บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือกลุ่มบริษัทเอเซีย พลัส เผยแผนธุรกิจและกลยุทธ์ปี 2567-2569 ชู Wealth Management เป็นหัวหอกในการเติบโต พร้อมรุกตลาดกองทุนรวม ต่อยอดบริการทางการเงินและผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุม จากเดิมที่เน้นไปยังธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์อย่างเดียว
ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวถึงสภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยเขามองว่าเศรษฐกิจไทยน่าเป็นห่วง จากเหตุผลที่เม็ดเงินลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านมากกว่า เช่น เวียดนาม ลาว
ขณะเดียวกันก็มองว่าประเทศไทยไม่มีโครงการใหญ่ๆ ดึงดูดนักลงทุน เขายังมองว่าไทยนั้นเหลือแต่บุญเก่าและมองว่าเพื่อนบ้านอาจแย่งไปด้วย เช่น การผลิตสินค้า Electronics ที่ตอนนี้เวียดนามได้เปรียบกว่า และทางออกของรัฐบาลชุดไหนๆ ก็คือต้องเอาใส่ใจ และต้องลงทุนเพิ่ม
ผลที่เกิดขึ้นทำให้ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) มองว่าหุ้นไทยนั้นมีผลตอบแทนไม่ดีเท่าไหร่ และกลายเป็นว่าหุ้นสหรัฐฯ ดีกว่าด้วยซ้ำ
สำหรับกลยุทธ์หลักในการขับเคลื่อนองค์กรในระยะ 3 ปีนั้นจะเน้นไปที่ 4 แกนหลักที่สำคัญ ได้แก่
- Product & Value โดยมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการให้มีความหลากหลายเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า
- Process & Customer Experience นำเอาเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงานและการบริการ เพื่อมุ่งสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
- Brand Value & Perception มุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ให้โดดเด่นและเป็นที่ยอมรับโดยเฉพาะการปรับภาพลักษณ์บริษัทให้ทันสมัยและเหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายโดยเฉพาะกลุ่มผู้ลงทุนรายใหญ่ (High Net Worth)
- People & Innovation พัฒนาศักยภาพของบุคลากรโดยมุ่งเน้นการพัฒนาความรู้ในด้านผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ความเข้าใจลูกค้า โดย ก้องเกียรติ กล่าวถึงการพัฒนา Relationship Manager (RM) ให้มีความสัมพันธ์กับลูกค้าเพิ่มมากขึ้น และอยู่เคียงคู่กับลูกค้าทุกเวลา ไม่ว่าจะกำไรหรือขาดทุน
นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะยกระดับบริการจากธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์หรือ Broker หุ้น ไปเป็นธุรกิจ Wealth Management แต่ ก้องเกียรติ ก็มองว่าธุรกิจดังกล่าวมีความท้าทาย จะเห็นได้จากสถาบันการเงินของไทยหลายแห่งต้องจับมือกับผู้เล่นจากต่างประเทศ
ในปี 2024 นี้ ก้องเกียรติ ได้กล่าวถึงการเน้นไปยังธุรกิจ 2-3 เรื่องหลักๆ ได้แก่ ธุรกิจบริหารกองทุนรวม (บลจ.) จะต้องกองทุนรวมให้บริการลูกค้ามากขึ้น โดยเฉพาะจากนโยบายภาษีที่ลงทุนในต่างประเทศแม้ว่าจะยังมีความไม่ชัดเจนก็ตาม
ขณะที่ธุรกิจอื่นๆ เช่น ธุรกิจวาณิชธนกิจ จะเน้นไปยังเรื่องการควบรวมกิจการ หรือเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในด้านต่างๆ ขณะที่ธุรกิจการลงทุนของบริษัทก็จะเน้นการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบริษัททั้งในและนอกตลาดหุ้น
ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ตั้งเป้า KPI ในปี 2024 นี้รายได้รวมจะเติบโต 10%