนยอดขายรถอีวีที่ 15% ของยอดขายรวมบริษัทได้ในปี 2024
เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน บริษัทแจ้งไว้แล้วว่ายอดสั่งซื้อรถยนต์ของ BMW เต็มยาวไปจนถึง 2-3 เดือนแรกของปี 2024 แล้ว ทำให้ผู้บริหารมองว่าบริษัทไม่จำเป็นต้องลงสมรภูมิลดราคาแข่งขันกับค่ายรถยนต์เจ้าอื่นๆ
สำหรับการรายงานผลประกอบการปี 2023 อย่างเป็นทางการของ BMW จะเกิดขึ้นในวันที่ 21 มีนาคมนี้
- “รถอีวี” มือสองยัง “เสื่อมราคา” ไวกว่ารถสันดาป แต่รุ่นที่ยังคงราคาได้ดีที่สุดคือ “Tesla Model 3”
- ‘BYD’ ผงาด! เบียด ‘Tesla’ ขึ้นแท่น “แชมป์ตลาดอีวี” Q4/2023 นับเป็นการเสียตำแหน่งในรอบ 9 ปี
ย้อนไปเมื่อไตรมาส 3 ปี 2023 บริษัทแจ้งผลกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี มีอัตรากำไรเฉพาะแผนกรถยนต์ที่ 10.3% ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ของตลาดที่มองว่าอัตรากำไรส่วนนี้จะอยู่ในช่วง 9.0-10.5%
ก่อนหน้านี้ BMW Group เคยประกาศเป้าหมายไว้ว่า บริษัทจะผลักดันยอดขายรถอีวีขึ้นมามีสัดส่วน 1 ใน 4 ของยอดขายรวมให้ได้ภายในปี 2025 และจะเพิ่มเป็น 50% ของยอดขายรวมภายในปี 2030