IMPACT เจ้าของอาณาจักรเมืองทองธานี เตรียมลงทุนครั้งใหญ่ เริ่มต้น 4,000-5,000 ล้านบาท เพื่อดันอิมแพ็คสู่ MICE Tourism ระดับภูมิภาค และปูทางเป็นหนึ่งในตัวเลือกของเมกะโปรเจกต์สถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) ของรัฐบาลที่มีมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท
“พอลล์ กาญจนพาสน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารกองทรัสต์อิมแพ็คโกรท (IMPACT GROWTH REIT) หรือ IMPACT เปิดเผยว่า ภาพรวมอิมแพ็ค ปี 2567 อารีน่า เติบโต 20% (YoY) มียอดจองเต็มทั้งปี แซงช่วงก่อนโควิด ส่วน exhibition เติบโต 7% (YoY) ดังนี้
- exhibition สเกลใหญ่ (ขนาดพื้นที่แสดง 4 หมื่นตร.ม. ขึ้นไป) กลับมาเทียบเท่าช่วงก่อนโควิด
- exhibition สเกลขนาดเล็ก (1-2 หมื่นตร.ม.) และกลาง (3-4 หมื่นตร.ม.) ฟื้นตัวระดับ 80-85% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด
สำหรับปี 2568 อิมแพ็ควางแผนดัน “เมืองทองธานี” เป็น MICE Tourism Destination ระดับเอเชีย ด้วยจุดแข็งการมีโครงสร้างพื้นฐานครบครัน บนพื้นที่ 4,700 ไร่ ประกอบด้วย 4 ส่วนหลัก พื้นที่รวม 479,761 ตร.ม. ดังนี้
- ศูนย์การจัดแสดงอิมแพ็ค อารีน่า
- อาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ (ฮอลล์ 1-3)
- ศูนย์การประชุมอิมแพ็คฟอรั่ม (ฮอลล์ 4)
- ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี (ฮอลล์ 5-12)
ตลอดจนรถไฟฟ้าสายสีชมพู 2 สถานีในอิมแพ็ค คือ สถานีอิมแพ็ค เมืองทองธานี และสถานีทะเลสาบเมืองทองธานี ที่บริษัทฯ ได้ร่วมลงทุน 50% มูลค่า 1,200 ล้านบาท เตรียมเปิดใช้งานช่วง พ.ค. 68 นี้
“จากศักยภาพของ IMPACT ที่โครงสร้างพื้นฐานรองรับในพื้นที่ โมเดลคล้ายอาณาจักรสถานบันเทิงครบวงจรในสิงคโปร์และลาสเวกัส ทำให้เราเตรียมเสนอชื่อตนเองเป็น 1 ในตัวเลือกของ Entertainment Complex ของไทย ซึ่งกรณี Best Case จะมีเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาเพื่อพัฒนาพื้นที่ให้ครบวงจรมากขึ้น”
ทว่าความชัดเจนของโครงการ Entertainment Complex ยังไม่แน่ชัดจะมีไทม์ไลน์อย่างไร ระหว่างนี้ IMPACT ไม่รอโอกาสทางเดียว และได้ต่อยอดขยายอาณาจักรเมืองธานี ให้รองรับนักท่องเที่ยวไมซ์มากขึ้น
ปี 2568 วางงบลงทุน 4,000-5,000 ล้านบาท ขยาย 2 โรงแรม เฟส 2 จำนวน 1,000 ห้อง แบ่งเป็น โรงแรม 5 ดาว จำนวน 300 กว่าห้อง และที่เหลืออีก 600 กว่าห้อง เป็นโรงแรม 4 ดาว ทำให้อิมแพ็ค จะมีโรงแรมครบ 2,000 ห้อง ในปี 2571
และวางเป้าขยายโรงแรมเฟสเป็นจำนวนครบ 3,000 ห้อง ในปี 2573 และเฟส 4 ครบ 5,000 ห้อง ภายในปี 2578
จากปัจจุบันมีโรงแรม 2 แห่ง คือ โรงแรมโนโวเทล ระดับ 4 ดาว จำนวน 380 ห้อง และโรงแรมไอบิส ระดับ 3 ดาว จำนวน 550 ห้อง มีอัตราการเข้าพัก (OCC) 50-60%
ทั้งนี้ เงินทุนที่ใช้ขยายส่วนหนึ่งมาจากการขายโรงแรมโนโวเทล และโรงแรมไอบิส เข้ากองทรัสต์ มูลค่า 2,000-2,500 ล้านบาท
“ในช่วงที่ผ่านมามีงานใหญ่ๆ ให้ความสนใจมาจัดงานที่ IMPACT แต่ติดปัญหาเรื่องโรงแรมที่สามารถรองรับคนได้จำกัด ซึ่งการพัฒนาโรงแรมใหม่ จะช่วยเพิ่มศักยภาพการรับงานในสเกลที่ใหญ่ขึ้น“
ขณะที่ อัตราการเข้าพักในโรงแรมเดิมก็ไม่ได้ลดลง และการเช่าพื้นที่จัดงานก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน เศรษฐกิจในเมืองทองธานีจะคึกคัก เนื่องจากเรามีความพร้อมทั้งในด้านสถานที่ บุคลากร และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
“ภาพรวมการเติบโตของรายได้ในปี 67 (รอบปีบัญชีสิ้นสุด 31 มีนาคม 68) ในส่วนของกองทรัสต์ IMPACT Growth Reit เราตั้งเป้าการจัดงานประชุม นิทรรศการ อีเวนต์ และงานคอนเสิร์ตที่กลับมาคึกคัก จึงคาดว่ารายได้จะเติบโตจากปีก่อนไว้ที่ประมาณ 25%”