จากการสำรวจระดับการแพร่กระจายสารพิษภายในรถของศูนย์วิจัยนิเวศวิทยาเมืองดีทรอยท์ที่สำรวจจากรถยนต์ 11 ยี่ห้อที่ผลิตในช่วงปี พ.ศ. 2543 ถึง 2548 ได้ยกให้การตกแต่งภายในรถของรถวอลโว่เป็นรถที่มีระดับการแพร่กระจายของสารพิษภายในห้องโดยสารต่ำที่สุดซึ่งจะทำให้ผู้โดยสารได้รับอากาศที่บริสุทธิ์ที่สุดหากเทียบกับผู้ผลิตรถยนต์ยี่ห้ออื่นๆ
ผลการสำรวจเปิดเผยว่า ปัจจุบันคนส่วนใหญ่หมดเวลาไปกับการใช้ชีวิตอยู่ในรถ ทำให้การตกแต่งภายในห้องโดยสารรถยนต์ต้องคำนึงถึงสุขภาพของผู้โดยสารเป็นสำคัญ เนื่องจากความเข้มข้นของสาร PBDE (Polybrominated diphenyl ethers) ในฝุ่นละอองและบนกระจกหน้ารถนั้นสามารถเก็บกักสารพิษได้สูงกว่าบ้านเรือนถึง 5 เท่า วอลโว่จึงเป็นรถที่มีระดับค่าของสาร PBDE (Polybrominated diphenyl ethers) ต่ำกว่ารถยี่ห้ออื่นๆ จึงทำให้วอลโว่เป็นผู้นำโลกในด้านระบบหมุนเวียนอากาศภายในรถยนต์ โดยศูนย์วิจัยนิเวศวิทยาได้สนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นใช้วอลโว่เป็นกรณีศึกษา
“วอลโว่ให้ความใส่ใจในทุกรายละเอียดรวมถึงอากาศบริสุทธิ์ในรถเพราะปัจจุบันเราพบว่าคนส่วนใหญ่เป็นโรคภูมิแพ้และโรคหืดหอบกันมาก” แอนเดอร์ส เคอร์เบิร์ก ผู้อำนวยการด้านสิ่งแวดล้อมของวอลโว่คาร์กล่าว วอลโว่ทำการศึกษาระบบการถ่ายเทอากาศภายในห้องโดยสารมาเป็นเวลาหลายปีเพื่อให้เหมาะกับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้และโรคหืดหอบ และเพื่อให้ได้มาตรฐานการผลิตของวอลโว่ การเลือกสรรวัสดุในการผลิตจึงเป็นองค์ประกอบสำคัญเพื่อการกรองอากาศที่สมบูรณ์แบบ
“วัสดุในการผลิตประเภทผ้าและเครื่องหนังที่ใช้ภายในรถนั้นได้ผ่านการทดสอบและอยู่ในระดับมาตรฐานโลกซึ่งผู้ขับขี่มั่นใจได้ เรายังคงมุ่งมั่นศึกษาและพัฒนาให้สารพิษต่างๆ หมดไปโดยสิ้นเชิง ระบบการหมุนเวียนอากาศ IAQS (Interior Air Quality System) ของวอลโว่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยทำให้อากาศภายในห้องโดยสารบริสุทธิ์และลดอัตราเสี่ยงอาการแพ้อากาศภายในรถ” แอนเดอร์ส เคอร์เบิร์ก กล่าวสรุปในตอนท้าย