มุ่งพัฒนามาร์เก็ตติ้ง เตรียมกลยุทธ์แนวรุก รักษาความเป็นผู้นำตลาดอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตลาดเซ็กเมนต์ใหม่ “ซูเปอร์ พรีเมี่ยม”ในตลาดบน ด้วยนวัตกรรมใหม่ของผลิตภัณฑ์ “ขวดนมและจุกนมเสมือนการให้นมมารดา” และ “ที่ปั๊มน้ำนม” เพื่อตอบสนองเทรนด์การเลี้ยงลูกด้วยน้ำนมตนเองของคุณแม่ยุคใหม่ ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายสินค้าในกลุ่ม สินค้านำเข้า อีก 15 %
นายเมธิน เลิศสุมิตรกุล ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์ บริษัท มุ่งพัฒนามาร์เก็ตติ้ง จำกัด กล่าวว่า ในปัจจุบัน ตลาดขวดนมมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 140 ล้านบาท โดยในปี 2547 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดขาย 42 ล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 30% และเพื่อเป็นการขยายตลาดเข้าไปในเซ็กเมนต์ใหม่ คือ ซูเปอร์พรีเมี่ยม (Super Premium) และตอบสนองความต้องการของคุณแม่ยุคใหม่ที่เน้นคุณภาพของสินค้าเป็นหลัก โดยไม่คำนึงถึงปัจจัยด้านราคา บริษัทจึงได้นำเข้าผลิตภัณฑ์ ขวดนมและจุกนมเสมือนการให้นมมารดา ซึ่งนวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากประเทศญี่ปุ่น เข้ามาทำตลาดในเมืองไทย เป็น ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนาและค้นคว้ามาจากห้องปฏิบัติการ (แล็ป) พิเศษ ซึ่งทำการสังเกตพฤติกรรมการเลี้ยงลูกจริงของแม่และเด็กทารก จึงสามารถตอบสนองการใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบในด้านพัฒนาการของทารก ซึ่งการวิจัยถือเป็นจุดแข็งของ “พีเจ้น” ที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับทารกชาวเอเชียที่ได้รับการยอมรับเรื่องคุณภาพในหลายประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย โดยคาดหวังการเติบโตจากผลิตภัณฑ์นี้ 20%
นอกจากนี้ ยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “ที่ปั๊มน้ำนม” (Breast Pump) ซึ่งทางบริษัทเล็งเห็นถึงแนวโน้มของกระแสการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของคุณแม่ยุคใหม่ ที่เพิ่มสูงขึ้น พีเจ้นจึงได้พัฒนาสินค้าเพื่อสนับสนุนคุณแม่ให้สามารถให้นมลูกได้มากขึ้นและได้ตลอดเวลา แม้จะต้องทำงานนอกบ้าน โดยตัวผลิตภัณฑ์ที่ปั๊มน้ำนมดังกล่าว ผลิตขึ้นให้มีลักษณะคล้ายการดูดนมของทารกมากที่สุด คาดว่า ผลิตภัณฑ์เบรสต์ปั๊ม จะเข้ามาช่วยขยายส่วนแบ่งทางการตลาดของกลุ่มผลิตภัณฑ์สินค้านำเข้าของบริษัทให้เติบโตขึ้นอีก 10% ส่งผลให้ภาพรวมของทั้งกลุ่มโตขึ้นอีกประมาณ 5% หรือคิดเป็นมูลค่า 10 ล้านบาท แม้ว่าจะมีผู้ค้ารายใหม่ในตลาดนี้เพิ่มมากขึ้นก็ตาม แต่ก็ส่งผลให้ตลาดโตมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งจะยังคงทำให้พีเจ้นครองความเป็นผู้นำในตลาดสินค้าผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก คือมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 50% จากมูลค่าตลาดรวมของกลุ่มสินค้านำเข้า
โดยผลิตภัณฑ์ของพีเจ้น มีช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านทางห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ร้านค้าในโรงพยาบาล และร้าน สเปเชี่ยลตี้ ที่ขายสินค้าเกี่ยวกับแม่และเด็กโดยเฉพาะ กลุ่มเป้าหมายของผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนี้จะเป็นกลุ่ม A ถึง A+ ซึ่งคาดว่า ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้จะช่วยผลักดันยอดขายรวมของพีเจ้นให้เติบโตขึ้นอีก 10 %