ฟรายด์ แฟรงค์ ประกาศชื่อหุ้นส่วนใหม่ 10 คน

นิวยอร์ก–(บิสิเนส ไวร์)–1 ส.ค. 2548 บริษัทฟรายด์, แฟรงค์, แฮร์ริส, ชริเวอร์ แอนด์ เจค็อบสัน แอลแอลพี (Fried, Frank, Harris, Shriver & Jacobson LLP) ประกาศในวันนี้ว่า ทนายความจำนวน 10 คนได้รับเลือกเป็นหุ้นส่วนของบริษัท ทั้งนี้จนถึงวันที่ 1 ก.ย. 2548 หุ้นส่วนใหม่ดังกล่าวได้แก่ อีมิล บุชแมน, อิสราเอล เดวิด, ไมเคิล บี เดอ ลิว, มิเชล บี โกล, แกรี แอล แคปแลน, วาลิด คูริ, เจ คริสเตียน นาห์ร, แฮร์รี อาร์ ซิลวีรา, พอล ดี ทร็อปป์ และ เทราซา เอ็ม เวนีเซีย

“เรามีความยินดีที่จะต้อนรับทนายที่มีความสามารถโดดเด่นเหล่านี้เข้าร่วมเป็นหุ้นส่วน พวกเขาจะเป็นผู้แทนในการดำเนินคดีของเรา และจะแสดงให้เห็นถึงการขยายตัวของบริษัทในฐานะธุรกิจระดับโลก” วาเลอรี ฟอร์ด เจค็อบ ประธานบริษัทฟรายด์ แฟรงค์กล่าว

“หุ้นส่วนใหม่แต่ละคนของเราเข้ากับวัฒนธรรมของฟรายด์ แฟรงค์ได้เป็นอย่างดีทั้งในด้านความเป็นเลิศ ความคิด และความสำเร็จ เรายินดีต้อนรับพวกเขาในวันนี้และหวังที่จะเห็นความสำเร็จและความสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของพวกเขาที่มีต่อบริษัท” จัสติน สเปนด์เลิฟ หุ้นส่วนจัดการของฟรายด์ แฟรงค์กล่าว

รายชื่อทนายความที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหุ้นส่วนมีดังนี้:
นายอีมิล บุชแมน ทนายความฝ่ายธุรกิจนิวยอร์ก จะเน้นการดำเนินคดีด้านธุรกรรมทางการเงินที่หลากหลายสำหรับสถาบันการเงินและธุรกิจต่างๆ รวมถึงการเป็นตัวแทนของธนาคารพาณิชย์ และวาณิชธนกิจในด้านการระดมทุนร่วม, เป็นตัวแทนของนักลงทุนในการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปและผู้สนับสนุนธุรกิจร่วมทุน, บริษัทในเครือและบริษัทมหาชนในฐานะผู้กู้ในการทำธุรกรรมทางการเงิน นายบุชแมนเข้าร่วมงานกับบริษัทในปี 2539 และได้เป็นที่ปรึกษาพิเศษในปี 2547 เขาจบการศึกษาหลักสูตร Juris Doctor (JD) เกียรตินิยมอันดับหนึ่งจากโรงเรียนกฏหมายบรูคลินและจบการศึกษาระดับปริญญาตรี เกียรตินิยมอันดับหนึ่งจากสถาบันวิศวกรโยธาอาร์เซอร์ไบจันในเมืองบาคู และได้รับอนุญาตให้ประกอบอาชีพทนายความในรัฐนิวยอร์ก

นายอิสราเอล เดวิด เป็นทนายความฝ่ายการฟ้องร้องดำเนินคดีในนิวยอร์ก โดยดูแลการดำเนินคดีเกี่ยวกับการฟ้องร้องด้านความขัดแย้งทางธุรกิจและการพาณิชย์ที่ซับซ้อน โดยเน้นด้านหลักทรัพย์, ผู้ถือหุ้น, ตราสารอนุพันธ์และการฟ้องร้องดำเนินคดีเป็นกลุ่ม, ความขัดแย้งด้านการควบคุมธุรกิจ และคดีอาญาเกี่ยวกับกลุ่มพนักงานที่ไม่ได้ใช้แรงงาน (white-collar) นายเดวิดเข้าร่วมงานกับบริษัทในปี 2539 โดยเขาจบการศึกษาหลักสูตร Juris Doctor (JD) เกียรตินิยมอันดับสาม จากโรงเรียนกฎหมายแห่งมหาวิทยาลัยฟอร์ดแฮม ซึ่งเขาได้รับเลือกเข้ากลุ่ม Order of the Coif ซึ่งเป็นกลุ่มสมาชิกที่มีเกียรติระดับประเทศสำหรับผู้จบการศึกษาจากโรงเรียนกฎหมาย และเขาจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเบธ เมดราช โกโวฮา โดยเขาได้รับอนุญาตให้ประกอบอาชีพทนายความในรัฐนิวยอร์กและดำเนินคดีที่ศาลแขวงต่างๆของสหรัฐสำหรับเขตต่างๆทางใต้และตะวันออกในนิวยอร์ก

นายไมเคิล บี เดอ ลิว ทนายความฝ่ายฟ้องร้องดำเนินคดีในนิวยอร์ก โดยเน้นการดำเนินคดีเกี่ยวกับการฟ้องร้องด้านการพาณิชย์ที่ซับซ้อนสำหรับบริษัทและสถาบันขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นต่างๆที่หลากหลาย ได้แก่ สัญญา, ทรัพย์สินทางปัญญา, หลักทรัพย์, การละเมิดทางธุรกิจ และกฎหมายต่อต้านการผูกขาด โดยนายเดอ ลิว เข้าร่วมงานกับบริษัทในปี 2540 โดยเขาจบการศึกษาหลักสูตร Juris Doctor (JD) จากโรงเรียนกฎหมายแห่งมหาวิทยาลัยรัทเจอร์ส รัฐเนวาร์ค และจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยมอนต์แคลร์ สเตท โดยเขาได้รับอนุญาตให้ประกอบอาชีพทนายความในรัฐนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีย์

นางมิเชล บี โกลด์ ทนายความฝ่ายภาษีรัฐวอชิงตัน ดูแลการดำเนินคดีเกี่ยวกับภาษีเงินได้ของรัฐบาลกลาง รวมถึงด้านการเป็นหุ้นส่วน, โครงสร้างของการซื้อและขายกิจการที่ต้องเสียภาษีและปลอดภาษี, การปรับโครงสร้างองค์กรธุรกิจที่มีอยู่และการวางแผนภาษีสำหรับการระดมทุนและธุรกรรมด้านการระดมทุนอื่นๆ นางโกลด์เข้าร่วมงานกับบริษัทในปี 2540 โดยจบการศึกษาหลักสูตร Juris Doctor (JD) เกียรตินิยมอันดับสอง จากศูนย์กฎหมายมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ซึ่งเธอได้เป็นบรรณาธิการบทความของวารสารกฎหมายและนโยบายธุรกิจระหว่างประเทศ เธอจบการศึกษาระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์และปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยแบรนดีส และได้รับอนุญาตประกอบอาชีพทนายความในดีซีและรัฐเวอร์จิเนีย

นายแกรี แอล แคปแลน ทนายความแผนกล้มละลายและปรับโครงสร้างรัฐนิวยอร์ก โดยดูแลการดำเนินคดีในการเป็นตัวแทนของลูกหนี้, คณะกรรมการเจ้าหนี้, เจ้าหนี้สำคัญ และผู้ซื้อบุคคลที่สามที่เกี่ยวกับคดีมาตรา 11 และคดีปรับโครงสร้าง นายแคปแลนเข้าร่วมงานกับบริษัทในปี 2541 โดยเขาจบการศึกษาหลักสูตร Juris Doctor (JD) เกียรตินิยมจากโรงเรียนกฎหมายแห่งมหาวิทยาลัยรัทเจอร์ส และจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยแมรี แลนด์ที่คอลเลจ พาร์ค เขาเป็นผู้ช่วยด้านกฎหมายให้กับผู้พิพากษาแมรี การิบาลดีแห่งศาลสูงรัฐนิวเจอร์ซีย์ และเขาได้รับอนุญาตประกอบอาชีพทนายในศาลรัฐบาลกลางและศาลของรัฐในนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีย์

นายวาลิด คูรี ทนายความฝ่ายธุรกิจรัฐวอชิงตัน เน้นการดำเนินคดีขั้นต้นในงานที่เกี่ยวกับกองทุนและประเด็นด้านกฎหมายหลักทรัพย์และการทำธุรกรรมอื่นๆ รวมถึงโครงสร้างและการนำเสนอของกองทุนประกันความเสี่ยงและกองทุนของเฮดจ์ ฟันด์, ธุรกรรมการทำสว็อป และตราสารอนุพันธ์ เขายังให้คำปรึกษากับบรรดาที่ปรึกษาเฮดจ์ ฟันด์และลูกค้าอื่นๆในประเด็นที่เกี่ยวกับการจัดการ, การวางแผนธุรกิจ และการปฏิบัติตามกฎหมายหลักทรัพย์ โดยนายคูรีเข้าร่วมงานกับบริษัทในปี 2543 โดยเขาจบการศึกษาหลักสูตร Juris Doctor (JD) เกียรตินิยม จากมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ และจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยบราวน์ และเขาได้รับอนุญาตประกอบอาชีพทนายในดีซีและนิวยอร์ก

นายเจ คริสเตียน นาห์ร ทนายความฝ่ายธุรกิจลอนดอน ดูแลการดำเนินคดีเกี่ยวกับการควบกิจการและการซื้อกิจการข้ามประเทศ, การระดมทุนสำหรับซื้อกิจการ และกฎหมายธุรกิจและหลักทรัพย์ของสหรัฐ นายนาห์รเข้าร่วมงานที่สำนักงานในนิวยอร์กของบริษัทในปี 2540 และย้ายไปประจำที่สำนักงานในปารีสในปี 2542 และประจำอยู่ที่ลอนดอนนับตั้งแต่ปี 2545 โดยเขาจบการศึกษาระดับปริญญาโทด้านกฎหมายจากโรงเรียนกฎหมายแห่งมหาวิทยาลัยนิวยอร์กและจบปริญญาตรีทางด้านกฎหมาย เกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัย Freie Universitat แห่งเบอร์ลิน โดยนายนาห์รเป็นผู้ช่วยด้านกฎหมายให้กับศาลอุทธรณ์ในเบอร์ลิน และเขาได้รับอนุญาตประกอบอาชีพทนายความในนิวยอร์กและในเบอร์ลิน

นายแฮร์รี อาร์ ซิลวีรา ทนายความฝ่ายอสังหาริมทรัพย์รัฐนิวยอร์ก ดูแลการทำคดีเกี่ยวกับประเด็นและธุรกรรมด้านอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ การซื้อและการขาย, การระดมทุน, การเช่าซื้อ และการร่วมทุน โดยนายซิลวีราเข้าร่วมงานกับบริษัทในปี 2538 ในแผนกภาษี ต่อมาได้ย้ายไปอยู่แผนกอสังหาริมทรัพย์ในปี 2541 โดยเขาจบการศึกษาหลักสูตร Juris Doctor (JD) จากโรงเรียนกฎหมายแห่งมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย, ลอสแองเจลิส เขาได้รับอนุญาตประกอบอาชีพทนายความในรัฐนิวยอร์ก

นายพอล ดี ทร็อปป์ ทนายฝ่ายธุรกิจรัฐนิวยอร์ก ดูแลการทำคดีเกี่ยวกับตลาดทุนและธุรกรรมการเงินของภาคธุรกิจรวมถึงการเป็นตัวแทนของผู้ออกตราสารหนี้, อันเดอร์ไรเตอร์ และผู้ปล่อยกู้ในการเสนอขายหลักทรัพย์ทั้งภาครัฐและเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการทำธุรกรรมตลาดทุนที่เกี่ยวข้อง

โดยนายทร็อปป์เข้าร่วมงานกับบริษัทที่สำนักงานในกรุงลอนดอนเมื่อปี 2544 และประจำอยู่ที่สำนักงานในนิวยอร์กตั้งแต่ปี 2545 โดยเขาจบการศึกษาหลักสูตร Juris Doctor (JD) จากโรงเรียนกฎหมายแห่งมหาวิทยาลัยนิวยอร์กและจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด และได้รับอนุญาตประกอบอาชีพทนายความในรัฐนิวยอร์ก

นางเทราซา เอ็ม เวนีเซีย ทนายฝ่ายฟ้องร้องคดีในนิวยอร์ก ดูแลการทำคดีเกี่ยวกับกฎหมายหลักทรัพย์และการบังคับใช้โดยเป็นผู้แทนของฝ่ายต่างๆในการสอบสวนที่จัดทำขึ้นโดยคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ, สมาคมผู้ค้าหลักทรัพย์แห่งชาติ, ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กหรือผสำนักงานควบคุมกฎระเบียบหลักทรัพย์แห่งรัฐซึ่งทำการสอบสวนภายใน, ให้คำแนะนำด้านการจัดการวิกฤตการณ์แก่บริษัทภาครัฐและเอกชน, เป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทของรัฐและบริษัทที่ถูกควบคุมเกี่ยวกับภาระหน้าที่ภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลางและให้คำปรึกษากับบริษัทของรัฐและบริษัทที่ถูกควบคุมเกี่ยวกับการบังคับใช้และรักษากฎหมาย นางเวนีเซียเข้าร่วมงานกับบริษัทในปี 2543 และเป็นที่ปรึกษาพิเศษในปี 2547 โดยเธอจบการศึกษาหลักสูตร Juris Doctor (JD) เกียรตินิยมอันดับสองจากโรงเรียนกฏหมายแห่งมหาวิทยาลัยเซนต์ จอห์น และจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเซนต์ จอห์น เธอได้รับอนุญาตประกอบอาชีพทนายความในนิวยอร์กและดำเนินคดีในศาลแขวงสหรัฐสำหรับเขตตะวันออกและใต้ของรัฐนิวยอร์ก

บริษัทฟรายด์, แฟรงค์, แฮร์ริส, ชริเวอร์ แอนด์ เจค็อบสัน แอลแอลพี เป็นบริษัทกฎหมายระหว่างประเทศที่มีทนายความมากกว่า 520 คนในสำนักงานต่างๆที่นิวยอร์ก, วอชิงตัน ดีซี, ลอนดอน, ปารีส และแฟรงค์เฟิร์ต ทนายความของฟรายด์, แฟรงค์ จะเป็นตัวแทนของลูกค้าในการดำเนินคดีเกี่ยวกับการทำธุรกิจต่างๆ รวมถึงการควบกิจการและการซื้อกิจการ, การเสนอขายหลักทรัพย์และการระดมทุน, การทำธุรกรรมระหว่างประเทศ, การจัดการสินทรัพย์และการกำกับดูแลธุรกิจ, การฟ้องร้องซึ่งรวมถึงการฟ้องร้องทั่วไปด้านพาณิชย์, หลักทรัพย์และผู้ถือหุ้น การแก้ต่างคดีอาญาของกลุ่มพนักงานที่ได้ไม่ใช้แรงงานและการตรวจสอบภายใน, การฟ้องร้องด้านทรัพย์สินทางปัญญา, ประเด็นร้องทุกข์และประเด็นที่เกี่ยวกับกฎหมาย RICO, การเทคโอเวอร์และความพยายามที่จะควบคุมธุรกิจ, ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมและอนุญาโตตุลาการทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงทางเลือกในการแก้ไขความขัดแย้ง การให้คำปรึกษาและฟ้องร้องด้านการต่อต้านการผูกขาด การล้มละลายและการปรับโครงสร้าง อสังหาริมทรัพย์ กฎระเบียบด้านหลักทรัพย์ การบังคับใช้และปฏิบัติ การปฏิบัติตามสัญญาและการฟ้องร้องสัญญาของรัฐบาล ผลประโยชน์และค่าตอบแทน ทรัพย์สินทางปัญญาและเทคโนโลยี ภาษี สถาบันการเงินรวมถึงทรัสต์และทรัพย์สิน ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทฟรายด์ แฟรงค์ สามารถดูได้จาก www.friedfrank.com