ในยุคที่กระแส AI มาแรงสุด ๆ และเข้ามาเปลี่ยนชีวิตประจำวันของเราให้ล้ำไปอีกขั้น BBDO Bangkok เผยผลสำรวจเจาะลึกความคิดเห็นผู้บริโภคไทยและพฤติกรรมการใช้ AI จากกลุ่มตัวอย่างกว่า 400 คนในกรุงเทพฯ และหัวเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความคิด ความเข้าใจที่มีต่อ AI และพฤติกรรมการนำ AI มาใช้ในชีวิตประจำวันของคนไทยในปัจจุบัน
คนรวยใช้ประโยชน์จาก AI ได้มากกว่า
ผลการสำรวจพบว่า ปัจจุบัน คนไทย 73.84% ได้ใช้ประโยชน์จาก AI ในชีวิต โดย 5 เหตุผลหลักในการใช้ AI ได้แก่
- เพิ่มความสะดวกสบาย (48.23%)
- ประหยัดเวลา (40.60%)
- เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน (37.92%)
- เพิ่มความแม่นยำ (22.48%)
- ลดความผิดพลาด (18.12%)
แต่ที่น่าสนใจคือ คนที่มีรายได้น้อยกว่า 25,000 บาท มีแนวโน้มที่จะใช้ประโยชน์จาก AI น้อยกว่า คนที่มีรายได้ตั้งแต่ 25,000 บาทขึ้นไป อย่างไรก็ตาม อีก 26.16% ที่ไม่ใช้ AI ผลสำรวจพบว่า เพศหญิง 44.23% กังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวเป็นเหตุผลหลัก ในขณะที่เพศชาย 32% กังวลเรื่องราคาที่สูงเกิน
ต่าง Gen ก็ใช้ AI ต่างกัน
แต่ละ Gen ก็มีเรื่องให้ใช้ AI ที่แตกต่างกันไป กลุ่ม Gen Z และ Gen Y ใช้ AI กับ การทำงานมากที่สุด (37.5% และ 35.5%) ในขณะที่ Gen X ใช้ AI กับเรื่อง ความปลอดภัย เป็นอันดับหนึ่ง (35.2%) เช่น เทคโนโลยีตรวจจับใบหน้า หรือการตรวจจับอุบัติเหตุในบ้าน นอกจากนี้ Gen X ยังมีการใช้ AI เพื่อสุขภาพและการแพทย์ เพิ่มเข้ามาใน 3 อันดับแรกอีกด้วย
3 แบรนด์ที่คนไทยนึกถึงเรื่อง AI
Google, Chat GPT และ Samsung ครอง 3 อันดับแบรนด์แรกที่ผู้บริโภคไทยนึกถึงเมื่อพูดถึง AI โดย Google แบรนด์ที่คนไทยรู้จักและคุ้นชินเป็นอย่างดี โดยอัลกอริทึมของ Google’s Search ที่ผู้คนใช้ในชีวิตประจำวัน ใช้ AI ในการประมวลผลเพื่อผลลัพธ์การค้นหาที่ตรงตามความต้องการและใกล้เคียงมากที่สุด และหลังจากเปิดตัว Gemini AI-Chatbot ของ Google ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก Google ยังได้มีการนำ AI มาใช้ในบริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นGoogle Maps, Gmail, Google Workspace หรือ Google Meet ด้วยเช่นกัน
Chat GPT หรือ AI Chatbot ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจากค่าย Open AI ล่าสุด ได้เปิดตัว Chat GPT-4o โมเดลใหม่ล่าสุดที่ฉลาดขึ้น เร็วขึ้น พร้อมเข้าใจและโต้ตอบกับมนุษย์ได้ทั้งข้อความ ภาพ และเสียงแบบเรียลไทม์ ส่วน Samsung มีการเปิดตัว Galaxy AI ที่อยู่ในสมาร์ทโฟนของ Samsung และนอกจากนี้ยังนำ AI มาใช้ในเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอีกด้วย
สนับสนุนการมี AI แต่ก็กลัวตกงาน
นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 70% สนับสนุนการมีอยู่และการพัฒนา AI และมองว่า AI จะมีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิตอย่างมากในอนาคต 5 ปีข้างหน้า ในส่วนของข้อกังวลใจต่อการใช้ AI คนส่วนใหญ่ยังคงกังวลเรื่อง ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัว เป็นอันดับหนึ่ง ตามด้วยความกังวลต่อ AI ว่าจะมี ราคาสูงเกินไป ทำให้เกิดการเข้าไม่ถึงในคนบางกลุ่ม และการที่ AI จะสามารถ เข้ามาทดแทนและแย่งงานมนุษย์