ปี 2024 นี้อาจเป็นปีทองของ เงิน เพราะราคาอาจจะแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี เนื่องจากความต้องการทั่วโลกที่คาดว่าจะสูงถึง 1.2 พันล้านออนซ์เลยทีเดียว
สถาบันโลหะเงิน (Silver Institute) ได้ประเมินว่า ความต้องการ โลหะเงิน ทั่วโลกคาดว่าจะสูงถึง 1.2 พันล้านออนซ์ ในปี 2024 ซึ่งจะเป็น ระดับสูงสุดเป็นอันดับสองเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากโลหะเงินถูกใช้เป็นหลักในหลายอุตสาหกรรม อาทิ การผลิตรถยนต์, แผงโซลาร์เซลล์, เครื่องประดับ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
โดยเฉพาะความต้องการเครื่องเงินที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 9% และความต้องการเครื่องประดับเพิ่มขึ้น 6% ในปีนี้ โดย อินเดีย จะเป็นประเทศหลักที่จะผลักดันการซื้อเครื่องประดับให้พุ่งสูงขึ้น รวมถึงการฟื้นตัวของตลาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ก็พร้อมที่จะกระตุ้นตลาดเงินเพิ่มเติม
“การเติบโตของหลายอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่งขึ้น เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาหลักสําหรับความต้องการโลหะเงินทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น เราคิดว่าโลหะเงินจะมีปีที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของความต้องการ” Michael DiRienzo กรรมการบริหารของ Silver Institute กล่าว
ไม่ใช่แค่ความต้องการที่มากขึ้น แต่แร่เงินอยู่ในภาวะขาดแคลน และมีปริมาณลดลงอย่างเห็นได้ชัด อย่างในสต๊อกการถือครองซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ในนิวยอร์กและลอนดอน ก็มีการลดลงมากกว่าทองคำ
DiRienzo คาดว่า ราคาโลหะเงินจะแตะ 30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งจะเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี จากปัจจุบันโลหะเงินมีมูลค่าประมาณ 22.5 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยครั้งสุดท้ายที่โลหะเงินแตะ 30 ดอลลาร์ ต้องย้อนไปในในเดือนกุมภาพันธ์ 2013
ทั้งนี้ เงินมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับ ทองคำ เมื่อพูดถึงราคา โดยราคาทองคํามักจะสูงขึ้นในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจอ่อนแอหรือความไม่แน่นอน และเงินเองก็มีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและผันผวนมากกว่าทองคํา แต่มันมีแนวโน้มที่จะมีประสิทธิภาพเหนือกว่าทองคำในช่วงที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง แต่มีประสิทธิภาพต่ำกว่าเมื่อมีความเครียดทางเศรษฐกิจ