ดีลซื้อขายโรงแรมในไทย โต 277% ลุ้นปี 68 ลงทุนอสังหาอุตสาหกรรม-ดาต้าเซ็นเตอร์ มาแรง

ดีลการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในไทย ปี 2567 ได้รับแรงสนับสนุนจาก BOI ที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนต่างชาติสามารถถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินได้ ทำให้ธุรกิจโรงแรม ดาต้าเซ็นเตอร์ และนิคมอุตสาหกรรม คึกคักขึ้น

ข้อมูลจาก โจนส์ แลง ลาซาลล์ (JLL) ที่ปรึกษาด้านอสังหาฯ ระบุว่า ปีก่อนเป็นที่ปรึกษาการลงทุนอสังหาให้นักลงทุน รวมมูลค่า 3.8 หมื่นล้านบาท ตัวอย่างดีลใหญ่

  • ดีลเช่าระยะยาวที่ดินแปลงใหญ่ในย่านราชดำริ
  • ดีลซื้อที่ดินของผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลกในนิคมอุตสาหกรรม
  • ดีลการซื้อที่ดินย่านบางนาเพื่อพัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์
  • ดีลเช่าที่ดินระยะยาวเพื่อพัฒนาโรงแรมในทำเลศักยภาพบนถนนสุขุมวิท

ที่น่าสนใจที่สุด คือ ดีลการซื้อขายโรงแรม ในปี 2567 มีทั้งหมด 16 โปรเจกต์ มูลค่ารวม 22,000 ล้านบาท เติบโต 277% เมื่อเทียบกับปี 2566 (YoY) ที่มีมูลค่าเพียง 8,500 ล้านบาท และสูงกว่าค่าเฉลี่ย 15 ปี (พ.ศ. 2553-2567) ที่มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยเพียง 10,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ปี 2567 มีดีลสำคัญ คือ การซื้อขายโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ สุขุมวิท ซึ่งถือเป็นดีลซื้อขายสินทรัพย์เดี่ยว (Single-Asset) ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติการณ์

แนวโน้มปี 2568 เป็นปีแห่งโอกาสการลงทุน เติบโตอย่างแข็งแกร่ง จาก 4 กลุ่มสินทรัพย์หลัก ได้แก่

  • โลจิสติกส์และอุตสาหกรรม
  • ดาต้าเซ็นเตอร์
  • โรงแรม
  • ที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี

ทั้งนี้ ตลาดการลงทุนโรงแรมยังคงมีความหลากหลาย ทั้งดีลประเภท Core/Core-Plus และ Value-Add/Opportunistic

โดยในปี 2568 ยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากผู้ขายสามารถใช้ประโยชน์จากผลประกอบการที่ดีขึ้นของ โรงแรม รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยที่ค่อนข้างคงที่

ทำให้เราคาดการณ์ว่ามูลค่าการทำธุรกรรมจะสูงกว่า 13,000 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศตั้งแต่ปี 2553 ประมาณ 12%”