บุราส่าหรี จังซีลอน จดลิขสิทธิ์เมนูอาหารรสเด็ดของ คีธ ฟลอยด์ เป็นแห่งแรกในเอเชีย และตกแต่งห้องอาหาร “Floyd’s Brasserie” ในรูปแบบและไลฟ์สไตล์ที่ตรงใจนักท่องเที่ยวนานาชาติ มุ่งหวังตึงดูดนักท่องเที่ยวและนักชิมเดินทางสู่ไทย เพื่อลิ้มลองรสมือถึงจังหวัดภูเก็ต เชื่อมั่นชื่อเสียงเชฟระดับโลก ในฐานะผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ 23 รายการและหนังสือขายดีอีก 26 เล่ม ซึ่งเผยแพร่จนเป็นที่ยอมรับในหลายประเทศทั่วโลก จะช่วยโปรโมตและกระตุ้นให้การท่องเที่ยวภูเก็ตคึกคักอีกครั้งต้นแต่ช่วงต้นปี 2549 เป็นต้นไป
นางสาวลิลลี่ อุดมคุณธรรม กรรมการผู้จัดการ โรงแรมบุราส่าหรี จังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ได้ลงนามในสัญญาข้อตกลง เพื่อนำลิขสิทธิ์รายการอาหารสูตรของเชฟชื่อดังระดับโลก “ คีธ ฟลอยด์ ” ( Keith Floyd) จากประเทศอังกฤษ มาให้บริการในห้องอาหาร “ Floyd’s Brasserie” ของโรงแรม บุราส่าหรี จังซีลอน ซึ่งจะเปิดให้บริการในต้นช่วงปี 2549 นี้ ซึ่งเป็นการเตรียมการรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติจากนานาประเทศ ที่จะหลั่งไหลเข้ามาภายหลังจากภาครัฐบาลได้เร่งการประชาสัมพันธ์ดึงดูดทัพนักท่องเที่ยวให้เดินทางมายังจังหวัดภูเก็ต โดยคาดว่าจะมีจำนวนมากกว่าในปี 2548 ที่ต้องประสบกับวิกฤติจากภัยพิบัติสึนามิ โดยห้องอาหาร “ Floyd’s Brasserie” ได้รับการจดลิขสิทธิ์เป็นแห่งแรกของเอเชีย จะมีการตกแต่งห้องอาหารให้สวยงาม และการฝีกอบรมบุคลากรทั้งด้านบริการและด้านครัว เพื่อสามารถให้บริการและปรุงอาหารให้มีรสชาติเช่นเดียวกับสูตรต้นตำรับของ ฟลอยด์ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
”การนำลิขสิทธิ์สูตรอาหารของ ฟลอยด์ มาให้บริการนั้น บุราส่าหรี จังซีลอน มองว่าเป็นโอกาสของการลงทุนทางธุรกิจ ที่จะสร้างความแตกต่างในการให้บริการ เพื่อดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวจากนานาประเทศ เนื่องจากลิขสิทธิ์สูตรอาหารดังกล่าวถือได้ว่าไทย คือประเทศแรกในเอเชียที่นำสูตรอาหารของ ฟลอยด์มาให้บริการ และจะเปิดให้บริการเฉพาะในห้องอาหาร ฟลอยด์ ของโรงแรมบุราส่าหรี จังซีลอน จังหวัดภูเก็ตเท่านั้น โดยในเดือนกันยายนนี้ ฟลอยด์ ได้เดินทางเข้ามาประเทศไทย เพื่อเตรียมรรายการอาหาร ที่คัดสรรแล้วว่าเหมาะกับนักท่องเที่ยว ไลฟสไตล์ และสถานที่ จากนั้น จะเดินทางเข้ามาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อการฝึกอบรมและเปิดให้บริการร้านอาหาร ฟลอยด์ ในช่วงต้นปี 2549 เพื่อเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ นางสาวลิลลี่กล่าวและเพิ่มเติมว่า
การที่ บุราส่าหรี จังซีลอน เชื่อมั่นว่าสูตรอาหารของ คีธ ฟลอยด์ จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวจากนานาชาติได้เป็นอย่างดี ก็เนื่องจาก คีธ ฟลอยด์ นับเป็นเชฟระดับโลก ที่มีผู้รู้จักอยู่เป็นจำนวนมาก โดย คีธ ฟลอยด์ มีรายการโทรทัศน์ที่เผยแพร่อยู่มากถึง 23 รายการด้วยกัน และยังเป็นเจ้าของหนังสือติดอันดับขายดีอีกจำนวน 26 เล่ม ซึ่งมีการเผยแพร่อยู่ในหลายประเทศทั่วโลก และจะมีการนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยในอนาคตอันใกล้ นอกจากนี้ คีธ ฟลอยด์ เป็นเชฟที่ชอบเดินทางผจญภัยไปยังประเทศต่างๆ เพื่อค้นหาสูตรอาหาร โดยจุดเด่นที่สำคัญคือ สามารถผสมผสานเคล็ดลับความอร่อยของอาหารประเภทต่างๆ จากศาสตร์ตะวันตกและตะวันออกได้อย่างกลมกลืน ซึ่งเป็นที่มาของสูตรอาหารในสไตล์อันดามันของ ฟลอยด์ ที่จะนำมาให้บริการในประเทศไทย ทั้งนี้ จากประสบการณ์และการยอมรับในระดับนานาชาติแล้ว ทำให้เชื่อมั่นว่าจะได้รับความสนใจ และช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ที่เข้ามาท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ตมากขึ้นอย่างแน่นอน นอกจากนี้ การเปิดห้องอาหาร “ Floyd’s Brasserie” ถือเป็นจุดเริ่มต้น ซึ่งหากได้รับการตอบรับที่ดี อาจมีการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อขยายสู่พื้นอื่นๆ ในประเทศไทย รวมทั้ง การขยายไปสู่ประเทศอื่นๆ ที่อยู่ในแถบเอเชีย นางสาวลิลลี่ กล่าวในที่สุด