TWZ เคาะขายไอพีโอ 3.80 บาท เตรียมเสนอขาย 7-9 พ.ย.

3 พฤศจิกายน 2548 – บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TWZ) หนึ่งในผู้นำในการจำหน่ายและให้บริการต่างๆ เกี่ยวกับโทรศัพท์เคลื่อนที่และอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคม ประกาศราคาไอพีโอ 3.80 บาทต่อหุ้น เปิดจอง 7 – 9 พฤศจิกายนนี้ แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ ไซรัส จำกัด (มหาชน) (SYRUS) เป็นแกนนำผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ พร้อมกำหนดเข้าเทรดวันแรก 18 พฤศจิกายนนี้

นายพุทธชาติ รังคสิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TWZ เปิดเผยว่า บริษัทฯ จะทำการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป (ไอพีโอ) จำนวน 60 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 25 ของทุนจดทะเบียน ในราคาหุ้นละ 3.80 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยจะทำการเสนอขายในวันที่ 7-9 พฤศจิกายน 2548 และคาดว่าจะสามารถเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในหมวดสื่อสารวันที่ 18 พฤศจิกายน 2548 โดยใช้ชื่อว่า “TWZ”

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ โดยมีผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 10 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จำนวน 228 ล้านบาท บริษัทฯ จะนำไปใช้ในการขยายสาขาและศูนย์บริการในปี 2548 -2549 จำนวน 30-40 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดเพิ่มอีก 13 สาขาภายในสิ้นปี 2548 และนำไปใช้พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อรองรับการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคตประมาณ 10 ล้านบาท ใช้ชำระเงินกู้ยืม 50 ล้านบาท ส่วนที่เหลือประมาณ 128 ล้านบาท จะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

“ทีดับบลิวแซดมีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า การนำหุ้นของบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในครั้งนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากตลาดของอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมมีมูลค่ามหาศาล อีกทั้งยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องมาตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา และยังมีแนวโน้มว่าจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องต่อไป เนื่องจากการพัฒนาด้านเทคโนโลยีของผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ รวมถึงประสบการณ์ในการทำธุรกิจของทีดับบลิวแซด ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้บุกเบิกวงการจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไทย ทำให้บริษัทฯ มีผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 40 เปอร์เซ็นต์ต่อปี โดยรายได้รวมของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 935 ล้านบาท ในปี 2545 เป็น 1,422 ล้านบาท ในปี 2546 และเป็น 1,909 ล้านบาท ในปี 2547 และเป็น 1,581 ล้านบาท สำหรับครึ่งปีแรกปี 2548 ในขณะเดียวกันกำไรสุทธิของบริษัทฯ ก็เพิ่มขึ้นมาโดยตลอดเช่นกัน จากกำไรสุทธิจำนวน 4 ล้านบาท ในปี 2545 เป็นจำนวน 16 ล้านบาท ในปี 2546 จำนวน 58 ล้านบาท ในปี 2547 และ จำนวน 52 ล้านบาท สำหรับครึ่งปีแรกปี 2548” นายพุทธชาติ กล่าว

ด้านนายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ไซรัส จำกัด (มหาชน) กล่าวในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของทีดับบลิวแซดว่า “บริษัทฯ ได้กำหนดราคาเสนอขายที่ 3.80 บาทต่อหุ้น โดยใช้วิธีเปรียบเทียบกับราคาตลาดที่สามารถอ้างอิงได้ (Market Comparable) โดยพิจารณาถึง P/E เฉลี่ยของหุ้นในกลุ่มสื่อสาร รวมทั้งยังพิจารณาถึงปัจจัยพื้นฐาน ศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ และความสามารถแข่งขันของบริษัทฯ โดยจุดเด่นของบริษัทฯ นอกจากจะอยู่ที่ประสบการณ์ของผู้บริหารที่มีความเข้าใจอุตสาหกรรมมือถือเป็นอย่างดีแล้ว ทีดับบลิวแซดยังมีความสามารถในการทำกำไรที่อยู่ในระดับสูงเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ประกอบการรายอื่น ซึ่งไซรัสมีความเชื่อมั่นว่าหุ้นของบริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จะได้รับความสนใจและการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างแน่นอน”

ปัจจุบันบริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในผู้นำในการจำหน่ายและให้บริการต่างๆ เกี่ยวกับอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคม ซึ่งประกอบไปด้วยโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซิมการ์ด บัตรเติมเงิน และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ทั้งขายปลีกและขายส่ง มีสาขาทั้งหมดจำนวน 26 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่มีศักยภาพสูงทั่วกรุงเทพมหานคร โดยแบ่งเป็น “เทเลวิซ” 19 สาขา “TWZ Shop” 5 สาขา “M Shop” 1 สาขา และ “Nokia Shop” อีก 1 สาขา นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีตัวแทนจำหน่ายกว่า 300 รายทั่วประเทศ

บริษัทฯ ถือเป็นผู้ประกอบการที่มีร้านเทเลวิซมากที่สุดในประเทศ และร้านเทเลวิซของบริษัทฯ ยังได้รับรางวัลจากเอไอเอส มาโดยตลอดกว่า 10 ปี นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีส่วนแบ่งทางการตลาดในการจดทะเบียนซิมการ์ดระบบโพสต์เพดสูงสุด ทำให้ได้รับการสนับสนุนจากเอไอเอสอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งบริษัทฯ ถือเสมือนเป็น Marketing Arm ที่สำคัญของกลุ่มชินคอร์ปอเรชั่น ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการเพิ่มรายได้ในอนาคต