ฟอร์ทิเน็ทประกาศลุยตลาดองค์กรขนาดใหญ่ ส่ง FortiGate 5000 ลงแข่งขันในระบบการรักษาความปลอดภัยบนเครือข่าย

18 พฤศจิกายน 2547 … FortiGate 5000 ปรากฎการณ์ใหม่ของระบบการรักษาความปลอดภัยบนเครือข่าย ที่มีเพียงผลิตภัณฑ์เดียวในอุตสาหกรรม ที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากลของ Advanced Telecom Computing Architecture ในการขยายการใช้งานโดยการเพิ่ม chassis จาก 2 เบลดเป็น 14 เบลด

ฟอร์ทิเน็ทผู้นำด้านระบบรักษาความปลอดภัยบนเครือข่ายแบบ ASIC-powered ที่ครอบคลุมทั้ง Firewall และระบบป้องกันไวรัสแบบเรียลไทมม์ ประกาศขยายตลาดโดยส่งรุ่น FortiGate 5000 ลงบุกตลาดองค์กรขนาดใหญ่ อาทิ การสื่อสารและโทรคมนาคม รวมทั้งกลุ่มผู้ให้บริการ หรือ service providers

ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ในตระกูล FortiGate 5000 ตัวใหม่นี้จะประกอบไปด้วยความสามารถต่างๆ ที่เพียบพร้อมในการรักษาความปลอดภัย บนการทำงานที่ขยายได้ตั้งแต่ 2 ไปจนถึง 14 แผงวงจร (blades) บน 1 chasis ซึ่งเป็นความสามารถในการขยายการทำงานที่สูงสุด เมื่อเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์อื่นในรุ่นเดียวกัน ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถออกแบบเครือข่ายได้ตามต้องการ ในขณะที่ยังคงความสามารถที่หลากหลาย และยิ่งไปกว่านั้นคือ ด้วยหลักการของ FortiGate 5000 chassis ทำให้ฟอร์ทิเน็ทเป็นผลิตภัณฑ์รายแรก ที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานอุตสาหกรรมของ Advanced Telecom Computing Architecture หรือ (AdvancedTCA(r)) industry standard ซึ่งผ่านการรับรองโดย Intel และบริษัทชั้นนำอื่นๆ อีกด้วย

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ : (Industry Standard Chassis) ความเชื่อมั่นและความยืดหยุ่น

ผลิตภัณฑ์ในตระกูล FortiGate 5000 ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์รวมทั้งสิ้น 3 รุ่น คือ

1. FortiGate 5020 ซึ่งประกอบด้วยสล็อตจำนวน 2 สล็อต
2. FortiGate 5050 ซึ่งประกอบด้วยสล็อตจำนวน 5 สล็อต
3. FortiGate 5140 ซึ่งประกอบด้วยสล็อตจำนวน 14 สล็อต

ทุกรุ่นจะประกอบไปด้วยแผงวงจรหรือเบลด โดย FortiGate 5001 มีชื่อเสียงทางด้านคุณสมบัติการรักษาความปลอดภัย และ FortiGate 5003 ที่รองรับคุณสมบัติของการปฏิบัติงานแบบคลัสเตอร์ได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ฟอร์ทิเกทในตระกูล 5000 ทุกตัวต่างได้รับการรับรองตามมาตรฐานอุตสาหกรรมของ AdvancedTCA ที่เกิดขึ้นจากการผลักดันโดยบริษัทต่างๆ กว่า 100 แห่งทั่วโลกภายใต้กลุ่ม PCI Industrial Computers Manufacturing Group (PICMG) ซึ่งนับเป็นมิติใหม่ในวงการสื่อสารและโทรคมนาคมอีกด้วย ที่รองรับการเชื่อมต่อด้วยความเร็วสูง (high speed interconnect) ที่กำลังจะเข้ามาถึงในเวลาอันใกล้นี้ ซึ่งจะเป็นการปรับโฉมหน้ารูปแบบการประมวลผล เพื่อเพิ่มความเสถียร ความสามารถในการจัดการ และการบริการอย่างสูงสุด

ทั้งนี้หลักการพื้นฐานของ AdvancedTCA เป็นไปเพื่อการสร้างมาตรฐานสถาปัตยกรรมให้กับอุปกรณ์สื่อสารในวงการโทรคมนาคม เพื่อให้สามารถรองรับการทำงานต่างๆ ที่จำเป็นอาทิ NEBS และ ETSI รวมทั้งยังต้องคงสภาพการทำงานให้ได้ถึง 99.999% อีกด้วย ทั้งนี้คุณสมบัติหลักภายใต้มาตรฐานนี้ยังรวมถึงความสามารถในการปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนภายในอุปกรณ์ได้โดยไม่กระทบกับการทำงาน (hot-swap) ไม่ว่าจะเป็นชิ้นส่วนของแผงวงจร (blades) เอง, power supplies, พัดลม,ไฟกระแสตรงสำหรับการทำงาน รวมไปถึงหน้าจอควบคุมอุปกรณ์แต่ละชั้น ที่จะเป็นตัวควบคุมสภาพแวดล้อมและ power parameters โดย FortiGate 5000 เป็นผลิตภัณฑ์ตระกูลแรกในอุตสาหกรรมที่ผ่านการรับรองตามมาตรฐานนี้และมีจำหน่ายในตลาดอีกด้วย

นาย แอนโธนี แอมโบรส ผู้จัดการทั่วไปของโครงการ Intel Modular Platform Programs บริษัทอินเทล กล่าวว่า ” มาตรฐานของ AdvancedTCA chassis นี้จะก่อให้เกิดมาตรฐานสากลของสถาปัตยกรรมของอุปกรณ์ในวงการสื่อสารและโทรคมนาคม ที่สามารถรองรับความต้องการของวงการได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ high availability และการรองรับการขยายตัวในอนาคตด้วยเช่นกัน ดังนั้นการรวมกันของคุณสมบัติภายใต้มาตรฐานของ AdvancedTCA ผนวกกับ modular building blocks จากอินเทล และระบบการประมวลผลที่ใช้พลังงานต่ำของโปรเซสเซอร์ Intel Xeon ทำให้ฟอร์ทิเน็ทสามารถแสดงศักยภาพของผู้นำในตลาดรักษาความปลอดภัยบนเครือข่าย โดยการนำเสนอผ่านอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยของ ฟอร์ทิเน็ทที่ก้าวขึ้นสู่ความต้องการในระดับสื่อสารและโทรคมนาคม ทั้งในด้านคุณสมบัติการรองรับงานและราคาได้เป็นอย่างดี “

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ : ความสามารถในการขยายการทำงานได้สูงสุดในอุตสาหกรรมที่ช่วยปกป้องการลงทุน ผู้ใช้สามารถตั้งค่าการทำงานของ FortiGate 5000 โดยการเลือกแผงวงจร (blades) FortiGate แต่ละรุ่นรวมกันตามการใช้งาน โดยแผงวงจร (blade) FortiGate 5001 จะรองรับการรักษาความปลอดภัยบนเครือข่ายอย่างสมบูรณ์แบบ รวมไปถึง Firewall, VPN, การป้องกันไวรัสและการรุกรานต่างๆ, Antispam, การกรองเนื้อหาในเว็บไซท์ (Web Content Filtering), และการจัดลำดับความสำคัญของข้อมูล (Traffic Shaping) ทั้งนี้จุดเด่นของการทำงานจะอยู่ที่ความเร็วในการทำงานในจุดต่างๆอาทิ

• อุปกรณ์สามารถทำงานผ่าน Firewall ได้ด้วยความเร็วถึง 3 Gbps ซึ่งถือได้ว่าเร็วอย่างมาก และยังสามารถขยายได้มากกว่า 42 Gbps ในรุ่น FortiGate 5140.
• และ 600 Mbps สำหรับความเร็วผ่าน 3DES IPSec VPN
• 400 Mbps สำหรับการตรวจจับการรุกรานต่างๆ (Intrusion Prevention Systems (IPS) )
• 200 Mbps ในการตรวจจับไวรัส

และนอกเหนือไปจากนั้น ด้วยการรวมความสามารถอันหลากหลายในการรักษาความปลอดภัยของฟอร์ทิเกทบนเทคโนโลยี ASIC-accelerated ลงบนอุปกรณ์ตัวเดียวทำให้ฟอร์ทิเน็ทสามารถนำเสนอการลงทุนในอุปกรณ์ และค่าใช้จ่ายในการทำงานที่ต่ำกว่าอุปกรณ์อื่นๆ ในท้องตลาดเมื่อเปรียบเทียบคุณสมบัติที่เท่ากันอีกด้วย

รายละเอียดผลิตภัณฑ์

• FortiGate 5001 เบลดแต่ละตัวประกอบด้วย 4 กิกะบิตพอร์ต (Small Form-factor pluggable (SPF) ports ) และ 4 tri-speed กิกะบิตอีเธอร์เน็ตพอร์ต ที่มาพร้อมกับระบบการประมวลผล FortiASIC ที่นำเสนอความปลอดภัยสูงสุดทั้งคอนเทนต์และเครือข่าย โดย FortiGate 5001 เบลดสามารถติดตั้งในแต่ละ chassis ของ FortiGate 5000 ได้มากกว่า 1 เบลด ซึ่งเป็นการขยาย throughput ออกไปได้ถึงระดับ มัลติกิกะบิตได้ในทุกคุณสมบัติ

• FortiGate 5003 สวิตช์เบลดในรุ่น FortiGate 5050 หรือ FortiGate 5140 chassis สามารถใส่รวมกันเพิ่มระดับของ redundancy ได้ตามความต้องการ เพื่อป้องกันความบกพร่อง ณ จุดใดจุดหนึ่งบน chassis, power supply, พัดลม, เบลด และการเชื่อมต่ออีกด้วย

• และสำหรับลูกค้ากลุ่ม service providers, MSPs และองค์กรขนาดใหญ่ FortiGate 5000 ยังมาพร้อมกับ virtual domains และสามารถตั้ง Antivirus Firewalls ได้ถึง 250 จุดจากแผงวงจร (blades) เดียวอีกด้วย นอกเหนือไปจากนี้แผงวงจรทุกแผง จะสามารถใช้ได้บนทุก chassis ซึ่งจะช่วยให้การลงทุนของผู้ใช้มีความคุ้มค่าต่อไปในอนาคตด้วยเช่นกัน

อุปกรณ์ฟอร์ทิเกทปกป้องทุกองค์กรตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่

ผลิตภัณฑ์ในตระกูลฟอร์ทิเกททั้ง 14 รุ่น จะได้รับการปรับปรุงให้ทันต่อไวรัส, เวิร์ม, โทรจัน, สปายแวร์และการก่อกวนอื่นๆ ผ่านเครือข่ายของ FortiProtect อย่างอัตโนมัติต่อเนื่องทั่วโลก ผสานกับเทคโนโลยีเฉพาะของ ระบบประมวลผล FortiASIC และ FortiOS ที่ช่วยเพิ่มการปกป้องคุ้มครองระบบได้อย่างสมบูรณ์แบบภายใต้การทำงานในระบบเรียลไทมม์

นายเคน ซี ประธานและผู้ก่อตั้ง บริษัทฟอร์ทิเน็ท กล่าวว่า “การเปิดตัวตระกูล FortiGate 5000 นี้นับเป็นก้าวกระโดดครั้งสำคัญ ที่จะสร้างความแตกต่างให้กับฟอร์ทิเน็ท ในการก้าวเข้าสู่ความต้องการของระบบรักษาความปลอดภัย ในวงการอุตสาหกรรมสื่อสารและโทรคมนาคม และองค์กรขนาดใหญ่ ยิ่งไปกว่านั้น FortiGate 5000 คือบทพิสูจน์ก้าวต่อไปในความสามารถของสถาปัตยกรรมของฟอร์ทิเกทอีกด้วย เราสามารถนำเสนอระบบรักษาความปลอดภัย ที่ประสมประสานอยู่ในอุปกรณ์เดียว และสามารถรองรับความต้องการการใช้งานได้ตั้งแต่การใช้งานส่วนบุคคลในระยะไกล และยังขยายไปได้ถึงการใช้งานในระดับองค์กรสื่อสารและโทรคมนาคม ซึ่งไม่มีผลิตภัณฑ์ใดในท้องตลาดสามารถทำได้เท่าเรา และนับเป็นความภาคภูมิใจอย่างสูงสุดกับความสำเร็จในจุดนี้ทีเดียว”

ผู้สนใจในผลิตภัณฑ์ของฟอร์ทิเน็ทสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายขาย บริษัท เดอะแวลลูซิสเตมส์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ฟอร์ทิเน็ทในประเทศไทย โทร. 0-2308-2900 หรือดาวน์โหลดแคตตาล็อกได้ที่ www.value.co.th
ข้อมูลเกี่ยวกับฟอร์ทิเน็ท

ฟอร์ทิเน็ท เจ้าของรางวัลชนะเลิศผลิตภัณฑ์ฟอร์ทิเกท ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ไฟร์วอลล์เพื่อการป้องกันไวรัสประสิทธิภาพสูงด้วยเทคโนโลยี ASIC และได้รับรางวัลชนะเลิศในฐานะที่เป็นผลิตภัณฑ์ด้านการรักษาความปลอดภัยดีเด่น ประจำปี 2004 จากนิตยสารเน็ตเวิร์ค คอมพิวติ้ง และได้รับเลือกให้เป็นผลิตภัณฑ์ไฟร์วอลล์แห่งปี 2003 จากเน็ตเวิร์ค อินดัสทรีย์ ฟอร์ทิเกทจึงเป็นระบบป้องกันเครือข่ายรุ่นใหม่ที่ให้การปกป้องแบบเรียลไทมม์ ซึ่งสามารถ ตรวจสอบและกำจัดความเสียหาย รวมถึงการคุกคามระบบที่อยู่ในรูปของเนื้อหา ทั้งจากอีเมล์และช่องทางการสื่อสารจากเว็บไซต์ เช่น ไวรัส เวิร์ม การบุกรุกในรูปแบบต่างๆ และเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมได้แบบเรียลไทมม์ โดยไม่ส่งผลให้ประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของอุปกรณ์ลดลงแต่อย่างใด

อีกทั้งฟอร์ทิเกทยังเป็นผลิตภัณฑ์ด้านการรักษาความปลอดภัยเดียว ที่ได้รับการรับรองคุณภาพของคุณสมบัติทั้ง 4 ประการจาก ICSA คือ การป้องกันไวรัส, ระบบไฟร์วอลล์, IPSec และ NIDS และเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการอินทริเกรทการให้บริการในระดับเครือข่ายและแอพพลิเคชั่นอย่างครบวงจร จึงเป็นแพลทฟอร์มที่ง่ายต่อการบริหารจัดการเป็นอย่างยิ่ง ปัจจุบันฟอร์ทิเน็ทมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ซันนี่เวลล์ มณรัฐแคลิฟอร์เนีย และได้รับการจัดอันดับจากเรด เฮอร์ริ่ง ให้เป็น 1 ใน 100 สุดยอดบริษัทฯ ระดับโลก