Swift เวอร์ชั่น “อีโคคาร์”

หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของงานมอเตอร์ โชว์ หรือ Bangkok International Motor Show 2012 คือ การแข่งขันในตลาดอีโอ คาร์ ที่จากเดิมเป็นการแข่งขันจาก 2 ค่าย นิสสันกับฮอนด้า แต่ในปีนี้มิตซูบิชิกับซูซูกิเข้ามาเป็นผู้ท้าชิงของตลาดนี้ 

ซูซูกิเปิดตัวรถรุ่นใหม่ อีโค คาร์ เป็นครั้งแรก แต่ยังคงใช้ชื่อรถ All New Suzuki Swift อิงกับ Sukuzi Swift ที่เคยทำตลาดมาแล้ว วัลลภ ตรีฤกษ์งาม ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายการตลาด กล่าวถึงเหตุผลว่า “แบรนด์ Swift มีความแข็งแรงด้านดีไซน์ ที่ผู้บริโภครับรู้แล้ว และจุดอ่อนด้านทัศนคติของผู้บริโภคเวลาที่คิดถึง อีโค คาร์ จะคิดว่าเป็นรถที่ตัดอุปกรณ์เสริมออก แล้วทำให้เล็กลง แต่สิ่งที่ All New Suzuki Swift ทำ คือเราพยายามสื่อสารว่า เป็นอีโค คาร์ที่ให้มากกว่า หรือที่เรียกว่า More Swift ดังนั้นเราจึงเลือกให้ชื่อเดิม ดีไซน์คล้ายของเดิม ที่แสดงความเป็น Unique ได้ แต่เครื่องยนต์ข้างในเปลี่ยนใหม่หมด” 

การเลือกวาง Positioning สินค้า ซูซูกิต้องการให้ All New Suzuki Swift เป็นอีโค คาร์ที่มีความตื่นเต้น เร้าใจ ไม่ตกเทรนด์ ซึ่งเป็นสิ่งที่แบรนด์อื่นๆ ยังไม่หยิบไปพูด จึงสร้างสรรค์ Tag Line ของแบรนด์ “เร้าทุกประสาทสัมผัส” สำหรับคุณสมบัติด้านสินค้า (Product) รุ่นนี้จึงใช้เครื่องยนต์ 1.25 ลิตร แทนที่จะเป็น 1.2 ลิตรเหมืนอคู่แข่งรายอื่น ก็สร้างความรู้สึกว่ามีความแรงมากขึ้นแต่ก็ยังอยู่ในกฎเกณฑ์เรื่องอีโค คาร์ที่มีกำลังไม่เดิน 1.3 ลิตร 

ส่วนการสื่อสารภายใต้งบประมาณ 400 ล้านบาท จะมีทั้งการสื่อสารแบบ Above the line และ Below the line อย่างไรก็ตาม กิจกรรมการตลาดส่วนใหญ่จะลงไปในระดับตัวแทนจำหน่าย อีกทั้งเปิดโชว์รูมมากขึ้นจากเดิมที่มี 50 สาขา เป็น 70 สาขา 

ส่วนพรีเซ็นเตอร์ (Presenter) ที่ซูซูกิเลือกให้เป็นตัวแทนภาพลักษณ์ของผู้ขับขี่ ซูซูกิเลือก หลุยส์ สก็อตต์ ซึ่งโชว์ภาพลักษณ์ด้าน Performance ของรถได้ดี เพราะเคยเป็นนักแข่งรถ รวมทั้งมีความเฟรนด์ลี่ มีเสน่ห์ คนชื่นชมมานานไม่เบื่อ และเป็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ แต่ก็ขับ All New Suzuki Swift  ได้อย่างสบาย  

ส่วนความคาดหวังกับการเปิดตัวรุ่นรถอีโค คาร์ท่ามกลางการแข่งขันของค่ายดังทั้ง 4 ซูซูกิ มองว่าในปีนี้ตลาดรถอีโค คาร์น่าจะมียอดขายโดยรวม 1 แสนคัน จากตลาดรถทั้งหมด 1 ล้านคัน โดยซูซูกิหวังสร้างยอดขาย 10,000 คันภายในปีนี้ “หลายคนอาจจะมองว่าซัพพลายในตลาดอีโค คาร์มีมากกว่าดีมานด์ แต่ผมอยากบอกว่าสำหรับอีโค คาร์การมองลูกค้าจะต้องต่างออกไป ไม่ใช่แค่มองผู้ที่ขับรถอยู่แล้ว แต่น่าจะพิจารณถึงลูกค้าใหม่ที่ขับรถกระบะไม่เกิน 1 ตัน แล้วไม่ได้บรรทุกของจริงก็อาจเปลี่ยนใจมาใช้อีโค คาร์ซึ่งประหยัดน้ำมันกว่า กลุ่มที่เคยขับขี่มอเตอร์ไซค์ที่อยากใช้รถเก๋ง หรือนักศึกษาที่เพิ่งเรียนจบ จากเดิมที่มองได้แค่คอมแพค คาร์ซึ่งราคาสูงกกว่าก็อาจจะเปลี่ยนมาซื้ออีโค คาร์ซึ่งเหมาะกับกำลังซื้อ”  

cellpadding=”2″ cellspacing=”2″>

style=”vertical-align: top; font-weight: bold;”>Campaign : All New
Suzuki Swift Budget : 400 ล้านบาท Positioning : เร้าใจ ตื่นเต้น ไม่ตกเทรนด์ Target : New Comer เช่น ผู้ที่ขับรถกระบะ,
มอเตอร์ไซค์ และนักศึกษาจนถึง First Jobber Expectation : 10,000 คันภายในปี 2012 Presenter : หลุยส์ สก็อตต์
สะท้อนภาพลักษณ์ผู้ขับขี่ที่เน้น Performance รถ ทั้งๆ ที่เป็นรถอีโค คาร์ Showrrom : เพิ่มจาก 50 เป็น 70 แห่ง

cellpadding=”2″ cellspacing=”2″>

ตัวเลขคาดการณ์ตลาดรถยนต์ในปี
2012 จำนวนยอดขายรถใหม่ทั้งหมด 1 ล้านคัน จำนวนยอดขายรถอีโค
คาร์ 1 แสนคัน

cellpadding=”2″ cellspacing=”2″>

Positioning
ของอีโค คาร์เมืองไทย 5 รุ่น Nissan March
: “อีโค คาร์ขายดีที่สุด
มาตรฐานส่งออกญี่ปุ่น” ชูความเป็นเบอร์ 1
และคุณภาพที่มีประเทศญี่ปุ่นเป็นตัวเปรียบเทียบให้เห็นชัดเจน Honda Brio : “ความสุขที่ลงตัว” สื่อสาร
Emotion Benefit ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ Nassan Almera
: “ความสุขที่กว้างขึ้น”
ถึงแม้จะเป็นอีโค คาร์ แต่ดีไซน์กับขนาดรถก็เทียบชั้นคอมแพค คาร์ Mitsubishi
Mirrage : “Be More”
สะท้อนผ่านออปชั่นในตัวรถที่จัดเต็ม All New
Suzuki Swift : “เร้าทุกประสาทสัมผัส”
โชว์ศักยภาพแม้ว่าจะเป็นอีโค คาร์ก็แรงได้