“เซ็นทารา” วางงบลงทุนกว่า 5,600 ล้านบาท ทุ่มสร้าง 2 โรงแรมใน “มัลดีฟส์” – รีโนเวตใหญ่ “พัทยา”

เซ็นทารา
  • “เซ็นทารา” ธุรกิจโรงแรมภายใต้ CENTEL ประกาศรายได้ปี 2566 เติบโตกว่า 50% พลิกทำกำไรหลังผ่านโควิด-19 ได้สำเร็จ
  • ปี 2567 วางงบลงทุนโรงแรมกว่า 5,600 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างโรงแรม 2 แห่งใน “มัลดีฟส์” และรีโนเวตใหญ่ใน “พัทยา” และ “หาดกะรน จ.ภูเก็ต”
  • เตรียมเปิดบริการโรงแรมทั้งหมด 6 แห่ง ในมัลดีฟส์, สปป.ลาว และประเทศไทย ตั้งเป้าปีนี้รายได้โตต่อ 15%

“ธีระยุทธ์ จิราธิวัฒน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมและรีสอร์ตในเครือเซ็นทารา และ “กันย์ ศรีสมพงษ์” ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ หรือ CENTEL ร่วมกันแถลงผลการดำเนินงานปี 2566 ที่ถือเป็น “ปีแห่งการฟื้นตัว” ของ “เซ็นทารา”

ปีที่แล้วธุรกิจโรงแรมในเครือเซ็นทาราทำรายได้รวม 10,900 ล้านบาท (รวมโครงการร่วมทุน) เติบโตกว่า 50% จากปี 2565 และกลับมาทำกำไรได้สำเร็จโดยมีกำไรสุทธิกว่า 760 ล้านบาท หลังจากธุรกิจโรงแรมขาดทุนต่อเนื่องตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด-19 ขึ้น

เซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า โรงแรมใหม่ที่เปิดบริการในปี 2566

ความเคลื่อนไหวสำคัญเมื่อปี 2566 เครือเซ็นทารามีการเปิดบริการ “เซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า” เป็นโรงแรมแห่งแรกของเครือในประเทศญี่ปุ่น และทำการรีแบรนด์โรงแรมระดับ 3 ดาวของเครือจากเซ็นทรา บาย เซ็นทาราเป็น “เซ็นทารา ไลฟ์” เพื่อให้แบรนด์ดูเด็กลงและทันสมัยมากขึ้น

 

ปี 2567 ทุ่มทุนกว่า 5,600 ล้านก่อสร้างโรงแรมใหม่-รีโนเวตแห่งเดิม

ด้านงบการลงทุน (CAPEX) ของปี 2567 เฉพาะส่วนธุรกิจโรงแรมเซ็นทาราวางงบไว้กว่า 5,600 ล้านบาท โดยมีโครงการใช้งบลงทุน ดังนี้

  • ก่อสร้างโรงแรมใหม่ 2 แห่ง คือ “เซ็นทารา มิราจ ลากูน มัลดีฟส์” จำนวน 145 ห้อง และ “เซ็นทารา แกรนด์ ลากูน มัลดีฟส์” จำนวน 142 ห้อง
  • รีโนเวตใหญ่โรงแรม “เซ็นทารา แกรนด์ มิราจ บีช รีสอร์ท พัทยา” จำนวน 553 ห้อง
  • รีโนเวตใหญ่โรงแรม “เซ็นทารา กะรน รีสอร์ท ภูเก็ต” จำนวน 335 ห้อง
  • ค่าเช่าที่ดินโรงแรม “เซ็นทารา แกรนด์ รีสอร์ท แอนด์ วิลล่า หัวหิน” ที่ได้ต่อสัญญาเช่าที่ดินกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)
  • งบปรับปรุงซ่อมแซมโรงแรมอื่นๆ ตามรอบ
เซ็นทารา แกรนด์ มิราจ บีช รีสอร์ท พัทยา เตรียมรีโนเวตใหญ่ในปี 2567

กันย์ ซีเอฟโอของ CENTEL กล่าวต่อถึงแผนการลงทุนระยะยาว 3 ปี (2567-69) ของ หรือ CENTEL รวมทั้งฝั่งธุรกิจโรงแรมและธุรกิจร้านอาหาร วางงบไว้ว่าจะมีการลงทุนรวมระหว่าง 13,000-20,000 ล้านบาท เนื่องจากกลุ่มโรงแรมปีนี้มีการลงทุนใหญ่ในมัลดีฟส์ และจะเริ่มการลงทุนรีโนเวตใหญ่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ รีสอร์ท แอนด์ วิลล่า หัวหิน ใน 2 ปีข้างหน้า

ธีระยุทธ์เสริมว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพาร์ทเนอร์ร่วมทุนเพื่อลงทุนขยายเฟส 2 ของโรงแรมเซ็นทารา มิราจ บีช รีสอร์ท ดูไบ อีก 200 ห้อง รวมถึงกำลังศึกษาความเป็นไปได้ที่จะก่อสร้างโรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ หัวหินในที่ดินที่ได้ต่อสัญญาเช่ากับ ร.ฟ.ท. หากแผนเหล่านี้เป็นไปตามเป้าจะทำให้งบลงทุนใน 3 ปีของ CENTEL ขึ้นไปแตะ 20,000 ล้านบาทได้

(ซ้าย) “กันย์ ศรีสมพงษ์” ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ หรือ CENTEL และ (ขวา) “ธีระยุทธ์ จิราธิวัฒน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมและรีสอร์ตในเครือเซ็นทารา

 

พร้อมเปิดบริการใหม่ 6 แห่งในปีนี้ ตั้งเป้าโต 15%

ด้านโรงแรมใหม่ที่จะก่อสร้างเสร็จและพร้อมให้บริการของเซ็นทาราในปี 2567 มีทั้งหมด 6 แห่ง ดังนี้

  1. เซ็นทารา มิราจ ลากูน มัลดีฟส์ จำนวน 145 ห้อง
  2. เซ็นทารา ไลฟ์ ละไม รีสอร์ท สมุย จำนวน 40 ห้อง
  3. เซ็นทารา ไลฟ์ สุราษฎร์ธานี จำนวน 110 ห้อง
  4. เซ็นทารา วิลลา เกาะพีพี จำนวน 40 ห้อง
  5. เซ็นทารา พลูมเมอเรีย รีสอร์ท ปากเซ
  6. โคซี่ เวียงจันทน์ น้ำพุ

ธุรกิจโรงแรมเซ็นทาราปี 2567 วางเป้ารายได้ไว้ที่ 12,500 ล้านบาท​ (รวมโครงการร่วมทุน) เติบโตประมาณ 14-15% จากปีก่อนหน้า

เซ็นทารา
โคซี่ เวียงจันทน์ น้ำพุ พร้อมเปิดบริการวันที่ 25 มีนาคม 2567

กันย์กล่าวว่า เป้าหมายบริษัทปีนี้ไม่เน้นการเพิ่มอัตราเข้าพัก (Occupancy Rate) มากนัก โดยวางเป้าไว้ที่ 70-73% แต่จะเน้นการเพิ่มอัตราราคาห้องพักเฉลี่ยต่อวัน (ADR) ของทั้งพอร์ต จากปีก่อนอยู่ที่ 5,100 บาทต่อวัน ปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 5,500-6,000 บาทต่อวัน เพราะเซ็นทาราต้องการมุ่งเน้นลูกค้าในระดับกลางบนถึงไฮเอนด์มากขึ้น สอดคล้องกับเทรนด์การท่องเที่ยวขณะนี้ที่ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าท่องเที่ยวเองมากกว่ากรุ๊ปทัวร์

“ปีนี้ประเทศไทยตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวแตะ 35 ล้านคน ซึ่ง 2 เดือนแรกมีเข้ามาเฉลี่ยเดือนละ 3 ล้านคน เทรนด์ในภาคใต้ เช่น ภูเก็ต เกาะสมุย กระบี่ ถือว่าดีมากๆ อาจจะต้องรอลุ้นปลายปีในช่วงไตรมาส 4 ว่าจะดึงนักท่องเที่ยวได้มากขึ้นหรือไม่” ธีระยุทธ์มองภาพธุรกิจท่องเที่ยวของปีนี้ “ดูไบและโอซาก้าก็ไปได้ดี ส่วนมัลดีฟส์ต้องรอลุ้นการเปิดสนามบินเฟสใหม่ที่จะทำให้มัลดีฟส์รับนักท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้นเป็นปีละ 7 ล้านคน คาดว่าปลายปีนี้อาจจะเริ่มเปิดใช้บริการ”

 

คาดขึ้น “Top 100” เมื่อเปิดครบในไปป์ไลน์

ณ สิ้นปี 2566 เครือเซ็นทารามีโรงแรมที่เปิดบริการแล้ว 51 แห่ง รวมกว่า 11,600 ห้อง และมีโรงแรมอยู่ในไปป์ไลน์ (ระหว่างก่อสร้างหรือเซ็นสัญญาแล้ว) 44 แห่ง รวมกว่า 9,800 ห้อง ทำให้ในพอร์ตโฟลิโอขณะนี้เครือเซ็นทารามีโรงแรมในมืออยู่ 95 แห่ง รวมมากกว่า 21,000 ห้อง

กันย์กล่าวต่อว่า เมื่อเปิดบริการโรงแรมครบ 95 แห่งในอนาคต เชื่อว่าจะทำให้เครือเซ็นทาราขึ้นไปติด “Top 100” เชนโรงแรมชั้นนำระดับโลกได้ จากปัจจุบันอยู่ในอันดับที่ 111

ทั้งนี้ เซ็นทารายังมีเป้าหมายการเซ็นสัญญารับบริหารโรงแรมเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มอีก 10-15 แห่ง ทั้งในไทย เวียดนาม และตลาดใหม่ๆ ที่ต้องการจะเปิดตลาด เช่น ยุโรป แอฟริกา

สำหรับเป้าหมายรายได้รวมของ CENTEL ปี 2567 รวมทั้งฝั่งโรงแรมและฝั่งร้านอาหาร กันย์ระบุว่าบริษัทตั้งเป้าไว้ที่ 29,000 ล้านบาท เติบโตประมาณ 15% จากปีก่อนหน้า