กรุงเทพฯ – นอร์เทลบริจาคโซลูชันสำหรับศูนย์รับแจ้งเหตุแก่ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (NDWC) เพื่อรองรับการสื่อสารแจ้งเหตุภัยพิบัติทุกประเภท พร้อมให้ข้อมูลภัยพิบัติทั่วประเทศผ่านหมายเลขโทรศัพท์ 1860 โดยมีพันธมิตรของนอร์เทล คือ บริษัท เทเลเดต้า (ประเทศไทย) และ ทรีดี เน็ทเวิร์คส์ ให้ความช่วยเหลือทางด้านงานวิศวกรและช่างทางเทคนิคเพื่อติดตั้งระบบใหม่ดังกล่าว
ศูนย์บริการข้อมูลซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยแพล็ทฟอร์มทางด้านการสื่อสารโทรคมนาคมของนอร์เทลนี้ จะทำให้ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติสามารถรองรับสายเรียกเข้าปริมาณสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว และยังเชื่อมต่อกับเครือข่ายสถานีวิทยุกระจายเสียง โทรศัพท์ และโทรศัพท์มือถือ เพื่อกระจายข่าวเตือนล่วงหน้าเพื่อรักษาชีวิตและทรัพย์สินได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยรัฐบาลไทยได้จัดตั้งศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติที่จังหวัดนนทบุรี ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 20 กิโลเมตร
นายมาร์ค สตีเวนส์ รองประธาน นอร์เทลอาเซียนและปากีสถาน กล่าวว่า “การส่งเสริมความพึงพอใจให้แก่ประชาชนผ่านระบบการสื่อสารโทรคมนาคมนับเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของปรัชญาองค์กรของนอร์เทล และการจัดตั้งศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติก็ได้ให้โอกาสแก่เราเพื่อให้บริการเทคโนโลยีที่สามารถช่วยผ่อนคลายการกระทบกระเทือนจากความหายนะที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต”
ด้วยความร่วมมือจากเทเลเดต้าและทรีดีเน็ทเวิร์ค นอร์เทลจึงได้ตอบสนองความประสงค์ของรัฐบาลไทยในด้านความช่วยเหลือทางเทคนิคด้วยระบบที่สมบูรณ์แบบ และได้รับการยอมรับจากนายปลอดประสพ สุรัสวดี ที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการจัดตั้งศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ
โซลูชันที่นอร์เทลได้มอบให้แก่ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้แก่ นอร์เทลเมริเดียน 1 ออพชัน 11 ซี พีบีเอ็กซ์ (Nortel Meridian 1 Option 11 C PBX)เพื่อให้บริการเสียงและวีโอไอพีและสนับสนุนแอพลิเคชันชั้นสูงเช่น นอร์เทลซิมโพเซียมเอ็กซ์เปรสคอลเซ็นเตอร์ (Nortel Symposium Express Call Center) และ Media Processing Server 500 (MPS 500) ซึ่งเป็นโซลูชันที่ทำงานด้วยตัวเองโดยรวมเอาอินทีเกรตวอยซ์เรสปอนด์ (IVR) ไว้บนผลิตภัณฑ์
โซลูชันซิมโพเซียมเอ็กซ์เปรส จะทำให้ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติสามารถให้บริการและรองรับปริมาณสายเรียกเข้าปริมาณสูงได้โดยมีประสิทธิภาพและระดับการให้บริการอย่างสูงสุด นอกจากนั้นยังทำให้ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติสามารถรองรับสายเรียกเข้าได้ถึง 5,000 สายต่อชั่วโมงและพนักงานถึง 150 คนต่อไปในอนาคต ผลิตภัณฑ์ เอ็มพีเอส 500 จากนอร์เทลจะอำนวยให้ผู้ใช้บริการสามารถเลือกหัวข้อของบริการได้ด้วยตนเองแทนที่จะถือสายรอพูดกับพนักงาน และยังเป็นการพัฒนาประสิทธิภาพของศูนย์บริการโดยการทำให้ความต้องการใช้บริการของประชาชนที่เกิดขึ้นซ้ำอยู่เป็นประจำให้เป็นระบบอัตโนมัติที่มั่นคงและรองรับได้หลายภาษา ทำให้พนักงานสามารถทำงานบริการให้กับความต้องการที่ซับซ้อนหรือเร่งด่วนกว่านั้น นอร์เทลยังได้มอบแอพลิเคชันชื่อ ออพติวิตีเทเลโฟนีแมเนเจอร์ (Optivity Telephony Manager) ซึ่งเป็นเครื่องมือจัดการแบบสมบูรณ์ในด้านการจัดรูปแบบ การควบคุมและการวิเคราะห์ของระบบพีบีเอ็กซ์ เมริเดียน 1
ที่ผ่านมา นอร์เทลได้ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนการฟื้นตัวในย่านนี้จากเหตุการณ์สึนามิในปลายปี 2004 จนถึงวันนี้ นอร์เทลคอร์เปอเรชันและพนักงานได้บริจาคกว่า 1.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้แก่ สภากาชาด ยูนิเซฟ และแคร์ และยังได้ช่วยเหลือให้บริการระบบสื่อสารเคลื่อนที่ให้แก่กองทัพเรือของสหรัฐฯ ในโครงการช่วยเหลือในประเทศอินโดนีเซียอีกด้วย
ข้อมูลเกี่ยวกับนอร์เทล
นอร์เทล จัดเป็นผู้ค้าระบบสื่อสารชั้นนำ เพิ่มพูนประสบการณ์ของมวลมนุษย์ ส่งเสริมและสร้างศักยภาพให้แก่การค้าโลก และปกป้องคุ้มครองข้อมูลสำคัญที่สุดของโลก ด้วยโซลูชั่นที่เป็นเทคโนโลยีล่าสุดของนอร์เทล เพื่อรองรับการสื่อสารบรอดแบนด์, Voice Over IP, บริการและแอพพลิเคชั่นมัลติมีเดีย รวมทั้งการสื่อสารบรอดแบนด์ไร้สายครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เป็นบริษัทสื่อสารและองค์กรต่างๆ ได้เป็นอย่างดี โซลูชั่นเหล่านี้ถูกออกแบบมา เพื่อช่วยให้ผู้คนเอาชนะอุปสรรคที่ยุ่งยากที่สุดของการทำงานได้ นอร์เทลทำธุรกิจในประเทศต่างๆ มากกว่า 150 ประเทศ รับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนอร์เทลได้ที่ www.nortel.com