‘ซีพีแรม’ ลงทุนกว่า 100 ล้านบาท ตั้งศูนย์ FTEC ดันไทยสู่ ‘ศูนย์กลางนวัตกรรมอาหารโลก’

แม้ประเทศไทยจะขึ้นชื่อว่าเป็น ‘ครัวโลก’ แต่ยังมีคำถามว่า บ้านเรามีขีดความสามารถที่จะแข่งขันในอุตสาหกรรมอาหารของโลกได้จริงหรือไม่? จึงเป็นจุดตั้งต้นให้ทาง ‘ซีพีแรม’ ลงทุนเบื้องต้นกว่า 100 ล้านบาท จัดตั้งศูนย์ความร่วมมือและแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีอาหาร หรือ FTEC (Food Technology Exchange Center) เพื่อเพิ่มขีดการแข่งขันและผลักดันให้ไทยเป็น ‘ศูนย์กลางนวัตกรรมอาหารโลก’

 

ทั้งนี้ ศูนย์ดังกล่าวตั้งอยู่ ณ อาคารฟู้ด เทคโนโลยี ธาราพาร์ค ถนนแจ้งวัฒนะ โดยจะเน้นขับเคลื่อนศูนย์ความร่วมมือและแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีอาหารใน 3 เทคโนโลยีหลักที่มีส่วนสำคัญในอุตสาหกรรมอาหาร ได้แก่

 

Biotech – การพัฒนานวัตกรรมอาหาร

Robotech – เทคโนโลยีที่มีความสำคัญในด้านการผลิต

Digitech – เทคโนโลยีที่จะทำให้สามารถตอบเทรนด์ของตลาดและความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำ

 

ตั้งเป้าผลักดันไทยสู่ ‘ศูนย์กลางนวัตกรรมอาหารโลก’

 

‘วิเศษ วิศิษฏ์วิญญู’ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด กล่าวว่า เป้าหมายแรกของศูนย์ FTEC ต้องการสร้างให้เกิดความร่วมมือ โดยศูนย์นี้จะเป็นศูนย์กลางให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมอาหาร ไม่ว่าจะเป็น นักวิจัย นักพัฒนา ตลอดจนนักธุรกิจและผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศได้มาร่วมมือกัน

 

เป้าหมายถัดไป ต้องการให้เกิดการสร้างเทคโนโลยีและนวัตกรรมของตัวเองขึ้นมา เพื่อตอบโจทย์โลกในอนาคตที่ผู้บริโภคไม่ได้ต้องการอาหารที่มีคุณภาพและราชาติดีเท่านั้น แต่ต้องตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย และไลฟ์สไตล์ของตัวเอง เช่น อาหารเพื่อสุขภาพ ตัวอย่างเช่น อาหารสำหรับบุคคลเฉพาะกลุ่ม เช่น ผู้สูงอายุ เด็ก และผู้ป่วยโรคเบาหวาน เป็นต้น, อาหารบำรุงร่างกาย ไปจนถึงอาหารสำหรับการรักษาและฟื้นฟูร่างกาย

รวมถึงต้องช่วยยกระดับขีดความสามารถอุตสาหกรรมอาหารของไทยตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ และผลักดันให้บ้านเราเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมอาหารโลก เพื่อสร้างความยั่งยืนด้านอาหาร ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดของศูนย์ FTEC

 

เฟสแรกซีพีแรมได้ใช้เงินลงทุนไปกว่า 100 ล้านบาทสำหรับศูนย์ดังกล่าว โฟกัสในเรื่องของ Biotech ก่อนจะขยายสู่เฟสต่อไปในเรื่องของ Robotech และ Digitech ที่คาดว่า จะใช้เงินลงทุนในหลักร้อยล้านบาทเช่นเดียวกัน

 

เดินหน้าเพิ่มวาไรตี้สินค้า

 

สำหรับแนวโน้มการพัฒนาธุรกิจอาหารของซีพีแรม จะเน้นอาหารพร้อมรับประทาน หรือ Ready to Eat และเบเกอรี่ ที่มีคุณภาพสูงและคุณค่าทางโภชนาการสูงขึ้น เพื่อขยายส่วนแบ่งตลาดและเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน

 

ขณะเดียวกันยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาอาหารท้องถิ่น โดยนำอาหารจากภูมิภาคต่างๆ เช่น ใบเหลียงผัดไข่ ข้าวซอยไก่ ก๋วยจั๊บญวน ฯลฯ มาสู่ตลาดแมส ด้วยการพัฒนาตามอินไซต์ของผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ ผ่านเครือข่ายนักพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ

 

โดยปัจจุบันในแต่ละปีสินค้าของซีพีแรมมีประมาณ 1,100 เมนู แบ่งเป็น Ready to Eat 550 เมนู อีก 450 เมนู เป็นกลุ่มเบเกอรี่ ซึ่งการมีศูนย์ FTEC จะทำให้ทางซีพีแรมสามารถผลิตและพัฒนาสินค้าใหม่ออกมา 500 เมนู เพิ่มขึ้นจากที่ผ่านมาที่แต่ละปีจะมีเมนูใหม่ออกมาราว 450 เมนู