“บิบิโก รามยอน” รามยอนน้องใหม่ลูกครึ่งไทย-เกาหลี ใช้จุดแข็งด้วยราคา 39 บาท

วัฒนธรรมการกินเส้นบะหมี่อยู่คู่กับวัฒนธรรมอันหลากหลายของมนุษย์มาเป็นเวลาช้านาน โดยเฉพาะในโซนเอเชียที่มีเพียงชื่อเรียกและหน้าตาเมนูที่ต่างกัน อาทิ ในญี่ปุ่นจะมี อูดง และ ราเมน เวียดนามก็มี เฝอ ส่วนไทยก็มีผัดไทย

และปัจจุบัน “เค-รามยอน (K-Ramyun)” หรือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของเกาหลี ก็กำลังเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับ K-Culture อาทิ ซีรีส์เกาหลี, หนังเกาหลี รวมถึงเพลงเกาหลี

ไม่ใช่น้องใหม่ แต่บุกไทยมานานแล้ว

ในปี 2023 ที่ผ่านมา ข้อมูลจากสมาคมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปโลก มีการประเมินว่า ผู้คนทั่วโลกมีการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสะสมตลอดทั้งปีอยู่ที่ 120,210 ล้านหน่วยบริโภค ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2022 ที่มียอดการบริโภคสะสม จำนวน 121,200 ล้านหน่วย แม้ตลาดโลกมีการบริโภคลดลง แต่ในไทยกลับมีการเติบโต โดยตลาดเส้นบะหมี่ในไทยมีมูลค่ากว่า 26.7 พันล้านบาท และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 10.7% ต่อปี ในตัวเลขนี้มีสัดส่วนของผลิตภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถึง 80.24% เลยทีเดียว

ด้วยตัวเลขแนวโน้มการเติบโตดังกล่าว ทำให้ “ซีเจ ฟู้ดส์” หนึ่งในผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารเกาหลีรายใหญ่ ก้าวเข้ามาเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ในตลาดบะหมี่กึ่งฯ โดยเลือก “ประเทศไทย” เป็นประเทศแรกในการเปิดตัว “บิบิโก รามยอน” (bibigo Ramyun) บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพรีเมียมสไตล์เกาหลี

ซึ่ง ซีเจ เชอิลเจดัง จำกัด (CJ Foods) เป็นแบรนด์ผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ในประเทศเกาหลี มีธุรกิจในเครือกว่า 22 แบรนด์ โดยมี bibigo, Beksul, Hetbahn, Gourmet เป็น 4 แบรนด์หลัก โดยบริษัทฯ ก็มีการขยายธุรกิจไปใน 15 ประเทศทั่วโลก รวมถึงมีสินค้าจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเยอรมนี สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น จีน เวียดนาม และฟิลิปปินส์ 

ต่อมาได้ขยายตลาดมายังประเทศไทย โดยมีการร่วมทุนกับบริษัท เอ-เบสท์ จำกัด (A-BEST) บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายผักผลไม้ในประเทศไทย แต่เดิมเอ-เบสท์ได้เริ่มนำเข้าอาหารเกาหลีเข้ามาขายในไทยก่อน เมื่อประมาณ 2-3 ปีที่แล้ว รวมไปถึง “กิมจิแบรนด์ bibigo” ของซีเจ เชอิลเจดัง ผลปรากฏว่าแบรนด์นี้ทำยอดขายค่อนข้างดี ทำให้ต้นสังกัดของ bibigo เริ่มสนใจตลาดอาหารเกาหลีในประเทศไทย

จากนั้นในปี 2023 ซีเจ เชอิลเจดังได้เข้ามาซื้อหุ้น 50% ในเอ-เบสท์ และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ซีเจ ฟู้ดส์ (ไทยแลนด์) รวมถึงนำเอา bibigo ซึ่งเป็นแบรนด์เรือธงของบริษัทฯ มาบุกตลาดอาหารเกาหลีในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ 

โดยมีการนำเข้า มันดู (เกี๊ยวเกาหลี), กิมจิ, ซอสและน้ำพริกเกาหลี, สาหร่าย, คิมมารี มาจำหน่ายในไทย ทำให้ภาพรวมของตลาดอาหารเกาหลีในไทยโตขึ้นแบบก้าวกระโดด นอกจากจะมีการนำสินค้าจากเกาหลีเข้ามาขายในไทย ซีเจ ฟู้ดส์ได้พัฒนา “รามยอน” ในประเทศไทยเสียเลย ได้เปิดตัว “บิบิโก รามยอน” (bibigo Ramyun) วางจุดยืนเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพรีเมียมสไตล์เกาหลี อุดช่องวางในตลาดที่รามยอนเกาหลีจะอิมพอร์ตเข้ามา ทำให้มีราคาสูง แต่บิบิโกมีราคาที่ถูกกว่า

คิม ดงฮยอน ผู้จัดการส่วนการตลาด ซีเจ ฟู้ดส์ (ไทยแลนด์)

คนไทย กินบะหมี่กึ่งฯ มากเป็นอันดับ 9 ของโลก 

คิม ดงฮยอน ผู้จัดการส่วนการตลาด ซีเจ ฟู้ดส์ (ไทยแลนด์) กล่าวว่า พฤติกรรมการบริโภคของคนเกาหลีใต้และคนไทยมีความคล้ายคลึงกันอย่างมาก โดยเฉพาะการรับประทานอาหารที่ทั้งในไทยและเกาหลีใต้ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและกิมจิ ถือเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมมาก แน่นอนว่าในแต่ละประเทศก็มีแบรนด์ที่เป็นผู้เล่นรายใหญ่อยู่ก่อนแล้ว และในไทยก็มีแบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั้งของแบรนด์ไทยและแบรนด์ต่างประเทศอยู่ในตลาดกว่า 30 แบรนด์ แยกออกมาเป็นกลุ่มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพรีเมี่ยมได้ 10-15 แบรนด์ ซึ่งตลาดบะหมี่กึ่งฯพรีเมี่ยมเพิ่งจะได้รับความนิยมอย่างมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา 

ซึ่งผู้บริโภคชาวไทย มีอัตราการบริโภคบะหมี่กึ่งฯอยู่ที่ประมาณ 55 ซองต่อปี เป็นอันดับที่ 9 ของโลก โดยอันดับที่ 1 คือ จีนและฮ่องกง มีการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากที่สุดในโลก ปี 2566 อยู่ที่จำนวน 42,000 ล้านหน่วย

2) อินโดนีเซีย จำนวน 14,500 ล้านหน่วย 

3) อินเดีย จำนวน 8,700 ล้านหน่วย 

4) เวียดนาม จำนวน  8,100 ล้านหน่วย 

5) ญี่ปุ่น จำนวน 5,800 ล้านหน่วย 

6) สหรัฐอเมริกา จำนวน 5,100 ล้านหน่วย

7) ฟิลิปปินส์ จำนวน 4,390 ล้านหน่วย 

8) เกาหลีใต้ จำนวน 4,040 ล้านหน่วย

9) ไทย จำนวน 3,950 ล้านหน่วย (เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า ที่มีจำนวน 3,870 ล้านหน่วย)

10) ไนจีเรีย จำนวน 2,980 ล้านหน่วย

แม้ว่าบิบิโก รามยอนจะเพิ่งเข้ามาเป็นผู้เล่นในตลาด แต่บริษัทฯ ได้ทำการเจาะตลาดอาหารในไทยมาก่อนแล้วทำให้มีความเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคและเล็งเห็นว่าตลาดบะหมี่กึ่งฯ ในไทยยังมีช่องว่างในเรื่องของ “ราคา” และ “รสชาติ” ที่ทำให้แบรนด์เติบโตได้อยู่ เพราะปัจจุบันบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในกลุ่มโลคอล จะมีราคาถูกแต่รสชาติไม่หลากหลายนัก ส่วนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบพรีเมียมแม้จะมีรสชาติค่อนข้างหลากหลายแต่มีราคาที่ค่อนข้างแพง 

ซึ่งบิบิโก รามยอนมี 5 รสชาติ ได้แก่ รสต๊อกบกกีเผ็ด,รสต๊อกบกกี,รสกิมจิ,รสไก่เกาหลี และรสไก่รมควันสไตล์เกาหลี ในราคาซองละ 39 บาท และแบบแพ็ก 139 บาท (4 ซอง) ซึ่งถือว่าถูกกว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบพรีเมี่ยมแบรนด์อื่นๆ ที่มีราคาประมาณ 43-55 บาทต่อซอง และ 185 – 260 บาทต่อแพ็ก (5 ซอง)

“Wootteo” (อูตอ) คาแรคเตอร์สุดน่ารัก

เจาะกลุ่มมนุษย์กลางคืนและผู้ที่ชอบ K-Culture 

ในส่วนแผนการตลาด คิม ดงฮยอน กล่าวว่า แบรนด์ฯจะทำการตลาดและโปรโมทสินค้าผ่านกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ โดยจะเจาะกลุ่มลูกค้าที่นอนดึกและชื่นชอบใน K-Culture เพราะเป็นกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมหาอาหารทานไปพร้อมกับการดูหนังดูซีรีส์ 

ซึ่งสอดคล้องกับวัฒนธรรมของเกาหลีที่เรียกว่า 야식 (ยาชิก) ที่เป็นการทานมื้อดึกของคนเกาหลี ที่มักจะสั่ง 목삼겹 (มกซัมกยอบ) หรือคอหมูย่างมากิน รวมไปถึง ไก่ทอด รามยอน ตีนไก่แซ่บ พิซซ่า จัมปง จาจังมยอน ขาหมู มาทานกัน 

โดยบิบิโก รามยอนเริ่มนำร่องจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟในช่องทาง 7-Eleven และ Lotus’s ซึ่งถือเป็นช่องทางที่มีสาขาครอบคลุมในหลากหลายพื้นที่ ทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่าย โดยบริษัทฯ ได้ตั้งเป้ารายได้ของบิบิโก รามยอนไว้ที่ 100 ล้านบาทภายในสิ้นปี 2025

รวมถึงการคอลแลบกับ “Wootteo” (อูตอ) คาแรกเตอร์สุดน่ารักที่ออกแบบโดย Jin BTS ผ่านการดีไซน์แพ็กเกจจิงที่มีวางจำหน่ายที่ประเทศไทยเท่านั้น