เก้าอี้นวด "RESTER" รักษาแชมป์เจ้าตลาด 3 ปีซ้อนกวาดแชร์กว่า 50 %

“เก้าอี้นวดเรสเตอร์” เผยหลังงัดกลยุทธ์พันธมิตรธุรกิจ (Strategic Alliance) พร้อมอัดแคมเปญส่งเสริมการตลาดทิ้งท้ายปีกว่า 10 ล้านบาท ยังสามารถครองแชมป์ตลาดเก้าอี้นวดเพื่อสุขภาพในตลาด 300 ล้านบาท ได้กว่า 50% พร้อมเตรียมกลยุทธ์ไว้รับมือปีหน้า หวังขยายกลุ่มร.พ.เอกชน สปอร์ตคลับ ฟิตเนส สนามกอล์ฟ คาดแนวโน้มตลาดเก้าอี้นวดปีหน้าแข่งกันดุเดือดพร้อมสู้หวังโกยแชร์เพิ่มขึ้นอีก 5-10%

นายดำรงค์ วงษ์โชติปิ่นทอง ประธานกรรมการบริษัท วงษ์ อินเวนชั่น จำกัด ผู้จัดจำหน่ายและทำตลาดผลิตภัณฑ์เก้าอี้นวดและสินค้าเพื่อสุขภาพ ภายใต้แบรนด์ “RESTER” เปิดเผยว่า หลัง จากที่บริษัทฯ ได้ประสบความสำเร็จในการเป็นผู้นำตลาดเก้าอี้นวดเพื่อสุขภาพติดต่อกัน 3 ปีซ้อน สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดได้กว่า 50% หรือประมาณกว่า 150 ล้านบาท จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 300 ล้านบาท หลังจากในปีที่กำลังจะผ่านไปนั้น (2548) บริษัทฯ ได้นำกลยุทธ์พันธมิตรทางธุรกิจ (Strategic Alliance) มาใช้ โดยเล็งเห็นถึงผลประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภค และมุ่งพันธมิตรที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาล สถานออกกำลังกาย ฟิตเนส สปอร์ตคลับ สนามกอล์ฟ เป็นต้น ทั้งยังร่วมมือกับคลินิกกายภาพชื่อดัง ”ไคโรม่า คลินิก” (Chiroma Clinic) คลินิกนวดบำบัดเพื่อการจัดกระดูกและสุขภาวะองค์รวมแบบครบวงจร เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายให้ครอบคลุมทุกเซ็กเม้นต์

สำหรับทิศทางของตลาดสินค้าเพื่อสุขภาพในปี 2549 โดยเฉพาะเก้าอี้นวดเพื่อสุขภาพยังมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ประมาณร้อยละ 25 ต่อปี เพราะเทรนด์คนรักสุขภาพกำลังมาแรง แม้จะมีปัจจัยบ่งชี้หลายตัวถึงภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ทั้งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ภาวะเงินเฟ้อ หรือวิกฤตราคาน้ำมัน แต่กลับไม่มีผลกระทบต่อกำลังซื้อของลูกค้าเรามากนัก โดยในปีหน้านี้ตลาดรวมน่าจะทะลุ 350 ล้านบาท โดยที่ “RESTER” น่าจะครองส่วนแบ่งตลาดได้มากกว่า 50 % หรือคิดเป็นมากกว่า 180 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นยอดขายในกทม. 70 % และต่างจังหวัด 30 % และคาดว่า เก้าอี้นวด “RESTER” ยังคงรักษาแชมป์เจ้าตลาดเก้าอี้นวดสุขภาพได้อีกแน่นอน

ส่วนนโยบายการขยายสายผลิตภัณฑ์ เราใช้นโยบาย Family Health โดยจะครอบคลุมสินค้าที่เน้นเชิงป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ (Passive Safety) ซึ่งก็จะมีการแยกสายผลิตภัณฑ์ออกเป็น Series ต่าง ๆ อาทิเช่น H–Series, I–Series เป็นต้น และในส่วนแผนการตลาดในปีหน้านั้น เรายังคงเน้นการทำตลาดเชิงพันธมิตรมากขึ้น โดยมุ่งเน้นไปในลักษณะของ Cooperate Business ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาสุขภาพ เสริมสร้างพลานามัยที่ดี เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของผลิตภัณฑ์ที่กำลังจะออกมาในอนาคต

ในส่วนรูปแบบการทำกิจกรรมในปี 2549 นั้น เราเตรียมงบการทำตลาดไว้ประมาณ 40. ล้านบาท โดยแยกเป็น Below the line 20 ล้านบาท และ Above the line 20 ล้านบาท โดยจะเป็นการสนับสนุนสินค้าเรสเตอร์ให้แก่กลุ่มพันธมิตร เพื่อเป็นการยกระดับการให้บริการที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น และเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายของเรสเตอร์ได้มีโอกาสทดลองใช้สินค้าได้อย่างใกล้ชิดโดยผ่านฐานสมาชิกของพันธมิตรที่เข้าร่วมกิจกรรม พร้อมกับจัดโปรโมชั่นพิเศษต่าง ๆ ร่วมกัน เช่น โปรแกรมตรวจสุขภาพ หรือส่วนลดสำหรับสมาชิก Sports Club เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์จากเรสเตอร์