อย่างที่รู้กันว่ารถอีวีของจีนกำลังมาแรง ส่งผลให้อุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนกำลังก้าวเข้าสู่หลักชัยสำคัญในปี 2566 ที่ผ่านมา ด้วยการผลิตและการขายที่สูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งปูทางให้ประเทศแห่งนี้อาจกลายเป็นผู้ส่งออกรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลก
ข้อมูลจาก สมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งประเทศจีน (CAAM) ระบุว่า ในปีที่ผ่านมา จีนสามารถผลิตรถยนต์ได้เกิน 30.16 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 11.6% และยอดขายในประเทศเกิน 21.9 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 4.2% อย่างไรก็ตาม ยอดขายก็ยังไม่สามารถจุดกลับไปสู่จุดสูงสุดที่มียอดขายประมาณ 24 ล้านในปี 2560
เนื่องจากการเติบโตภายในประเทศเริ่มชะลอตัว ทำให้ค่ายรถยนต์หันไปบุกตลาดต่างประเทศ ส่งผลให้การส่งออกรถยนต์ของจีนเพิ่มขึ้นเป็น 4.1 ล้านคัน เติบโต 63.7% ส่งผลให้จีนแซงหน้าญี่ปุ่นในฐานะผู้ส่งออกรถยนต์อันดับหนึ่งของโลก
หนึ่งในปัจจัยที่ส่งเสริมการส่งออกของจีนก็คือ การคว่ำบาตรรัสเซีย ทำให้จีนเพิ่มการส่งออกรถยนต์ไปยังรัสเซีย ในขณะที่ค่ายผู้ผลิตในยุโรปและญี่ปุ่นถอนตัว โดยจีนสามารถส่งออกรถยนต์ 840,000 คันไปยังรัสเซียในช่วง 11 เดือนแรกของปี อย่างไรก็ตาม จีนได้พุ่งเป้าการส่งออกรถไปที่ตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยุโรป และออสเตรเลีย
ทั้งนี้ Tesla Model Y เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในประเทศจีนเมื่อปีที่แล้ว โดยมียอดขาย 646,800 คัน รองลงมาคือรถเก๋ง BYD Song ที่ 428,600 คัน ตามรายงานของกลุ่มรถยนต์นั่ง
มีการคาดการณ์จาก Fitch Ratings ว่า ส่วนแบ่งของรถยนต์พลังงานใหม่รวมถึงไฮบริดในยอดขายรถยนต์ของจีนจะเพิ่มขึ้นเป็น 42-45% ในปี 2024 นอกจากนี้ยังคาดการณ์ว่าการส่งออกจะเติบโต 20-30%