CEO ของ DHL กังวลสถานการณ์ในทะเลแดงส่อเค้ารุนแรงเพิ่ม อาจส่งผลต่อการขนส่งสินค้ามายังทวีปเอเชีย

ภาพจาก Unsplash
Tobias Meyer ซึ่งเป็น CEO ของ DHL บริษัทขนส่งพัสดุรายใหญ่จากเยอรมนี ได้แสดงความกังวลต่อสถานการณ์ในทะเลแดงส่อเค้ารุนแรงเพิ่ม อาจส่งผลต่อการขนส่งสินค้ามายังทวีปเอเชียภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งเกิดจากจากการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์

Tobias Meyer ซึ่งเป็น CEO ของ DHL บริษัทขนส่งพัสดุรายใหญ่จากเยอรมนี ได้ให้สัมภาษณ์กับ Fox Business ถึงความกังวลของเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ในทะเลแดงส่อเค้ารุนแรงเพิ่ม หลังจากที่สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ได้ประกาศโจมตีกลุ่มติดอาวุธฮูตี ซึ่งอาจกระทบต่อการขนส่งสินค้าได้

เขากล่าวว่า “จำนวนตู้คอนเทนเนอร์กำลังจะขาดแคลนในทวีปเอเชียในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า” และปัญหาดังกล่าวบริษัทกำลังจับตามองอย่างใกล้ชิด แม้ว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะไม่ร้ายแรงเท่าในช่วงการแพร่ระบาดของโควิดที่ทำให้การขนส่งทางเรือหยุดชะงัก

สถานการณ์ในทะเลแดงนั้นเริ่มย่ำแย่ลง เนื่องจากกลุ่มฮูตีโจมตีเรือสินค้า โดยต้องการตอบโต้ต่อกรณีที่อิสราเอลโจมตีฉนวนกาซา และทางกลุ่มยังออกมาเตือนว่าจะโจมตีเรือสินค้าทุกลำที่เดินทางผ่านเส้นทางทะเลแดงและต้องการเทียบท่าในประเทศอิสราเอล โดยไม่สนใจว่าเป็นเรือชาติใด

ผลดังกล่าวทำให้เรือขนส่งสินค้าหลายลำเลิกใช้เส้นทางทะเลแดง และรอดูท่าทีว่าสถานการณ์จะผ่อนคลายลงหรือไม่

ต่อมาได้มีการจัดตั้งปฏิบัติการ Prosperity Guardian นำโดยสหรัฐอเมริกา และพันธมิตร เช่น สหราชอาณาจักร บาห์เรน แคนาดา นอร์เวย์ อิตาลี ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ สเปน ฯลฯ จะวางกำลังคุ้มกันบริษัทเดินเรือที่ขนส่งสินค้าระหว่างทะเลแดงจนถึงคลองสุเอซเพื่อความปลอดภัย

อย่างไรก็ดีกลุ่มติดอาวุธฮูตีกลับยังมีการโจมตีเรือสินค้า และเพิ่มจำนวนมากขึ้น จนทำให้ท้ายที่สุด สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ได้ประกาศโจมตีกลุ่มดังกล่าว โดยให้เหตุผลเพื่อที่จะทำให้กลุ่มฮูตีไม่สามารถโจมตีเรือสินค้าได้อีก

CEO ของ DHL ยังได้กล่าวเสริมว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลทำให้เรือเดินทางกลับทวีปเอเชียไม่ตรงเวลา ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์สำหรับการขนส่งในอนาคต

โดยสถานการณ์ในทะเลแดงส่อเค้ารุนแรงนั้นส่งผลทำให้เรือขนสินค้า หรือตู้คอนเทนเนอร์ จะต้องเดินทางอ้อมทวีปแอฟริกาแทน ซึ่งใช้เวลาเพิ่มอีกราวๆ 2 สัปดาห์ ส่งผลทำให้ต้นทุนค่าขนส่งเพิ่มมากขึ้น และยังรวมถึงต้นทุนจากการทำประกันภัยทางเรือนั้นเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน