นายสมนึก พจน์เกษมสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สยามฟิวเจอร์ฯ โฟกัสธุรกิจไปที่การพัฒนาพื้นที่สำหรับค้าปลีก ประเภท คอมมูนิตี้ มอลล์ หรือ ช็อปปิ้ง มอลล์ เป็นหลัก โดยปัจจุบัน สยามฟิวเจอร์ฯ มีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 24 แห่ง ประกอบด้วย ท๊อป ซุปเปอร์มาร์เก็ต 4 แห่ง จัสโก้ 3 แห่ง บิ๊กซี 2 แห่ง โลตัส เอ็กเพรส 2 แห่ง วิลล่า มาร์เก็ต 2 แห่ง เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ 1 แห่ง และ ร้าน บี ควิก อีก 10 แห่ง มีผลประกอบการเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง วัดได้จากจำนวนพื้นที่ขายที่เติบโต 100 % ทุกปี โดยในปี 2546 มีพื้นที่ขายทั้งหมดประมาณ 30,000 ตารางเมตร ในปี 2547 มีพื้นที่ทั้งหมด 60,000 ตารางเมตร ในปี 2548 มีพื้นที่ทั้งหมด 120,000 ตารางเมตร และในปี 2549 เมื่อเปิด ไลฟ์สไตล์ ช็อปปิ้ง เซ็นเตอร์ ทั้ง 3 แห่งเรียบร้อยแล้ว จะมีพื้นที่สำหรับขายสินค้าทั้งสิ้น 240,000 ตารางเมตร
“ปัจจุบัน ไลฟ์ สไตล์ ของผู้บริโภคชาวไทยเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ศูนย์การค้าที่เกิดขึ้นใหม่ ในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา ล้วนปรับตัวให้เข้ากับรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้บริโภคในยุคใหม่ ไลฟ์สไตล์ ช็อปปิ้ง เซ็นเตอร์ ใหม่นี้ก็เช่นเดียวกัน จะฉีกรูปแบบเดิมจากที่เราเคยทำมา เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน และในอนาคต โดย ไลฟ์สไตล์ ช็อปปิ้ง เซ็นเตอร์ ทั้ง 3 แห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ถนนรัชดาภิเษก บนพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ ถนนแจ้งวัฒนะ พื้นที่ประมาณ 15 ไร่ และ ที่ พัทยา พื้นที่ประมาณ 15 ไร่ มีรูปแบบที่ทันสมัย พร้อมพื้นที่ขายขนาดใหญ่ ที่จอดรถกว้างขวาง สะดวกสบาย มีสินค้าครบครัน ที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า โดยยึดรูปแบบการพัฒนามาจากต่างประเทศ และปรับให้เข้ากับผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้ ทั้ง 3 แห่ง จะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปีนี้” นายสมนึก กล่าว
