กลุ่มบริษัทที่มีความพร้อมในการเป็นเครือข่ายรับส่งรายการทีวีถึงผู้ชมทุกกลุ่ม ทุกเซ็กเมนต์ที่ต้องจับตาอีกกลุ่มคือ บริษัทในเครือบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรืออินทัช ที่มีบริษัทไทยคม จำกัด (มหาชน) เข้ามาวางตำแหน่งตัวเองเป็นผู้ให้บริการทีวีดาวเทียมมานานกว่า 10 ปีแล้ว ในนามบริษัทดีทีวี
ก้าวใหม่ของไทยคม ถูกวางตัวจากบริษัทแม่ให้สร้างบริการที่ครบวงจรด้านทีวี หรือมีมากกว่าทีวีดาวเทียม แม้ว่าทีวีดาวเทียมจะเป็นธุรกิจที่กระตุ้นให้อุตสาหกรรมทีวีดาวเทียมแข่งขันกันคึกคักก็ตาม
การทำให้คนดูทีวีดาวเทียมมากๆ ทำให้มีผู้ประกอบการมากขึ้น และมีการเช่าช่องสัญญาณดาวเทียมมากขึ้น อันเป็นการตอบโจทย์การสร้างรายได้ให้กับธุรกิจหลักของไทยคม คือการเป็นให้บริการเช่าช่องสัญญาณดาวเทียม
ทั้งนี้ไทยคมเตรียมยิงดาวเทียมไทยคมดวงที่ 6 ที่ในกลางปี 2556 ซึ่งจะทำให้วงการทีวีดาวเทียมคึกคักมากขึ้น เพราะมีช่องสัญญาณมากขึ้น ทำให้เกิดทีวีดาวเทียมมากขึ้น และระบบภาพความละเอียดสูง หรือ HD มากขึ้น จากปัจจุบันแม้จะมีผู้ต้องการให้บริการทีวีดาวเทียมมากขึ้น แต่ช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคม 5 เต็มแน่นเอียดแล้ว ยิ่ง HD ยิ่งยาก เพราะการส่ง HD ต้องใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมมากกว่าความละเอียดปกติถึง 3 เท่า
แต่ดาวเทียมยังไม่ตอบโจทย์การบริการที่ครบวงจร ตามไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ไม่ได้ดูแค่ทีวีดาวเทียม แต่เขายังต้องการดูทีวีผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ และดูทีวีทางสายอินเทอร์เน็ต เช่นเดียวกับผู้ผลิตคอนเทนต์ที่อยากได้ผู้ที่ช่วยนำรายการไปกระจายให้ถึงมือผู้ชมได้ทุกที่ ทุกเวลา และทุกอุปกรณ์
“ศุภจี สุธรรมพันธุ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารไทยคม ผู้รับผิดชอบดูแลโครงการทีวีดิจิตอลของอินทัช บอกว่า กำลังศึกษารูปแบบการขอใบอนุญาตการดำเนินธุรกิจทีวีดิจิตอล ซึ่งไทยคม และอินทัชมีความสนใจที่จะเข้าร่วมประมูล ทั้งใบอนุญาตด้านโครงสร้างพื้นฐาน และผู้ให้บริการโครงข่าย
ทั้งนี้อุตสาหกรรมทีวีนับจากนี้จะมีรายการเฉพาะกลุ่ม แบ่งเป็นเซ็กเมนต์ตามความชอบของผู้ชม ทั้งทีวีดาวเทียม โมบายล์ทีวี เคเบิลทีวี ทำให้ผู้บริโภคมีพฤติกรรมการชมทีวีหลายๆ จอพร้อมกัน หรือ Multi Screen ทั้งจอทีวี คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ตในลักษณะไอพี (Internet Protocol Television ) ในอนาคตคอนเทนต์เดียวจึงสามารถออกได้หลายช่องทาง ซึ่งในที่สุดคือทำให้เจ้าของสินค้าได้สื่อหลายช่องทาง
“ธีระยุทธ บุญโชติ” ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ไทยคม บอกว่า ในระยะใกล้นี้ ด้วยความที่คอนเทนต์ในอินเทอร์เน็ตมีจำนวนมาก ดังนั้นเพื่อให้ผู้บริโภคได้ดูคอนเทนต์ต่างๆ ได้ง่ายขึ้น หรือคนรุ่นไหนก็ดูได้ อินเทอร์เน็ตจะไม่ใช่อุปสรรคของผู้ใหญ่ในการดูทีวี สิ่งที่ไทยคมเตรียมบริการคือกล่องไฮบริด ที่รับชมรายการได้ทั้งดาวเทียมและทางอินเทอร์เน็ต
ศักยภาพที่มีอยู่ในเครือก็พร้อมตอบโจทย์ความต้องการดูทีวีของคนรุ่นใหม่ได้ หากไอเดียที่เริ่มมีการพูดคุยกันในกลุ่มผู้บริหารอินทัช ได้ถูกนำมาสานต่อ คือคอนเทนต์เดียวออกได้ทุกจอที่ผู้บริโภคอยากดู เหมือนอย่างที่ไทยคมเคยพยายามทำโครงการ IPTV เมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว แต่ไม่สำเร็จ เพราะเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตไม่เร็วพอ และคอนเทนต์ยังไม่สนุกพอที่จะรองรับ
แต่ปัจจุบัน โอกาสมาถึงในที่สุด เมื่ออินทัชมีกลุ่มธุรกิจโทรศัพท์มือถือ ภายใต้การให้บริการของ “เอไอเอส” ที่เตรียมลงทุนเครือข่าย 3G หรือหากสามารถข้ามขั้นไป 4G อย่างที่ผู้บริหารของอินทัชเริ่มออกมาผลักดัน นั่นหมายถึงทีวีบนมือถือคือสิ่งที่เป็นไปได้ และหากมีการลงทุนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมากขึ้น การจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อยู่กับสายอินเทอร์เน็ตตลอดเวลาก็ไม่ยาก
นั่นหมายถึง 1 คอนเทนต์ที่เดินมาหาอินทัช กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งนี้สามารถออกอากาศให้ได้ทุกช่องทาง
นี่คือช่วงเวลาที่ต้องเตรียมลงทุน เพราะโลกของธุรกิจสื่อสารกับธุรกิจวิทยุโทรทัศน์ได้ผสานหลอมรวมกันเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคแล้ว
cellpadding=”2″ cellspacing=”2″>
style=”vertical-align: top; font-weight: bold;”>
ผู้ให้บริการคอนเทนต์
แท็บเล็ต
NBC