“แอฟ-ทักษอร” พรีเซ็นเตอร์คนแรกในรอบ 95 ปีของ “ยูบิลลี่” ตอกย้ำแบรนด์ “เพชร” คุณภาพระดับโลก

ยูบิลลี่
“ยูบิลลี่ ไดมอนด์” เปิดตัว “แอฟทักษอร” เป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรกของแบรนด์ในรอบ 95 ปี ช่วยโปรโมตย้ำแบรนด์ “เพชร” คุณภาพระดับโลกจากเบลเยียม พร้อมขยายวงเข้าถึงลูกค้าระดับกลางได้มากขึ้น

ก่อตั้งมานาน 95 ปีแต่ไม่เคยมีพรีเซ็นเตอร์จนกระทั่งปีนี้ เมื่อบริษัทต้องการเสริมแกร่งให้จุดยืนของแบรนด์ชัดและเข้าถึงลูกค้ากว้างขึ้น ทำให้ต้องมีพรีเซ็นเตอร์คนแรก

“อัญรัตน์ พรประกฤต” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) เจ้าของแบรนด์เครื่องเพชร “ยูบิลลี่ ไดมอนด์” ประกาศแคมเปญใหญ่ “World Class Excellence” พร้อมเปิดตัว “แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ” เป็น “Friend of Jubilee Diamond” หรือพรีเซ็นเตอร์คนแรกของแบรนด์

“อัญรัตน์ พรประกฤต” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน)

ภายใต้แคมเปญนี้บริษัททุ่มงบการตลาด 50 ล้านบาท จัดทำหนังโฆษณา TVC ฉายทุกช่องทางดิจิทัล และขึ้นป้ายโฆษณา OOH ทั่วกรุงเทพฯ และหัวเมืองต่างจังหวัด เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคทั่วประเทศ

อัญรัตน์กล่าวว่า เหตุที่ต้องมีพรีเซ็นเตอร์เพราะต้องการให้การโปรโมตแบรนด์เข้าถึงลูกค้าเป็นวงกว้าง และที่ต้องเป็น “แอฟ-ทักษอร” เพราะเธอมีคาแรกเตอร์ที่ตรงกับ “เพชรยูบิลลี่” คือภายนอกอาจจะดูเป็นลุคสาวหวานและเรียบร้อย แต่ภายในเป็นคนแข็งแกร่ง เป็นลูกคนโตที่มีความเป็นผู้นำสูง ขับรถสปอร์ต จึงมีความน่าสนใจและเป็นคนที่มีหลากหลายแง่มุม

 

“เพชร” ระดับโลกสำหรับทุกระดับราคา

ด้าน “key messages” ที่จะสื่อสารกับแคมเปญนี้ อัญรัตน์กล่าวว่า ใจความหลักคือบริษัทต้องการ “ย้ำจุดแข็ง” ของแบรนด์ให้ชัดเจน นั่นคือการเป็นเครื่องประดับเพชรมาตรฐาน “ระดับโลก”

โดยเพชรทุกเม็ดของยูบิลลี่คัดสรรจากแหล่งเพชรที่เมืองแอนด์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม มีใบรับรองจากสถาบันรับรองเพชรชั้นนำระดับโลก รวมถึงใช้นวัตกรรมการผลิตด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงจากญี่ปุ่น ให้เพชรเป็นประกายสูงจากวิธีการเจียระไนและดีไซน์

ที่สำคัญคือต้องการย้ำว่า เพชรทุกระดับราคาที่ขายในร้านยูบิลลี่ ไดมอนด์ใช้มาตรฐานเดียวกันนี้ทั้งหมด ต้องการให้ลูกค้ามั่นใจว่าไม่ว่าจะซื้อที่สาขาใดใน 131 สาขาทั่วประเทศก็จะได้เพชรแท้ตามมาตรฐาน

 

ปีที่รุกหนักตลาด “Mid-Level” มากขึ้น

อัญรัตน์แบ่งแยกกลุ่มสินค้าในร้านคร่าวๆ เป็น 2 กลุ่มใหญ่คือ กลุ่ม “High-Level” เครื่องเพชรระดับสูงในราคามากกว่า 1 แสนบาทต่อชิ้น และกลุ่ม “Mid-Level” ราคาไม่เกิน 1 แสนบาทต่อชิ้น

ส่วนกลุ่มลูกค้าที่ซื้อก็จะแบ่งเป็น 8 เซ็กเมนต์ตามยอดการใช้จ่ายต่อปีและไลฟ์สไตล์การใช้เครื่องเพชร ไล่ตั้งแต่กลุ่มผู้ซื้อชิ้นแรก (Entry Level) ไปจนถึงระดับสูงสุดคือกลุ่ม “High Spender” ผู้ซื้อเพชรหลักสิบล้านบาทต่อปี

สร้อยเพชรจากยูบิลลี่

ที่ผ่านมายอดขายในกลุ่ม “High Spender” คิดเป็นสัดส่วนในรายได้รวมของยูบิลลี่สูงถึง 20-25% เป็นกลุ่มลูกค้าที่ทางบริษัทดูแลอย่างใกล้ชิดและมีอีเวนต์สร้างประสบการณ์เอ๊กซ์คลูซีฟให้อยู่เสมอ

อย่างไรก็ตาม อัญรัตน์มองว่าปีนี้แบรนด์ต้องการจะขยายตลาดในกลุ่ม “Mid-Level” ให้มากขึ้น โดยกลุ่มเครื่องเพชรราคาหลักหมื่นต่อชิ้นนี้ไม่ได้มีแค่กลุ่มแหวนหมั้น-แหวนแต่งงาน แต่ยังมีเครื่องเพชรสำหรับสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้ง่ายที่ลูกค้ามักจะซื้อให้ตัวเอง (self purchase) โดยไม่ต้องรอโอกาสพิเศษ

ทำให้ยูบิลลี่ต้องการจะเน้นหนักกับตลาดนี้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความถี่ในการซื้อ สร้างลอยัลตี้ในแบรนด์ หรือดึงให้เพิ่มการใช้จ่ายต่อบิล ซึ่งทั้งหมดนี้จะใช้พลังของพรีเซ็นเตอร์อย่าง “แอฟ-ทักษอร” มาช่วยในการประชาสัมพันธ์

ยูบิลลี่
แหวนเพชรแถวสไตล์มินิมอล ใส่ได้ในชีวิตประจำวัน และมีแบบ Unisex ใช้บุกตลาด Mid-Level

รวมถึงยูบิลลี่จะออกแบบดีไซน์เครื่องประดับแบบใหม่กว่า 300 ดีไซน์ที่จะออกวางจำหน่ายในปีนี้ เน้นการสร้างดีไซน์ที่ใส่ได้ในชีวิตประจำวัน มีความหลากหลายให้เลือกตามบุคลิกและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน และมีหลายแบบที่จะเป็นเครื่องประดับ “Unisex” หลังพบดีมานด์ของกลุ่มผู้ชาย / LGBTQ+ สนใจใส่เครื่องประดับเพชรมากขึ้น หรือผู้หญิงเองก็ต้องการเครื่องประดับที่ไม่หวานจนเกินไป เป็นโอกาสการขายของเพชรยูบิลลี่

 

“ยูบิลลี่” ตั้งเป้ารายได้โต 8-10%

สรุปเป้ารายได้ของปีนี้ อัญรัตน์ตั้งเป้ายูบิลลี่จะเติบโต 8-10% จากการกระตุ้นตลาดผ่านแคมเปญ

ทั้งนี้ รายงานผลประกอบการของยูบิลลี่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อปี 2566 ทำรายได้รวม 1,580 ล้านบาท (-12.7% YoY) และทำกำไรสุทธิ 203 ล้านบาท (-34.6% YoY) ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และผู้บริโภคนิยมใช้จ่ายกับการท่องเที่ยวต่างประเทศมากขึ้นหลังเปิดประเทศอย่างเต็มที่

ส่วนปี 2567 นี้อัญรัตน์ยอมรับว่าสภาวะเศรษฐกิจอาจจะยังไม่เอื้อ เพราะถึงแม้กลุ่มเป้าหมายจะอยู่ในกลุ่มที่มีกำลังซื้อ แต่สภาพเศรษฐกิจที่ซบเซาอาจมีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกในการจับจ่ายได้

“เราควบคุมเศรษฐกิจไม่ได้ แต่ที่เราทำได้คือการหาทางเข้าถึงลูกค้าเพิ่มขึ้น ทำให้เราต้องสร้างพรีเซ็นเตอร์​ มาร์เก็ตติ้งในปีนี้เพื่อขยายฐานลูกค้า” อัญรัตน์กล่าวปิดท้าย