ดูเหมือนว่าราคาน้ำมันทั่วโลกจะยังไม่ลดลงง่าย ๆ เพราะเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา รัสเซียและสมาชิก OPEC+ อื่น ๆ ได้ประกาศขยายเวลาการลดการผลิตน้ำมันที่ประกาศครั้งแรกในปี 2023 โดยเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงระหว่างผู้ผลิตน้ำมันในการเพิ่มราคาตามความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
ย้อนไปช่วงเดือนพฤศจิกายน 2023 กลุ่ม OPEC+ ได้มีมติในการปรับลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจจำนวน 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน จนถึงไตรมาส 1/2024 ล่าสุด กลุ่ม OPEC+ ได้ประกาศขยายระยะเวลาการลดกำลังการผลิตไปจนถึงไตรมาส 2/2024 เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาด ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า มีแนวโน้มที่จะปรับลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีนี้
โดย ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ํามันชั้นนําจะยังคงลด 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่ รัสเซียและอิรัก จะลดการผลิตลงเหลือ 471,000 และ 220,000 บาร์เรลตามลําดับ ปรับลดลงจาก 500,000 และ 223,000 บาร์เรล ส่วนประเทศอื่น ๆ ยังคงเดิม อาทิ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 163,000; คูเวต 135,000; คาซัคสถาน 82,000; แอลจีเรีย 51,000 และโอมาน 42,000 บาร์เรลต่อวัน
“หลังจากสิ้นสุดไตรมาสที่ 2 การปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมเหล่านี้จะค่อย ๆ กลับมา อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดด้วย” อเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีของรัสเซีย กล่าว
การขยายเวลาลดกำลังการผลิตน้ำมันส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น โดยราคา West Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐทะลุ 80 ดอลลาร์ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในทะเลเหนือแตะระดับสูงสุดของเดือนที่ 83.55 ดอลลาร์
ทั้งนี้ การรุกรานยูเครนของรัสเซียในปี 2022 ส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นถึง 140 ดอลลาร์ ซึ่งส่งผลให้รายได้ทั่วทั้งอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น และนับตั้งแต่ช่วงสิ้นปี 2022 พันธมิตรผู้ผลิตน้ำมัน OPEC+ ของ 22 ประเทศ ได้ดำเนินการลดกำลังการผลิตไปแล้วมากกว่า 5 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd)
ที่ผ่านมา ชาติตะวันตกพยายามคว่ำบาตรน้ำมันของรัศเซีย ส่งผลให้รัสเซียต้องหันไปส่งออกน้ำมันไปยังประเทศอื่น ๆ เช่น จีนและอินเดียแทน