ไทยพาณิชย์เปิดตัวบริษัทลูก “บลจ.เอสซีบี ควอนท์ (SCBQ)” เพื่อให้บริการด้านจัดการลงทุนที่เหนือกว่ากองทุนทั่วไปแก่ลูกค้าโดยใช้ตราสารอนุพันธ์เป็นเครื่องมือ พร้อมนำเสนอทางเลือก การลงทุนสมัยใหม่ที่ใช้ชื่อว่า “หุ้นกู้อนุพันธ์” SUPER Note และ COSEY Note ซึ่งจะเปิดให้นักลงทุนสามารถเข้าจองซื้อได้ประมาณต้นเดือนมิถุนายนนี้ บริษัทมั่นใจว่า SCBQ จะช่วยปฏิวัติวงการลงทุนของไทยด้วยทางเลือกใหม่ที่โดดเด่นและแตกต่างและตั้งเป้าสร้างรายได้สูงที่สุดในวงการ บลจ. ภายในเวลาไม่เกิน 5 ปี
ม.ล.ชโยทิต กฤดากร กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด เผยเนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปีแห่งการก่อตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด ว่ามีความยินดีที่จะนำเสนอบริษัทใหม่เพื่อสรรค์สร้างนวัตกรรมการเงินที่เมืองไทยไม่เคยมีมาก่อนโดยการให้บริการตราสารอนุพันธ์และกองทุนส่วนบุคคลแก่ลูกค้านักลงทุนโดยทั่วไปภายใต้ชื่อ บริษัทหลักทรัพย์ จัดการกองทุน เอสซีบี ควอนท์ จำกัด โดยมีวัตถุประสงค์ของการจัดตั้ง คือ เพื่อสรรหาทางเลือกการลงทุนรูปแบบใหม่มาให้บริการแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่องตามปณิธาน ที่บริษัทวางไว้ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา และเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันนโยบาย Premier Universal Bank ของธนาคารไทยพาณิชย์
“เราเชื่อมั่นว่า บลจ.เอสซีบี ควอนท์ จะประสานกับและเติมเต็มธุรกิจตราสารอนุพันธ์ของเครือไทยพาณิชย์ให้ครบวงจรอย่างสมบูรณ์ ทำให้กลุ่มบริษัทในเครือไทยพาณิชย์สามารถตอบสนองต่อความต้องการของนักลงทุนชาวไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนและตลาดบ้านเรายังขาดซึ่งทางเลือกการลงทุนแนวใหม่ นอกจากนี้แล้ว คุณปริทรรศน์ เหลืองอุทัย เองซึ่งจะเข้ามาช่วยก่อตั้งและรับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ของ บลจ.เอสซีบี ควอนท์ ยังมีความรู้และประสบการณ์จากการทำงานในองค์กรชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ จนเป็นที่ยอมรับในแวดวงการเงินและตลาดทุนของไทยว่าเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารเงินชั้นแนวหน้าของเมืองไทยอีกด้วย ดังนั้น ด้วยการสนับสนุนที่ดีจากธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) นักลงทุนจึงสามารถมั่นใจได้ว่าเมื่อมาลงทุนในกองทุนอนุพันธ์กับ บลจ.เอสซีบี ควอนท์ แล้ว จะได้รับบริการการลงทุนในรูปแบบที่แตกต่างและเหนือกว่า ตรงตามความต้องการของท่านและช่วยสร้างความพึงพอใจให้แก่ท่านได้อย่างที่ดีที่สุดอีกด้วย” ม.ล.ชโยทิต กล่าวเพิ่มเติม
นายปริทรรศน์ เหลืองอุทัย, CFA, กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอสซีบี ควอนท์ จำกัดเปิดเผยถึงนโยบายของบริษัทว่า จะให้เริ่มเปิดให้บริการจัดการเงินลงทุนในกองทุนอนุพันธ์แก่นักลงทุนประมาณเดือน ก.ค. 2548 นี้ โดยรูปแบบการลงทุนแนวใหม่นี้จะมีความแตกต่างที่โดดเด่นจากกองทุนปกติที่มีอยู่ในตลาดบ้านเรา อันจะเป็นการช่วยยกระดับการบริหารและจัดการเงินลงทุนในไทยให้ทัดเทียมสากลได้ อย่างที่เราไม่เคยมีมาก่อน
นายปริทรรศน์ ยังได้เปิดเผยต่อไปอีกว่า บริษัทตั้งเป้าหมายของธุรกิจโดยให้ความสำคัญกับ “คุณภาพ” การจัดการ
ผลตอบแทนจากกองทุน และความพึงพอสูงสุดของลูกค้านักลงทุน มากกว่า ตัวเลข “ปริมาณ” อาทิ ขนาดของสินทรัพย์ภายใต้การจัดการกองทุนซึ่งมักจะเป็นเป้าหมายหลักของ บลจ. โดยทั่วไป
อย่างไรก็ดี บริษัทเชื่อว่าจะสามารถก้าวขึ้นเป็น บลจ. ที่มีผลประกอบการดีที่สุด (อันดับ 1) ในอุตสาหกรรมภายในระยะเวลาอันสั้นไม่เกิน 5 ปี และสามารถสร้างรูปแบบการลงทุนที่แปลกใหม่ และแตกต่างอย่างต่อเนื่องจนสามารถครองส่วนแบ่งตลาดได้สูงถึงร้อยละ 15 ภายในช่วงเวลาเดียวกันนี้ นอกจากนี้ บริษัทยังเชื่อว่าเครื่องมืออนุพันธ์และกองทุนอนุพันธ์ จะได้รับความนิยม อย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้นในอนาคตทำให้บริษัทสามารถพัฒนาและระดมบุคลากรชั้นนำที่ดีที่สุดในวงการเงินของไทยทั้งหมดเข้ามาร่วมงานกับ SCBQ เพื่อร่วมกันให้บริการแก่ลูกค้านักลงทุนได้อย่างดีและสมบูรณ์ที่สุด
ปัจจุบัน บริษัท SCBQ มีพนักงานจำนวนทั้งสิ้น 7 คน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นผู้มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญด้านการบริหารเงินลงทุนและตราสารอนุพันธ์เป็นอย่างดี และวางแผนที่จะคัดเลือกและสรรหาพนักงานที่มีคุณภาพเพิ่มขึ้นเป็น 10 คน ภายในเดือน ก.ค.เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณลูกค้าและความต้องการที่จะมีมากขึ้น
“เราเชื่อว่า บลจ.เอสซีบี ควอนท์ มีความพร้อมในการให้บริการที่เหนือกว่าและแตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่นทั้งในด้านความพร้อมของเครือข่ายของธนาคารไทยพาณิชย์ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ความพร้อมด้านบุคลากรที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์และความพร้อมด้านระบบเทคโนโลยีและการจัดการ อีกทั้ง ธนาคารไทยพาณิชย์ซึ่งเป็นผู้นำด้านตราสารอนุพันธ์เงินตราต่างประเทศและอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันจะให้การสนับสนุนและประสานงานอย่างใกล้ชิดดังนั้น นักลงทุนจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการการลงทุนในกองทุนอนุพันธ์ที่สร้างความพึงพอใจ ได้มากที่สุด”
นายปริทรรศน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่า บลจ.เอสซีบี ควอนท์ จะเปิดให้บริการในเดือน ก.ค. แต่ ณ วันนี้
นักลงทุนสามารถเลือกใช้บริการลงทุนในผลิตภัณฑ์ชนิดแรกของบริษัทและของไทยได้ นั่นคือ หุ้นกู้อนุพันธ์ SUPER Note และ COSEY Note ทั้งนี้ หุ้นกู้อนุพันธ์ทั้ง 2 ชนิดนี้มีความแตกต่างกัน โดย SUPER Note
เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะสั้น คือ 3 เดือน แต่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงในเชิงลบจากการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ที่อาจส่งผลกระทบต่อเงินต้นที่ลงทุน ส่วนผลตอบแทนขั้นต่ำนั้น บริษัทรับประกันว่าจะไม่ต่ำกว่าอัตรา ดอกเบี้ยเงินฝากประจำของธนาคารพาณิชย์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังสามารถได้รับผลตอบแทนพิเศษเพิ่มเติมได้อีก ตามการเปลี่ยนแปลงของตลาดหุ้นที่กำหนดไว้
สำหรับ COSEY Note นั้น จะเหมาะสำหรับนักลงทุนที่พร้อมจะถือหุ้นอ้างอิงในระยะยาวและสามารถรับความเสี่ยง จากการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ได้ในระดับหนึ่งโดยนักลงทุนจะได้รับอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำมากซึ่งอาจสูงถึงประมาณ 5-6 เท่า นอกจากนี้ บริษัทยังให้การรับประกันและพร้อมจ่ายเงินชดเชย เพื่อคุ้มครอง เงินต้นของนักลงทุนไม่ให้ต่ำกว่าร้อยละ 80 อีกด้วยอย่างแน่นอนไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตลาดหุ้นในช่วง 6 เดือนนี้
นายปริทรรศน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ปี 2548 นับเป็นครั้งแรกที่นักลงทุนชาวไทยจะมีทางเลือกใหม่ในการบริหารเงินลงทุน โดยลูกค้านักลงทุนสามารถเลือกใช้บริการจัดการเงินลงทุนในกองทุน อนุพันธ์ของ SCBQ ก็ได้หากต้องการได้รับบริการจากผู้เชี่ยวชาญ หรือสามารถเลือกลงทุนในหุ้นกู้อนุพันธ์ที่บริษัทจัดจำหน่ายได้โดยตรงด้วยตนเองก็ได้
ข้อมูลเพิ่มเติม
บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2538 ถือหุ้น 100% โดยธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โดยกลุ่มธนาคารมีนโยบายให้บริการเป็น Universal Bank เต็มรูปแบบ ซึ่งบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด ได้รับมอบหมายให้ดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์แบบครบวงจร พร้อมเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการทางการเงินเพื่อตอบสนองความต้องการ ของลูกค้าสถาบัน บริษัทต่างๆ รวมถึงลูกค้ารายย่อยทั่วไปในตลาดทุน