ดูเหมือนว่า สงครามราคารถอีวีในจีน จะปะทุขึ้นอีกระลอก เมื่อพี่ใหญ่อย่าง BYD เบอร์ 1 ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก ได้ หั่นราคา รถของตัวเองอีกครั้ง จนทำให้หุ้นบรรดาค่ายอีวีจีนกิ่งลงแทบทุกราย รวมถึง BYD ด้วย
BYD ตัดสินใจ ลดราคารถยนต์ 22 รุ่น ในตลาดจีนทั้งแบบ BEV และ PHEV โดยส่วนลดจะเริ่มต้นที่ 10-30% ตั้งแต่สัปดาห์นี้จนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน ซึ่งการลดราคาในครั้งนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นรถรุ่นที่ราคาต่ำกว่า 150,000 หยวน (ราว 680,000 บาท)
นักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์ กล่าวว่า จริง ๆ แล้ว BYD ให้ส่วนลดมาตั้งแต่เดือนเมษายนแล้ว แต่ยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการชัดเจน และจากโปรโมชั่นดังกล่าว คาดว่าจะช่วยเพิ่ม จํานวนผู้เยี่ยมชมโชว์รูม BYD ถึง 30 – 40% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนมีโปรโมชั่น
หลังจากที่ BYD ประกาศลดราคา คาดว่า คู่แข่ง ในตลาดเองก็จะ ลดราคา ด้วยเช่นกัน เพื่อที่จะรักษาส่วนแบ่งตลาดของแบรนด์ไว้ และหลังจากการลดราคาของ BYD ได้ส่งผลให้หุ้นของค่ายจีนเกือบทั้งหมดร่วงลง อาทิ
- BYD -7.5%
- Xpeng -3.4%
- Li Auto -3.2%
- Geely -6.7%
ทั้งนี้ จากข้อมูลจากบริษัทวิจัย Jato Dynamics เปิดเผยว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีบริษัทสตาร์ทอัพจำนวนมากที่เข้ามาในตลาดรถอีวีจีน รวมแล้วมีกว่า 169 ราย จากความแน่นของจำนวนผู้เล่น นำไปสู่การแข่งขันด้านราคาอย่างดุเดือด ส่งผลให้บริษัทส่วนใหญ่ยัง ขาดทุนหนัก โดยผู้เล่นมากกว่าครึ่งมีส่วนแบ่งตลาดในจีน น้อยกว่า 0.1% และปัจจุบันมีบริษัทผู้ผลิตเพียง 3 รายที่ทำกำไร ได้แก่ BYD, Li Auto และ Seres
Wei Jianjun ประธานบริษัท Great Wall Motor (GWM) ออกมาเตือนว่า สงครามราคาที่ยืดเยื้อกำลังทำร้ายอุปทานยานยนต์ และผู้เล่นบารายมีความเสี่ยงที่จะล้มเหลวเนื่องจากแรงกดดันให้ลดราคา
“สินค้าบางอย่างถูกลดราคาจาก 220,000 หยวน เหลือ 120,000 หยวนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แล้วมันมีสินค้าในอุตสาหกรรมประเภทไหนบ้างที่สามารถลดราคาไป 100,000 หยวน แล้วยังรับประกันคุณภาพสินค้าได้?”
ขณะที่ ไมเคิล ดันน์ ที่ปรึกษาที่ติดตามอุตสาหกรรมยานยนต์จีน กล่าวว่า “การลดราคาของ BYD จะฆ่าผู้เล่นที่อ่อนแอบางรายให้หลุดออกจากตลาดไป แต่สำหรับทุกความสูญเสีย ก็จะมีที่ว่างให้ Xiaomi หรือ Huawei เข้ามาสู่เวทีแข่งขัน”