“ลัคกี้สุกี้” แบรนด์สุกี้น้องใหม่รายที่ 3 ในตลาด ทำรายได้เกิน 1,000 ล้านบาท ปี 68 ขอโตต่ออีก 100%

หากกล่าวถึงร้านสุกี้รายใหญ่ในไทย ที่ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ หลัก 1 พันล้านบาท หลายคนคงนึกถึงแบรนด์ 2 แบรนด์สุกี้เจ้าตลาดอย่าง “เอ็มเค” และ “สุกี้ตี๋น้อย”

ทว่าตอนนี้ กลับมีแบรนด์สุกี้ม้ามืด คือ “ลัคกี้สุกี้” ที่เปิดตัวแค่ 3 ปี มีเพียง 15 สาขา (ลัคกี้บาร์บีคิวอีก 6 สาขา) แต่ทำรายได้เติบโตอย่างรวดเร็ว

  • ปี 2565 รายได้ 79 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2.6 ล้านบาท
  • ปี 2566 รายได้ 409 ล้านบาท เติบโต 413% กำไรสุทธิ 46 ล้านบาท เติบโต 1,635%
  • ปี 2567 รายได้ 1,000 ล้านบาท เติบโต 148%

“ถ้าเทียบจากจุดเริ่มต้น รายได้ลัคกี้สุกี้ 3 ปี เติบโตระดับ 1,168%“

(จากซ้ายไปขวา) 1.วิรัตน์ โรจยารุณ กรรมการบริหาร, 2.รุ่งทิวา วิพัฒนานันทกุล กรรมการบริหาร, 3.รสรินทร์ ติยะวราพรรณ กรรมการบริหาร และ 4.อิทธิพล ติยะวราพรรณ กรรมการบริหาร

ปี 68 สปีด 20 สาขา

วิรัตน์ โรจยารุณ กรรมการบริหาร บริษัท มิราเคิล แพลนเนท จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหาร ลัคกี้สุกี้ เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดสุกี้ มูลค่า 23,000 – 25,000 ล้านบาท มีการแข่งขันดุเดือดจากเจ้าตลาด และผู้เล่นหน้าใหม่ทยอยเข้ามาจำนวนมาก ทั้งรูปแบบบุฟเฟต์ และ a la carte

แต่แบรนด์ลัคกี้สุกี้ เติบโตต่อเนื่อง โดยปีล่าสุดมีรายได้ 1,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 148% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) จากการขยายสาขาอย่างก้าวกระโดดใน 3 ปีที่ผ่านมา

  • ปี 2565 เปิดตัว 2 สาขา
  • ปี 2566 เปิดตัว 4 สาขา
  • ปี 2567 เปิดตัว 14 สาขา (ลัคกี้สุกี้ 11 สาขา และลัคกี้บาร์บีคิว 5 สาขา)

เบื้องต้น ปีนี้ตั้งงบลงทุน 300 ล้านบาท เปิดเกมรุกขยายสาขา 16-20 สาขาเพิ่ม จากแบรนด์ลัคกี้สุกี้สัดส่วน 60% และลัคกี้บาร์บีคิวสัดส่วน 40% ขนาดพื้นที่ 500-600 ตร.ม./แห่ง เน้นทำเลเกาะไปตามมอลล์หรือห้าง ทั้ง กทม. และต่างจังหวัดที่มีศักยภาพ เช่น สระบุรี และภาคตะวันออก เป็นต้น ทำให้สิ้นปี 2568 คาดมีจำนวนสาขา 36-40 แห่ง

ปัจจุบันสภาพเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว ส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคมองหาสิ่งที่คุ้มค่า และยั้งคิดก่อนใช้จ่าย

ประกอบกับ คนไทยมองว่าบุฟเฟต์คุ้มค่าเงิน โดยลัคกี้สุกี้ประมาณ 219 บาท/คน และลัคกี้บาร์บีคิว 299 บาท/คน (ไม่รวมเครื่องดื่มรีฟิลและ VAT) ราคาเข้าถึงง่าย ทำให้มีความถี่ในการรับทาน 2-3 ครั้ง/เดือน

ลัคกี้สุกี้สาขา แม็คโครจรัญ

กล้าทลายกรอบสุกี้ ดันแบรนด์ติดตลาด

วิรัตน์ กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่ทำให้แบรนด์ลัคกี้สุกี้ติดตลาด และประสบความสำเร็จภายใน 3 ปี แม้ผู้ร่วมก่อตั้งทั้ง 4 คน ไม่ได้มาจากธุรกิจร้านอาหาร เพราะ เรากล้าทลายกรอบเดิมของร้านสุกี้ เราเป็นรายแรกที่นำสเลอปี้เข้ามาบริการในร้านสุกี้ และนำของทอดมาในร้านสุกี้ จากปกติจะมีเพียงหม้อไฟ และวัตถุดิบเกี่ยวกับสุกี้เท่านั้น

ส่งผลให้แบรนด์ติดตลาดมีการบอกปากต่อปาก จนปัจจุบันมีลูกค้าประจำ ที่เป็นเมมเบอร์ถึง 200,000 ราย เติบโต 100% (YoY)

โดยปี 2568 บริษัทฯ วางเป้ารายได้ 2,000 ล้านบาท เติบโต 100% จากปีก่อน (YoY) และแผนระยะยาว 3-5 ปี เตรียมนำบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ต่อไป

“ที่ผ่านมา เราไม่มีกรอบ ทำได้ทุกอย่างที่อยากทำ ความโชคดี คือ ในการตัดสินใจเรื่องใหญ่ เราแทงถูกมากกว่าแทงผิด เราไม่ได้ตัดสินใจบนโต๊ะ แต่ลงไปแก้ปัญหาเองหมด สเต็ปถัดไป ตั้งใจรักษาลูกค้าเก่าและขยายฐานลูกค้าใหม่ เราเชื่อว่าความพยายามไม่หมด ความสำเร็จก็ไม่หมด”