”บิ๊กโฟร์ พรีเมียร์ลีก” เชียร์สนั่น ปั้นแบรนด์ให้แรง

“พรีเมียร์ลีก อังกฤษ” ไม่ใช่แค่ฟุตบอล แต่คือไลฟ์สไตล์ของผู้คนทั่วโกลกว่า 1,000 ล้านคน 500 ครัวเรือนใน 200 ประทศ จึงชัดเจนว่านี่คือ ”ซูเปอร์แบรนด์”  ที่สามารถนำมาเป็นเครื่องมือทางการตลาด ของสินค้าและบริการต่าง ๆ ในการจับกลุ่มเป้าหมายไว้ให้ได้

ความพยายามของสโมสรฟุตบอลต่าง ๆ ในการสร้างทีม คือมูลค่าสำคัญของ ”พรีเมียร์ลีก อังกฤษ” ที่ช่วยจัดเต็มด้วยกลยุทธ์การตลาด โดยเฉพาะการเข้าถึงผู้ชมจำนวนมากด้วยการถ่ายทอดสด และการสร้างดารานักเตะประจำทีม  โดยมีท็อปฟอร์ม 20 ทีมในแต่ละฤดูกาล และมีระดับบิ๊กโฟร์ อย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลิเวอร์พูล เอฟเวอร์ตัน และเชลซี เป็นแม่เหล็ก

เม็ดเงินจึงสะพัดใน”พรีเมียร์ลีก อังกฤษ” ทุกปี ตั้งแต่ป้ายขอบสนาม ชื่อลีก สนามของแต่ละทีม อกเสื้อนักเตะ เพราะแบรนด์สินค้าต่าง ๆ จ้องอยากได้โลโก้มูลค่าพันล้านของทีมดังมาเชื่อมโยงถึงกลุ่มเป้าหมาย

ในเมืองไทยนับเป็นพื้นที่คึกคักและทำเงินของบิ๊กโฟร์ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่กระแสงยังแรงไม่มีตก และยิ่งหากการถ่ายทอดสดทั่วถึง เข้าถึงง่ายมากยิ่งขึ้น ทีมดังทั้ง 4 ทีมนี้คงกวาดเม็ดเงินจากไทยไปได้อีกไม่น้อย จากปัจจุบันมีหลายแบรนด์ที่ทุ่มเม็ดเงินกันไปแล้วไม่ต่ำกว่าร้อยล้าน หรือบางแบรนด์ถึงระดับพันล้าน 

4 ทีมยักษ์ของพรีเมียร์ลีกอังกฤษ  มีฐานผู้ชมในระดับวัยที่ต่าง ๆ กัน จึงมีประโยชน์ชัดเจนว่าสินค้าใดที่หวังลูกค้ากลุ่มผู้ใหญ่ วัยทำงานอย่างกลุ่ม Gen X ที่อายุ 35 ปีขึ้นไป คำตอบมักจะตกลงที่”ลิเวอร์พูล” ส่วนที่เด็กกว่าจะเลือกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือหากจะดูเด็กกว่านั้น เชลซี และเอฟเวอร์ตัน ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ซึ่งไม่ว่าเป็นทีมใดตอบโจทย์แบรนด์ได้แน่นอนคือการสร้างการรับรู้ และทำให้แบรนด์ดูดี และหากทำกิจกรรม สร้างสรรค์แคมเปญได้มาก ก็ได้ยอดขายแน่นอน 

ทั้งหมดนี้ POSITIONING มีกรณีศึกษาจากแบรนด์ดัง อย่างค่าย ช้างที่ชน สิงห์ หรือวงการแบงก์อย่างธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด  หรือผู้มาใหม่อย่างมันฝรั่ง มิสเตอร์โปเตโต้ หรือที่ไม่น่าจะเกี่ยวอย่างแบตเตอรี่  3K ก็เกาะกระแสได้อย่างดี