น่าจะสนุกมากขึ้นสำหรับตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จในไทยที่มีมูลค่ากว่า 21,400 ล้านบาท เมื่อ ‘เป๊ก-สัณณ์ชัย เองตระกูล’ ส่ง ‘บะหมี่มาเฟีย’ ที่คิดค้นสูตรเองลงชิงมาร์เก็ตแชร์ในตลาดนี้ โดยชูรสชาติ ‘เผ็ดร้อนดุดันสไตล์ไทย’ เป็นจุดขาย จับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชอบลองของแปลกใหม่ โดยตั้งเป้ายอดขายปีนี้ไว้กว่า 50 ล้านบาท และมีแผนส่งออกไปในกว่า 10 ประเทศ
เป๊ก-สัณณ์ชัย เล่าว่า เขาเป็นคนที่ชื่นชอบการทำอาหารอยู่แล้วตั้งแต่เด็ก และได้รับคำชมไม่ว่าจากคนในครอบครัวหรือเพื่อนที่ได้ลิ้มลองฝีมือ ทำให้คิดสูตรอาหารมาเรื่อย ๆ รวมถึงได้เปิดตัวร้านอาหาร ขนมขบเคี้ยว และเครื่องปรุงรสมาตลอด
นอกจากนี้ ด้วยความเป็นคนชอบกินเผ็ด และได้มีโอกาสลองบะหมี่เผ็ดที่วางขายอยู่ในไทยมากมาย จึงเกิดแรงบันดาลใจอยากทำบะหมี่เผ็ดแบรนด์ตัวเองขึ้นมา ด้วยการเน้นรสชาติถึงอกถึงใจ โดยเฉพาะพริกสายพันธุ์ไทย เพื่อสร้างเอกลักษณ์รสชาติที่มีความเป็นไทยแท้ ๆ จึงซุ่มคิดค้นพัฒนาสูตรเส้นบะหมี่อบ และสูตรซอสมากว่า 4 ปีนับตั้งแต่ช่วงโควิดระบาด จนออกมาเป็นบะหมี่มาเฟีย
โดยแค่ชื่อแบรนด์ก็บ่งบอกถึงคาแรกเตอร์ความเผ็ดร้อนแบบดุดันของผลิตภัณฑ์ ที่ใช้ความเผ็ดจากพริกพันธุ์ไทย 3 ชนิด คือพริกที่มีกลิ่นหอม พริกที่มีสีสวย และพริกที่มีรสเผ็ดจัดจ้าน สะท้อนความเผ็ดร้อนแบบดุดัน
ที่สำคัญในซอสมีส่วนผสมของสมุนไพรไทยอย่าง ใบมะกรูด ใบกะเพราอบแห้งแล้วนำไปปั่นรวมกับซอสสูตรโก๋เป็ก ทำให้มีรสชาติความเป็นไทย และตัวบะหมี่ยังคิดสูตรให้มีแคลอรีน้อย เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนรักสุขภาพ
ส่วนแผนทำการตลาดในช่วงเวลาที่มีบะหมี่เผ็ดเกาหลีเจ้าอื่นๆ บุกมาล่วงหน้าหลายปีแล้ว เป๊ก-สัณณ์ชัยยังจะไม่ทุ่มงบกับส่วนนี้มาก เพราะเชื่อว่า ต้องทำโปรดักต์ให้ดีถูกปากคนกินจนเกิดเป็น Word of mouth หรือ ‘การบอกแบบปากต่อปาก’ หากของอร่อย ราคาเข้าถึงได้ ก็จะเกิดกระแสตามมาเอง โดยกลุ่มเป้าหมายหลัก จะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชอบลองของแปลกใหม่
สำหรับบะหมี่มาเฟีย มีด้วยกัน 2 รสชาติ ได้แก่ ‘สไปซี่ชิคเก้นพลัส’ สูตรเผ็ดน้อย (0.5) และ สูตรเผ็ดมาก (1.0) ในราคาซองละ 39 บาท ชิมลางเปิดตัวครั้งแรกในงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2024 เมื่อกลางปี 2567 ที่ผ่านมา และทดลองจำหน่ายใน Villa Market, Foodland Villa และช่องทางออนไลน์ ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดี
ส่วนการบุกตลาดอย่างจังครั้งนี้ จะมีจำหน่ายแล้วที่ 7-Eleven และ Lotus ทุกสาขา รวมถึงที่ Villa Market, Foodland Villa, Lazada และ Shoppee คาดว่าปี 2568 จะมีรายได้กว่า 50 ล้านบาท และยังมีแผนที่จะตีตลาดต่างประเทศกว่า 10 ประเทศทั่วทุกทวีป ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท โก๋เป็กฟู้ด จำกัด
