ดัชนีหุ้นญี่ปุ่นอย่าง Nikkei 225 ได้ทำสถิติใหม่ที่ 40,000 จุดเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยปัจจัยที่ทำให้หุ้นญี่ปุ่นมาถึงจุดนี้ได้คือมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน กำไรของบริษัททำสถิติใหม่ การปฏิรูปด้านธรรมาภิบาล หรือแม้แต่เม็ดเงินจากนักลงทุนชาวต่างชาติ
ดัชนี Nikkei 225 ซึ่งรวบรวมบริษัทในประเทศญี่ปุ่นที่มีขนาดบริษัทใหญ่ที่สุด 225 บริษัท โดยล่าสุดวันนี้ (จันทร์ที่ 4 มีนาคม) ได้ทำสถิติสูงสุดใหม่ทะลุ 40,000 จุดเป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่ดัชนีหุ้นญี่ปุ่นได้เอาชนะจุดสูงสุดเดิมที่เคยทำไว้ตั้งแต่ปี 1989 ไว้ได้
ผลกระทบจากสภาวะตลาดหุ้นตกลงอย่างหนักของญี่ปุ่นหลังจากปี 1989 ยังก่อเกิดปัญหาคือ เศรษฐกิจมีปัญหาจากเงินฝืดที่เกาะกินเป็นระยะเวลายาวนานตั้งแต่ยุค 1990 จนทำให้มีการตั้งฉายาว่า ‘ทศวรรษที่หายไป’
มาตรการธนู 3 ดอก ซึ่งถือเป็นมาตรการผ่อนคลายทางการเงินตั้งแต่สมัยนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจของญี่ปุ่นเกิดสภาวะดังกล่าวซ้ำรอย โดยมาตรการดังกล่าวธนาคารกลางญี่ปุ่นได้ซื้อสินทรัพย์ต่างๆ ในตลาดหุ้นไม่ว่าจะเป็น ETF หุ้นญี่ปุ่น พันธบัตรรัฐบาล หรือกองทรัสต์ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลทำให้ดัชนี Nikkei 225 ปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา
ในช่วงที่ผ่านมากำไรของบริษัทจดทะเบียนญี่ปุ่นยังทำสถิติสูงสุดติดต่อกันหลายไตรมาส ขณะที่ค่าเงินเยนที่อ่อนค่ายังส่งผลให้บริษัทที่ทำธุรกิจในต่างประเทศมีกำไรเพิ่มสูงขึ้น ไม่เพียงเท่านี้ญี่ปุ่นเองมีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ส่งผลทำให้ดัชนีหุ้นญี่ปุ่นยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันญี่ปุ่นยังสนับสนุนให้มียกเว้นการจัดเก็บภาษีจากกำไรและเงินปันผลที่ได้รับจากการลงทุนบางส่วนภายใต้โครงการ Nisa ซึ่งจะสร้างผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นเพิ่มมากขึ้น รวมถึงตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่นมีนโยบายในการปฏิรูปด้านธรรมาภิบาล ทำให้บริษัทมีความโปร่งใสมากขึ้น
ขณะเดียวกัน การเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในบริษัทญี่ปุ่นของนักลงทุนชื่อดังอย่าง Warren Buffett ทำให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเริ่มเป็นที่สนใจของนักลงทุนชาวต่างชาติมากขึ้น นอกจากนี้ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน ยังทำให้เม็ดเงินของนักลงทุนยิ่งไหลเข้าไปยังญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น
ในปี 2023 ที่ผ่านมาตลาดหุ้นญีปุ่นถือเป็นอีก 1 ตลาดหุ้นที่ให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดในโลก และในปี 2024 ยังทำผลตอบแทนที่ดี นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาดัชนีได้ให้ผลตอบแทนไปแล้วถึง 20.20%
อย่างไรก็ดีเศรษฐกิจของญี่ปุ่นนั้นถือว่าอยู่ในสภาวะท้าทายจากปัญหาโครงสร้างประชากรที่มีผู้สูงอายุจำนวนมาก ทำให้แรงงานมีจำนวนขาดแคลน ซึ่งส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะยาว
โดยบทวิเคราะห์ล่าสุดจาก Bank Of America นั้นนักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ว่าดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่นในสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ 41,000 จุด จากปัจจัยของกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่ยังเพิ่มขึ้นสูงต่อเนื่อง
ที่มา – Al Jazeera, Reuters