จากปกติที่ซีอีโอของค่ายรถยนต์จะใส่สูทผูกไทด์ แล้วขึ้นโพเดียมแถลงผลประกอบการ หรือวิสัยทัศน์ แต่ที่บูธของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ดร.อเล็กซานเดอร์ เพาฟเลอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลับปรากฏตัวในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 33 ในชุดสีเหลืองสดใส เขาเริ่มจากการเปิดวิทยุบนรถเบนซ์ SLK เปิดประทุน โดยมีเสียงดนตรีของวงมืออาชีพที่นำโดยโก้ มิสเตอร์แซ็กแมน ดังขึ้น จากนั้นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเบนซ์ก็ร่วมแจมกับวงในฐานะมือคีย์บอร์ด
ระหว่างที่เสียงเพลงบรรเลงไปตามคาแร็กเตอร์ของคอนเซ็ปต์รถในแต่ละคันที่นำมาเปิดตัวในงานประกอบด้วย 1.The New B-Class รถยนต์นั่งสำหรับครอบครัวสไตล์คอมแพคสปอร์ตทัวเรอร์ 2. The New M-Class รถอเนกประสงค์ออฟโรดสไตล์สปอร์ต และไฮไลต์ของเบนซ์ คือ รถคอนเซ็ปต์ A-Class คอมแพคคาร์เจเนอเรชั่นใหม่
เมื่อมาถึงไฮไลต์ของ ดร.อเล็กซานเดอร์ ก็เร่งจังหวะเพลงให้เป็นสไตล์ฟังกี้เพิ่มความเร้าใจขึ้น ในเวลาเดียวกัน Robert Lesni, Senior Manager Exterior Design, Mercedes-Benz Research & Development, Daimler AG ดีไซเนอร์ผู้ออกแบบรถตัวจริง ก็สเก็ตช์รูปรถทั้ง 3 รุ่นให้ผู้ชมได้ดูแบบสดๆ
“ผมหวังว่าทุกคนคงประทับใจและคิดถึงเบนซ์ผ่านสิ่งที่คุณสัมผัส 70% จากสิ่งที่เห็น 30% จากสิ่งที่ได้ยิน และ100% จากที่พวกคุณรู้สึก” นี่คือสิ่งที่นายใหญ่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย สื่อออกมา เพื่อต้องการสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับผู้ที่มาเยี่ยมเยือนบูธเจ้าตลาดรถหรู
คมกริช นงค์สวัสดิ์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้เหตุผลที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ใช้วิธีการนำเสนอในรูปแบบที่ต่างไปจากเดิม เพื่อต้องการสื่อสารภาพลักษณ์ของเบนซ์ในรูปแบบใหม่ ไม่ใช่แค่การนำเสนอข้อมูลเรื่องของเครื่องยนต์ หรือพูดถึงยอดขายโดยรวม หรือเป้าหมาย ซึ่งข้อมูลเหล่านี้หาได้ใน Press Release อยู่แล้ว แต่ต้องการนำเทคโนโลยีมาเชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์ของคน ผ่านดนตรีและภาพวาด เพื่อให้เห็นว่ารถก็เป็นส่วนหนึ่งของศิลปะ นี่คือภาพลักษณ์ใหม่ที่เบนซ์อยากจะสื่อสารออกไป
“ภาพลักษณ์ของรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ทุกคนคิดถึงก็คือเรื่อง Elegrant แต่สิ่งที่เราอยากจะบอกต่อไปนี้ก็คือ เมอร์เซเดส-เบนซ์ก็มีดีไซน์โฉบเฉี่ยว ต่อไปภาพลักษณ์ของรถเบนซ์จะมีความเปลี่ยนแปลงไปอีกเยอะ เพราะเราอยากเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีอายุน้อยลง จากเดิมที่ตอนนี้ลูกค้ารถเบนซ์ก็จะมีอายุอยู่ที่ 30-40 ปีขึ้นไป ต่อจากนี้ก็คงต้องสื่อสารกับคนรุ่นใหม่มากขึ้น”
วิธีการที่จะทำให้ภาพลักษณ์ของเบนซ์ได้ใจวัยรุ่นมากขึ้น ยังมีกิจกรรมภายในบูธเมอร์เซเดส เบนซ์ ที่ใช้วิธีการลงทะเบียนโดยเอาเทคโนโลยี RFID (Radio Frequency Identification) มาเป็นกิมมิก ทำให้ผู้ที่ร่วมชมบูธของรถเบนซ์เช็กอินบนเฟซบุ๊กหรือว่าคลิกไลค์รุ่นรถที่ชอบด้วยสายรัดข้อมือ (Wristband) ได้สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งเท่ากับเป็นการกระจายการรับรู้และทำให้กลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่เห็นแบรนด์เบนซ์มากยิ่งขึ้น ด้วยความรวดเร็วและครอบคลุม นอกจากนี้ยังมีแอพพลิเคชั่นบน iPhone ในชื่อ Mercedes-Benz Thailand กับการทดสอบ C-Class ด้วยโปรแกรม Augmented Reality (AR) ผ่านดีไวซ์ในระบบ iOS
ในส่วนของโปรดักต์นำมาโชว์ให้ผู้เข้าชมงานได้สัมผัสจริงก็ตั้งใจนำเอารุ่นรถที่จะช่วยกระชากวัยของเบนซ์ให้เด็กลงได้ ด้วยการนำรถต้นแบบในรุ่น A Class มานำเสนอ ซึ่งปกติเบนซ์รุ่นนี้ถือเป็นรถไซส์เล็กที่จำกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นหรูอยู่แล้ว โดยจุดเด่นของดีไซน์คอนเซ็ปต์ที่รถรุ่นนี้เน้นย้ำก็คือความโฉบเฉี่ยว เซ็กซี่ มีไดนมิก ทั้งตัวถัง และกระจก
Profile :
ดร.อเล็กซานเดอร์ เพาฟเลอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นนักดนตรีอยู่แล้ว การเปิดตัวรุ่นรถด้วยวิธีการแบบนี้ก็ถือเป็นไลฟ์สไตล์ส่วหนึ่งของเขา ทำให้ซ้อมร่วมกับวงไม่นาน ก่อนหน้านี้ ดร.อเล็กซานเดอร์เคยโชว์มาแล้วในการแถลงข่าว เทศกาลดนตรีแจ๊ซนานาชาติเพื่อการเรียนรู้ประจำปี 2555 Thailand International Jazz Conference 2012 ของวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ร่วมเป็นสปอนเซอร์